หลักสุจริต(Good Faith)
ความหมายของหลักสุจริต
กฎหมายโรมัน ่ ตย ์
แปลว่า ซือสั
ภาษาเยอรมัน แปลว่า ความ
่ ตย ์และความไว้วางใจ
ซือสั
พจนานุ กรมฉบับ
ราชบัณฑิตยสถาน อธิบายคาว่า
“สุจริต” หมายความถึง ประพฤติ
้ั
ชอบ ประพฤติดว้ ยตงใจดี
ื่
ประพฤติซอตรง
ศาสตราจารย ์ ดร. หยุด แสงอุทย ั
อธิบายว่า “จุดมุ่งหมายแท้จริงของ
หลักสุจริตคือ ความยุตธ ิ รรมภายใน
หรือความยุตธ ิ รรมตามเนื อเรื ้ อง
่
(substantial justice) ร ัฐจะต้อง
ออกข้อบังคับของกฎหมายและการ
วินิจฉัยคดีให้สอดคล้องกับ
มาตรฐานแห่งความยุตธ ้
ิ รรม ด ังนัน
่
จึงเป็ นภาระหน้าทีของผู ใ้ ช้
กฎหมายต้องวินิจฉัยตามหลัก
ศาสตราจารย ์ ดร. ปรีด ี เกษม
ทร ัพย ์ อธิบายว่า “หลักสุจริตเป็ น
รากฐานของกฎหมายแพ่งทังระบบ ้
มีจดุ มุ่งหมายหรือเจตนารมณ์ เพือ ่
สร ้างความเป็ นธรรมแก่สงั คม เป็ น
่
หลักกฎหมายเพือความยุ ตธ
ิ รรม
เป็ นหลักความซือสั่ ตย ์และความ
่ อาจอธิบายให้ช ัดเจน
ไว้วางใจทีไม่
ในรายละเอียดได้
่
แนวคิดเรือง สุ จริ
ต
่
แนวความคิดเกียวกับหลักสุจริตมีมาตงแต่ ้ั
สมัยโบราณ มีความมุ่งหมายทีจะให้ ่ มนุ ษย ์
อยู ่รว่ มกันได้ดว้ ยความสงบสุข หลักสุจริตมี
รากฐานมาจากหลักคุณธรรมและจริยธรรม
ตลอดจนความเชือทางศาสนา ่
นักปราชญ ์ในสมัยโรมันเช่น Cicero ถือว่า
หลักสุจริตเป็ นหัวใจและสาระสาคัญของ
กฎหมายแพ่ง เห็นว่าหลักสุจริตคือพืนฐาน ้
แห่งความยุตธ ่
ิ รรม เป็ นหลักทัวไปของ
กฎหมายแพ่งทีน ่
่ ามาใช้ เพือให้ เกิดความ
ยุตธ ิ รรมและเป็ นธรรมอย่างแท้จริง
่
ต่อมาหลังจากทีอาณาจักรโรมั นล่มสลาย
หลักสุจริตในกฎหมายไทย
การปฏิรูปกฎหมายและระบบศาลเมือต้ ่ นศตวรรษที่
20 กฎหมายไทยได้ร ับอิทธิพลจากแนวคิดของ
ประเทศตะว ันตกมากขึน ้ ศาลไทยได้พฒ ั นาหลัก
คุม ่
้ ครองการได้มาซึงกรรมสิ ์
ทธิโดยสุ จริตมากขึน ้
แนวคาพิพากษาของศาลฎีกาในสมัยนันให้ ้ ความ
คุม้ ครองแก่ผูส้ ุจริตโดยการใช้หลักกฎหมายปิ ดปาก
(Estoppel) มิให้เจ้าของทร ัพย ์ทีได้ ่ กอ ่ ให้เกิด
พฤติการณ์ทท ี่ าให้คนทังหลายเข้
้ าใจไปว่าผู โ้ อน
่
ซึงครอบครองทร ้
ัพย ์นันอยู ่เป็ นผู ม
้ ส ี ทิ ธิย่อมต้องถู ก
ปิ ดปากมิให้ใช้สท ิ ธิเรียกคืนทร ัพย ์จากผู ท ี่
้ ได้
ทร ัพย ์สินไปโดยสุจริต
ความสาคัญของหลักสุจริต
่ นรากฐานของกฎหมายแพ่งทังระบบ
เป็ นหลักทีเป็ ้
่ เพือเสริ
เป็ นหลักการทีใช้ ่ ม ให้กฎหมายหรือสัญญา
มีความสมบู รณ์ยงขึ ิ่ น ้ แม้สญ ั ญาหรือกฎหมายไม่ได้
กาหนดไว้โดยตรงก็สามารถใช้หลักสุจริตได้ เพือ ่
่ จริงแห่งนิ ตส
บรรลุว ัตถุประสงค ์ทีแท้ ิ ม ้
ั พันธ ์นันๆได้
เช่น การตีความสัญญาตามมาตรา 368 แห่ง ป.
พ.พ.
่
เพือปรุ ้
งแต่งเนื อหาแห่ งนิ ตส
ิ มั พันธ ์ระหว่างคู ่กรณี
ให้สอดคล้อง ก ับพฤติการณ์ใหม่ทเปลี ี่ ่
ยนแปลงไป
่
เป็ นหลักเพือให้ ศาลสามารถใช้ดุลพินิจให้เกิดความ
เป็ นธรรมได้
ประเภทของหลักสุจริต
่
หลักสุจริตทัวไป
หลักสุจริตเฉพาะ
่
เรือง
่
หลักสุจริตทัวไป
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิ ชย ์ มาตรา 5
บัญญัตวิ า่ “ในการใช้สท ิ ธิแห่งตนก็ด ี ในการ
้ ด ี ท่านว่าบุคคลทุกคนต้องกระทา
ชาระหนี ก็
โดยสุจริต”
เป็ นรากฐานของกฎหมายแพ่งทังระบบ ้ และ
เป็ นหลักทางกฎหมายทีมี ่ ความสาค ัญยิง่
เพราะเป็ นหลักกฎหมายยุตธ ิ รรม มีความมุ่ง
หมายเพือให้่ เกิดความเป็ นธรรมและความ
ถูกต้องชอบธรรม
่ บงั ค ับในการใช้สท
เป็ นหลักทีใช้ ิ ธิหรือชาระ
้
หนี ทางแพ่ ่ ไปของบุคคล
งโดยทัวๆ
่ ามาใช้ในกรณี ท ี่
เป็ นหลักทีน
ฎหมายหรือข้อตกลงระหว่างกันมิได้
กาหนดรายละเอียดถึงการปฏิบต ั ต
ิ อ
่ กัน
ไว้อย่างไรก็ ให้ถอ
ื เอาความสุจริตเป็ น
่ ง้
ทีตั
“บุคคลผู ม
้ าศาลต้องมาด้วยมือสะอาด”
(He who comes to the court must come with clean
hands) ่ คคลใช้สท
หมายถึง การทีบุ ิ ธิหรือ
บังคับตามสิทธิของตนทีเกิ่ ดขึนมาแล้
้ ว
้
นันจะต้ ้
องใช้โดยสุจริต มิฉะนันศาลจะ
้ั
ไม่ร ับรองสิทธินนหรือไม่ร ับบังคับให้
มาตรา 5 เป็ นบทบัญญัตท ิ เป็ี่ น
หลักความซือสั ่ ตย ์และความ
ไว้วางใจ
เป็ นบทครอบจักรวาลและเป็ น
กฎหมาย “หลักทัวไป” ่ แม้จะมี
บทบัญญัตข ิ องกฎหมายเกียวกับ ่
่
เรืองนั ้
นอยู ่แล้ว หลักตามมาตรา
5 ก็ยงั ใช้เป็ นมาตรฐานเพือชี ่ ้
ขาดว่าการกระทาตาม
้
บุคคลจะต้องมีความสุจริตอยู ่ 2
ประการ คือการใช้สท
ิ ธิและการ
ชาระหนี ้
1) การใช้สท ิ ธิ สิทธิ (right)
หมายถึงอานาจอ ันชอบธรรมที่
บุคคลอาจกล่าวอ้างเพือใช้ ่ ยนั
บุคคลอืน ่ เพือคุ
่ ม ้ ครองหรือร ักษา
ประโยชน์อ ันพึงมีพงึ ได้ของตน
สิทธิตามกฎหมายแพ่งแบ่งออก
ได้เป็ น 2 ประเภทคือ
(1) บุคคลสิทธิ ์ (right in personam) หรือ
สิทธิทางหนี ซึ ้ งผู
่ ท ้ รงสิทธิมส ี ท
ิ ธิเรียกร ้อง
เหนื อบุคคลอืนที ่ เป็
่ นลู กหนี ให้
้ กระทาการ งด
เว้นกระทาการ หรือส่งมอบทร ัพย ์สินทีเป็ ่ น
วัตถุแห่งหนี ให้้ ก ับตน บุคคลสิทธิหรื ์ อสิทธิ
ทางหนี มี ้ บ่อเกิดมาจากนิ ตก ิ รรมสัญญา
ละเมิดจัดการงานนอกสัง่ ลาภมิควรได้ และ
บทบัญญัตข ิ องกฎหมาย
การใช้สท ิ ธิในกรณี นีผู ้ ท
้ รงสิทธิอาจใช้สท ิ ธิ
้
เรียกร ้องให้ลูกหนี ชาระหนี ้ แก่ตนโดยตรง
ให้
หรือฟ้องร ้องต่อศาล เพือให้ ่ ศาลบังค ับให้
้ าระหนี ก็
ลู กหนี ช ้ ได้
(2) ทร ัพยสิทธิ (right in rem) หรือ
สิทธิทางทร ัพย ์ ทร ัพยสิทธิเป็ นสิทธิท ี่
กฎหมายร ับรองให้บุคคลมีอานาจเหนื อ
ทร ัพย ์สินของตน โดยมีวต ั ถุแห่งสิทธิ
เป็ นทร ัพย ์สิน สิทธิทเป็ี่ นทร ัพย ์สิทธิ ์ มี
ลักษณะถาวรและใช้ยน ่
ั บุคคลทัวไปได้
โดยไม่จากัด เช่น ผู ม ้ ก ี รรมสิทธิใน ์
ทร ัพย ์สิน ย่อมมีอานาจเหนื อทร ัพย ์สิน
ของตนในการจาหน่ ายจ่ายโอน ใช้สอย
ได้ดอกผล ติดตามเอาคืนและขัดขวางมิ
่
ให้บุคคลอืนมายุ ่
่งเกียวกั บทร ัพย ์สินของ
้
2) การชาระหนี ้ หรือการปฏิบต ั ห ิ น้าที่
(Duty) ของลู กหนี ้
้ อความผู กพันทีลู
หนี คื ่ กหนี มี้ ตอ ่ เจ้าหนี ้
่
ทีจะต้ ้
องชาระหนี ตามมู ลแห่งหนี ที ้ ่
เกิดขึน ้ ไม่วา
่ จะเป็ นมู ลหนี ที ้ มี
่ วต ั ถุแห่ง
หนี ้ เป็ นการกระทาการ การงดเว้น
กระทาการ หรือส่งมอบทร ัพย ์สิน
ในการชาระหนี ้ เพือให้ ่ หลุดพ้นจาก
ความผู กพันทีมี ่ ตอ ่ เจ้าหนี ้ การชาระหนี ้
จะสมบู รณ์และทาให้หนี เป็ ้ นอ ันระงับไป
ก็ตอ ่ คคลผู ช
่ เมือบุ ้ าระหนี ได้้ กระทาการ
หลักสุจริตตามมาตรา 6 และมาตรา
368 ของประมวลกฎหมายแพ่งและ
พาณิ ชย ์
หลักสุจริตตามมาตรา 6 บัญญัตวิ ่า
“ท่านให้สน ั นิ ษฐานไว้กอ่ นว่าบุคคลทุก
คนกระทาการโดยสุจริต”
่ กฎหมายให้เกิด สิทธิหรือเกิดผล
เมือมี
อย่างหนึ่ งอย่างใด โดยอาศ ัยความสุจริต
ของบุคคลแล้ว บุคคลผู อ ้ า้ งเอาสิทธิหรือ
้
ผลนันไม่ ตอ ้ งนาสืบถึงความสุจริตของ
ตน ฝ่ายทีอ้ ่ างว่าเขาไม่สุจริตต้องเป็ น
ผู น
้ าสืบ โดยกฎหมายสันนิ ษฐานว่าเขา
มาตรา 368 บัญญัตไิ ว้วา
่ “สัญญานัน้
ท่านให้ตค ี วามตามความประสงค ์
ในทางสุจริตโดยพิเคราะห ์ถึงปกติ
ประเพณี ดว้ ย”
คือการแสดงเจตนาในสัญญาจะต้อง
ตีความโดยถือเอาเจตนาอันแท้จริงของ
คู ส
่ ญั ญาโดยถือหลักความเข้าใจของ
้
ทังสองฝ ่ าย จะตีความโดยคานึ งถึงแต่
เจตนาของฝ่ายหนึ่ งฝ่ายใดเพียงฝ่าย
เดียวมิได้
ต้องตีความไปตามประสงค ์โดยสุจริต
่ ่
่
หลักสุจริตเฉพาะเรือง
่ ม
เพือคุ ้ ครองผู ส้ ุจริตในกรณี ตา ่ งๆ
◦ 1. การคุม้ ครองผู ส ้ ุจริตและต้องเสียหายจากการ
แสดงเจตนาบกพร่อง (มาตรา 155 และ 160)
◦ 2. การคุม ้ ครองบุคคลภายนอกผู ส ้ ุจริตจากการ
โอนสิทธิเรียกร ้อง (มาตรา 303 วรรคสอง)
้
◦ 3. การชาระหนี จะสมบู ่ คคลผู ช
รณ์เมือบุ ้ าระหนี ้
ได้กระทาโดยสุจริต (มาตรา 216)
◦ 4. การคุม ้ ครองผู ท ี่ ทร ัพย ์สินอ ันเป็ นลาภมิ
้ ได้
ควรได้ไว้โดยสุจริต (มาตรา 412, 413 และ
415)
5. การคุม ้ ครองผู ท ี่ กรรมสิทธิใน
้ ได้ ์
อสังหาริมทร ัพย ์หรือทร ัพยสิทธิอนใน ื่
อสังหาริมทร ัพย ์ โดยการจดทะเบียนการ
ได้มาโดยสุจริต (มาตรา 1299 และ มาตรา
1300)
6. การคุม ้ ครองผู ท ี่ มาซึงกรรมสิ
้ ได้ ่ ์
ทธิใน
สังหาริมทร ัพย ์ โดยการครอบครองสุจริต
ในกรณี มท ี่
ี การขายต่ อหลายราย (มาตรา
1303)
7. การคุม ้ ครองผู ส ้ ร ้างโรงเรือนในทีดิ ่ นของ
ผู อ ื่
้ นหรื
อสร ้างรุกลาเข้ ้ ่ นของผู อ
าไปในทีดิ ื่
้ น
โดยสุจริต (มาตรา 1310 และ 1312)
่
8. การได้มาซึงกรรมสิ ์
ทธิในสังหาริมทร ัพย ์
โดยสุจริตในพฤติการณ์พเิ ศษ เช่น
◦ 1) การได้มาซึงทร ่ ัพย ์สินโดยมีคา ่ ตอบแทนและ
โดยสุจริตซึงผู่ โ้ อนทร ัพย ์สินให้นนได้้ั ทร ัพย ์สิน
้
นันมาโดยนิ ตก
ิ รรมอ ันเป็ นโมฆียะและนิ ตก ิ รรม
้
นันได้ ถูกบอกล้างภายหลังจากทีผู ่ ส ้ ุจริตได้ทร ัพย ์
้
นันมาแล้ ว (มาตรา 1329)
◦ 2) การได้มาโดยซือทร ้ ัพย ์สินโดยสุจริตในการ
ขายทอดตลาดตามคาสังศาลหรื ่ ่ า
อคาสังเจ้
พนักงานร ักษาทร ัพย ์ในคดีลม ้ ละลาย (มาตรา
1330)
่ นตราโดยสุจริต (มาตรา
3) การได้มาซึงเงิ
้
1331) รวมทังการได้ ่ วเงิ
มาซึงต ๋ ั นหรือเช็ค
(มาตรา 905)
4) การได้มาโดยสุจริตในการซือทร ้ ัพย ์สิน
จากการขายทอดตลาดหรือในท้องตลาด
่
หรือจากพ่อค้าซึงขายของชนิ ดนัน ้ ในกรณี
นี ้ แม้กฎหมายจะถือว่าผู ซ ื้
้ อโดยสุ จริตไม่ได้
กรรมสิทธิ ์ แต่ผูซ ื้
้ อโดยสุ จริตก็มส ี ทิ ธิเรียกให้
เจ้าของแท้จริงชดใช้ราคาทีตนผู ่ ซ ื้
้ อทร ัพย ์
้
นันมา (มาตรา 1332) หรือมีสท ิ ธิเรียกให้
่ จริงออกเงินไถ่ทร ัพย ์นันได้
เจ้าของทีแท้ ้
หลัก “ ผู ร้ ับโอนโดยสุจริตมีสท
ิ ธิดก
ี ว่าผู โ้ อน”
“หลักผู ร
้ ับโอนไม่มส
ี ท
ิ ธิดก
ี ว่าผู โ้ อน”
คือ หากผู โ้ อนสิทธิไม่มส ี ท ้ รี่ ับ
ิ ธิ ผู ท
โอนมาก็ย่อมไม่มส ี ทิ ธิดว้ ย
คุม้ ครองประโยชน์ของบุคคลทีสาม ่
แม้ผูโ้ อนจะไม่มส ี ทิ ธิแต่หากผู ร้ ับ
โอนสุจริต กฎหมายก็ให้การ
คุม
้ ครองให้ผูร้ ับโอนได้สท ี่
ิ ธิทโอนมา
การใช้ดุลพินิจของศาลในหลัก
สุจริต
ต้องถู กต้องชอบธรรม ไม่ใช้เกิน
ขอบเขต
ต้องไม่พราเพื่ ่ จนไม่สามารถ
อ
กาก ับดุลพินิจได้
ใช้ตอ ่ ความจาเป็ น
่ เมือมี
ใช้ดว ้ ยความระมัดระว ัง รอบคอบ
เหมาะสม เป็ นธรรม
ผู ใ
้ ช้ตอ้ งมีความรู ้และประสบการณ์
หลักการขัดต่อความสงบเรียบร ้อย
และศีลธรรมอันดีของประชาชน
ความสงบเรียบร ้อยและศีลธรรมอ ันดี
่
ของประชาชน คือ การอ ันเกียวกั
บ
่ั
ประโยชน์ทวไปของประชาชน
◦ ความสงบเรียบร ้อยในทางการเมือง การ
ปกครอง
◦ ความสงบเรียบร ้อยในทางครอบคร ัว
◦ ความสงบเรียบร ้อยในทางวิชาชีพ
◦ ความสงบเรียบร ้อยในทางเศรษฐกิจ
• เป็ นดุลพินิจของศาล
สิทธิและการใช้ส่ ท
ิ ธิ
สิทธิ หมายถึง อานาจอ ันชอบธรรมทีบุคคล
สามารถใช้ยนั ต่อผู อ ื่
้ นเพื ่ ม
อคุ ้ ครองหรือร ักษา
้
ผลประโยชน์อ ันเป็ นส่วนทีพงึ มีพงึ ได้ของบุคคลนัน
่
สิทธิจะต้องเป็ นความชอบธรรม คือ เป็ นเรืองของความ
ถู กต้อง
สิทธิจะต้องมีบุคคลเป็ นผู ท ้ รงสิทธิ คือเป็ นบุคคลธรรมดาหรือ
นิ ตบ
ิ ุคคลหรือมีสภาพบุคคล
สิทธิจะต้องเป็ นสิงที่ ยั
่ นก ับบุคคลอืนได้
่ คือใช้ยน ั กับบุคคลอีก
่ หน้าทีได้
ฝ่ายซึงมี ่
้
สิทธิจะต้องมีเนื อหา คือ ผลประโยชน์ทจะคุ ี่ ม
้ ครองร ักษา
เช่น ทร ัพย ์สิน กรรมสิทธิ ์
ประเภทของสิทธิ
สิทธิในบุคคลภาพ
◦ สิทธิในชีวต
ิ ร่างกาย
◦ สิทธิในชีวติ ส่วนตวั
่ ยง เกียรติยศ
◦ สิทธิในชือเสี
◦ สิทธิในความคิดเห็น
◦ สิทธิในครอบคร ัว
◦ สิทธิทางการเมือง เศรษฐกิจและ
สังคม
่
สิทธิเกียวกับทร ัพย ์สิน
ี่
◦ ทร ัพยสิทธิ เป็ นสิทธิทกฎหมาย
ร ับรองให้บุคคลมีอานาจเหนื อ
ทร ัพย ์สินของตนเอง ทาให้บุคคล
่
อืนๆมี ่
หน้าทีงดเว้ นไม่กระทาการ
ใดๆอ ันเป็ นการละเมิดหรือรบกวน
การใช้สท ิ ธิของบุคคลนัน ้
◦ บุคคลสิทธิ คือสิทธิเรียกร ้อง
ในทางหนี ้ คือกระทาการหรืองด
เว้นกระทาการ
ทร ัพยสิทธิ
บุคคลสิทธิ
คาถาม
แดงเป็ นเจ้าของรถยนต ์
้ อจากแดง
ขาวซือเสื ้
ดามีสท ่ นแปลง
ิ ธิครอบครองในทีดิ
หนึ่ ง
้
เขียวทาสัญญาจะซือจะขายที ่ น
ดิ
ก ับม่วง
ฟ้าจ้างร ้านส้มต ัดชุดแต่งงานให้
ลักษณะสาคัญของทร ัพยสิทธิ
มีวต
ั ถุแห่งสิทธิเป็ นทร ัพย ์สินโดยตรง
ทร ัพยสิทธิเกิดโดยอานาจของ
กฎหมาย
ทร ัพยสิทธิกอ ่ บุคคล
่ ให้เกิดหน้าทีแก่
่
ทัวไป
ทร ัพยสิทธิจะติดตามตัวทร ัพย ์ไป
เสมอ
ทร ัพยสิทธิมลี ก
ั ษณะคงทน ถาวร
ลักษณะสาคัญของบุคคลสิทธิ
บุคคลสิทธิมว
ี ัตถุแห่งสิทธิเป็ น
การกระทาการหรืองดเว้นกระทา
การ
บุคคลสิทธิ เกิดจากบทบัญญัต ิ
ของกฎหมาย นิ ตก ิ รรม หรือนิ ต ิ
เหตุกไ็ ด้
่
บุคคลสิทธิ ก่อให้เกิดหน้าทีแก่
บุคคลเฉพาะเจาะจงเท่านัน ้