แมคโอเอส บิ๊กเซอร์
รุ่นของระบบปฏิบัติการmacOS | |
ผู้พัฒนา | Apple Inc. |
---|---|
ตระกูลระบบปฏิบัติการ | |
รหัสต้นฉบับ | Closed, with open source components |
พร้อมใช้งาน โดยทั่วไป | 12 พฤศจิกายน 2020[1] |
วิธีการอัปเดต | Software Update |
แพลตฟอร์ม | x86-64, ARM64[2] |
ชนิดเคอร์เนล | Hybrid (XNU) |
สัญญาอนุญาต | Proprietary software with open-source components and content licensed with APSL |
รุ่นก่อนหน้า | แมคโอเอส 10.15 คาทาลินา |
รุ่นถัดไป | แมคโอเอส 12 มอนเทเรย์ |
เว็บไซต์ทางการ | apple.com/macos/big-sur |
สถานะการสนับสนุน | |
Beta |
แมคโอเอส บิ๊กเซอร์ (อังกฤษ: macOS Big Sur) (เวอร์ชัน 11.0) [3] เป็นแมคโอเอสรุ่นที่สิบเจ็ด ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการของ Apple Inc. สำหรับคอมพิวเตอร์ Macintosh รุ่นต่อจาก macOS Catalina (เวอร์ชัน 10.15) ได้รับการประกาศในงาน Worldwide Developers Conference (WWDC) ของ Apple เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2563 โดยมีกำหนดวางจำหน่ายต่อสาธารณะในวันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563 [4][3][5] โดยในรุ่นนี้ ได้รับการตั้งชื่อตามพื้นที่ชายฝั่งของบิ๊กเซอร์ในชายฝั่งตอนกลางของแคลิฟอร์เนีย
แมคโอเอส บิ๊กเซอร์ นำเสนอการปรับการออกแบบการเชื่อมต่อผู้ใช้ครั้งใหญ่ นอกจากนี้ยังเป็นแมคโอเอสเวอร์ชันแรกที่รองรับ Mac ที่มีโปรเซสเซอร์ที่ใช้สถาปัตยกรรม ARM จากแอปเปิลซิลิคอน เป็นจุดที่แสดงการเปลี่ยนแปลงจำนวนรุ่นหลักของระบบปฏิบัติการได้เพิ่มขึ้นจาก 10 เป็น 11 เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เปิดตัว Mac OS X Public Beta ในปี ค.ศ. 2000 [6][7]
ความต้องการของระบบ
[แก้]- แมคบุ๊ก: รุ่นปี 2015 หรือใหม่กว่า
- แมคบุ๊ก โปร: รุ่นปี 2013 หรือใหม่กว่า
- แมคบุ๊ก แอร์: รุ่นปี 2013 หรือใหม่กว่า
- แมค มินิ: รุ่นปี 2014 หรือใหม่กว่า
- ไอแมค: รุ่นปี 2014 หรือใหม่กว่า
- ไอแมค โปร: รุ่นปี 2017 หรือใหม่กว่า
- แมคโปร: รุ่นปี 2013 หรือใหม่กว่า[8]
- ชุดอุปกรณ์พัฒนา Developer Transition Kit รุ่นปี 2020
สิ่งที่เพิ่มเข้ามาใหม่
[แก้]ในรุ่นนี้ ได้ทำการเปลี่ยนหน้าตา ยกดีไซน์ใหม่ไปใช้แบบใหม่ ดูสะอาดตามากยิ่งขึ้น พร้อมอัพเกรดไอคอนใหม่ด้วยเช่นกัน ถือว่าเป็นรุ่นที่เปลี่ยนการออกแบบใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ในรุ่น Mac OS X นอกจากนี้ ยังได้เปลี่ยนเสียงใหม่ด้วยเช่นกัน
Control Center
[แก้]เพิ่ม Control Center และเปลี่ยนหน้าตาของ Notification Center ใหม่ทั้งหมด และเพิ่มการควบคุมการใช้งาน ซึ่งจะคล้ายกับ ไอโอเอส และไอแพดโอเอส
เบราว์เซอร์ Safari
[แก้]เพิ่ม Privacy Report , เพิ่มความสามารถในการเปลี่ยนพื้นหลัง ในหน้าแรก และรองรับส่วนเสริมใน Safari นอกจากนั้น ยังให้มีการอัปเดตให้โหลดได้เร็วขึ้น และประหยัดพลังงานยิ่งขึ้น และเป็นรุ่นแรก ที่ได้นำเอา Adobe Flash Player ออกจากเบราว์เซอร์นี้
ปรับปรุงแอพพลิเคชั่น
[แก้]แอพพลิเคชั่น Maps , Photos , Messenge และอื่น ๆ ใหม่ทั้งหมด ให้หน้าตานั้น เหมือนกันกับไอแพดโอเอส ซึ่งรวมไปถึง Finder ที่ได้ปรับมาใหม่ด้วยเช่นกัน[9]
ตัวระบบปฏิบัติการ
[แก้]รองรับซีพียูบนสถาปัตยกรรม ARM จากแอปเปิลซิลิคอน
[แก้]ในรุ่นนี้ เป็นรุ่นแรกที่รองรับซีพียูบนสถาปัตยกรรม ARM อย่างเป็นทางการ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และประหยัดพลังงานสูงสุด ในทั้งนี้ ยังสามารถใช้กับซีพียู Intel ในสถาปัตยกรรม x86-64 ได้อยู่เช่นเคย และจะเปลี่ยนไปใช้สถาปัตยกรรม ARM สมบูรณ์ในอีก 2 ปี และยังส่งชุดอุปกรณ์พัฒนาที่คล้ายกับ Mac Mini มีนามว่า Developer Transition Kit หรือ DTK ซึ่งมีซีพียู Apple A12Z Bionic , ความจุแรม 16 GB , พื้นที่เก็บฮาร์ดดิสก์ SSD ความจุ 512 GB , ติดตั้ง macOS Big Sur ในรุ่นทดสอบสำหรับนักพัฒนา พร้อมโปรแกรม Xcode 12 มาให้ผู้พัฒนาใช้งานกัน
ส่วนในแอพพลิเคชั่นที่พัฒนาโปรแกรม หรือออกแบบมาเพื่อ x86-64 นั้น จะสามารถทำได้ดังนี้
- ใช้ Universal 2 เมื่อเปิดโปรเจกต์โปรแกรม บนใน Xcode 12 Beta ขึ้นไป จะให้ทำการแปลงแอพพลิเคชั่น เพื่ออัพเกรดให้รองรับ macOS ทั้งในสถาปัตยกรรม ARM และ x86-64 ได้
- ใช้ระบบแปลงไบนารี่ Rosetta 2 ที่ให้โปรแกรมที่สร้างในสถาปัตยกรรม x86-64 นั้น ให้สามารถรันบนในสถาปัตยกรรม ARM ได้
- เพิ่มระบบจำลอง ให้สามารถรันลินุกซ์ได้ พร้อมทั้งนี้ ยังรองรับแอพที่รันบนในไอโอเอส และไอแพดโอเอสได้อีกด้วย[10]
รองรับแอพที่รันบนในไอโอเอส และไอแพดโอเอส
[แก้]จากการรองรับซีพียูบนสถาปัตยกรรม ARM นั้น ยังสามารถเปิดหรือใช้งานแอพฯ ที่รันบนในไอโอเอส และไอแพดโอเอส โดยไม่ต้องแปลงหรือทำการใดๆ ในตัวแอพพลิเคชั่น
การอัปเดตระบบปฏิบัติการ
[แก้]การอัปเดตนี้ รองรับการอัพเกรดแบบทำงานในพื้นหลัง ก่อนทำการเริ่มระบบใหม่ เพื่อลดเวลาการอัปเดต
อ้างอิง
[แก้]- ↑ Rossignol, Joe (November 10, 2020). "Apple Releasing macOS Big Sur on November 12". MacRumors.
- ↑ Etherington, Darrell (June 22, 2020). "Apple is releasing a Mac mini with an Apple processor for developers starting this week". TechCrunch. สืบค้นเมื่อ July 20, 2020.
- ↑ 3.0 3.1 Heater, Brian. "Apple unveils macOS 11.0 Big Sur". TechCrunch. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 22, 2020. สืบค้นเมื่อ June 22, 2020.
- ↑ "Apple introduces macOS Big Sur with a beautiful new design" (Press release). Apple Inc. June 22, 2020. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 22, 2020. สืบค้นเมื่อ June 22, 2020.
- ↑ Carman, Ashley (2020-11-10). "Apple announces macOS Big Sur release date". The Verge (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2020-11-10.
- ↑ Rossignol, Joe (June 22, 2020). "macOS Big Sur Listed as 'Version 11.0' in System Preferences". MacRumors. สืบค้นเมื่อ June 24, 2020.
- ↑ Gruber, John (June 24, 2020). "The Talk Show Remote from WWDC 2020, With Craig Federighi and Greg Joswiak". Daring Fireball. สืบค้นเมื่อ June 25, 2020.
- ↑ "macOS Big Sur สามารถใช้งานได้กับคอมพิวเตอร์เหล่านี้". Apple. 24 พฤศจิกายน 2563. สืบค้นเมื่อ 27 พฤศจิกายน 2563.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|access-date=
(help)CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ Apple. "New features coming with macOS Big Sur". สืบค้นเมื่อ 23 มิถุนายน 2563.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ Apple. "Apple announces Mac transition to Apple silicon". สืบค้นเมื่อ 23 มิถุนายน 2563.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help)