สมเด็จพระราชาธิบดีฟีลิปแห่งเบลเยียม
บทความนี้อาจต้องการตรวจสอบต้นฉบับ ในด้านไวยากรณ์ รูปแบบการเขียน การเรียบเรียง คุณภาพ หรือการสะกด คุณสามารถช่วยพัฒนาบทความได้ |
สมเด็จพระราชาธิบดีฟีลิป | |||||
---|---|---|---|---|---|
พระมหากษัตริย์แห่งชาวเบลเยียม | |||||
ครองราชย์ | 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 – ปัจจุบัน (11 ปี 108 วัน) | ||||
ก่อนหน้า | สมเด็จพระราชาธิบดีอัลแบร์ที่ 2 | ||||
รัชทายาท | เจ้าหญิงเอลีซาแบ็ต ดัชเชสแห่งบราบันต์ | ||||
นายกรัฐมนตรี | เอลีโย ดี รูโป ชาร์ล มีแชล ซอฟี วีลแม็ส อเล็กซานเดอร์ เดอ ครู | ||||
พระราชสมภพ | 15 เมษายน พ.ศ. 2503 บรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม | ||||
คู่อภิเษก | มาตีลด์ ดูว์เดอแกม ดาโก (พ.ศ. 2542 – ปัจจุบัน) | ||||
พระราชบุตร รายละเอียด | |||||
| |||||
ราชวงศ์ | เบลเยียม | ||||
พระราชบิดา | สมเด็จพระราชาธิบดีอัลแบร์ที่ 2 | ||||
พระราชมารดา | สมเด็จพระราชินีเปาลา | ||||
ศาสนา | โรมันคาทอลิก | ||||
ลายพระอภิไธย |
ราชวงศ์เบลเยียม |
---|
|
สมเด็จพระราชาธิบดีฟีลิปแห่งเบลเยียม (ฝรั่งเศส: Sa Majesté le Roi Philippe des Belges; ดัตช์: Zijne Majesteit de Koning Filip der Belgen; เยอรมัน: Seine Majestät der König Philipp der Belgier; เสด็จพระราชสมภพ 15 เมษายน พ.ศ. 2503) เป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 7 แห่งราชอาณาจักรเบลเยียม เป็นพระราชโอรสพระองค์ใหญ่ในสมเด็จพระราชาธิบดีอัลแบร์ที่ 2 และสมเด็จพระราชินีเปาลาแห่งเบลเยียม ทรงสืบราชสมบัติขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 ภายหลังจากการสละราชสมบัติของสมเด็จพระราชบิดาอันเนื่องมาจากปัญหาพระพลานามัย โดยหลังจากการเสด็จขึ้นครองราชสมบัติเจ้าหญิงเอลีซาแบ็ต พระราชธิดาพระองค์ใหญ่ จึงดำรงพระราชอิสริยยศเป็น ดัชเชสแห่งบราบันต์ รัชทายาทพระองค์ต่อไปของเบลเยียม
ช่วงทรงพระเยาว์
[แก้]สมเด็จพระราชาธิบดีฟีลิปเสด็จพระราชสมภพเมื่อวันที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2503 ณ พระราชวังเบลเวแดร์ ในเมืองลาเคิน ทางตอนเหนือของกรุงบรัสเซลส์ พระราชบิดาคือสมเด็จพระราชาธิบดีอัลแบร์ที่ 2 ซึ่งขณะนั้นคือเจ้าชายแห่งลีแยช (พระราชโอรสพระองค์ที่ 2 ในพระเจ้าเลออปอลที่ 3 และพระอนุชาในสมเด็จพระราชาธิบดีโบดวง) และพระราชมารดาคือสมเด็จพระราชินีเปาลา ซึ่งขณะนั้นคือเจ้าหญิงแห่งลีแยช พระชายา (ธิดาในขุนนางชาวอิตาเลียน เจ้าชายฟุลโกที่ 8 รุฟโฟแห่งคาลาเบรีย, ดยุคแห่งกวาร์เดีย ลอมบาร์เดีย) โดยได้รับพระราชทานพระยศ เจ้าชายฟีลิป ซึ่งได้ประสูติในช่วงรัชสมัยของสมเด็จพระราชปิตุลา
เจ้าชายฟีลิปทรงเข้าพิธีจุ่มศีลล้างบาปในอีก 1 เดือนต่อมา เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม ณ วิหารแซงต์ ฌากแห่งโควเดนแบร์ก ในกรุงบรัสเซลส์ เจ้าชายฟีลิปได้รับพระราชทานพระนามตามเจ้าชายฟิลิป เคานต์แห่งแฟลนเดอส์ ทั้งนี้ พระเจ้าเลออปอลที่ 3 ทรงรับเป็นพระบิดาอุปถัมภ์ โดยพระมารดาอุปถัมภ์คือ เจ้าหญิงหลุยซ่า รุฟโฟ่แห่งคาลาเบรีย พระอัยยิกา (พระมารดาในเจ้าหญิงเปาลา)
เจ้าชายฟีลิปทรงเฉลิมพระนามเต็มแบบ 3 ภาษา ซึ่งเป็นภาษาประจำชาติของเบลเยียม ดังนี้
- ฝรั่งเศส: ฟีลิป เลออปอล หลุยส์ มารี (Philippe Léopold Louis Marie)
- ดัตช์: ฟีลิป เลโอโปลด์ โลเดอไวก์ มารียา (Filip Leopold Lodewijk Maria)
- เยอรมัน: ฟิลลิพ เลโอพ็อลท์ ลูทวิช มารีอา (Philipp Leopold Ludwig Maria)
เจ้าชายฟีลิป มีพระขนิษฐา 1 พระองค์ และพระอนุชา 1 พระองค์ ทั้งยังมีพระขนิษฐาต่างพระราชมารดาอีก 1 พระองค์ ได้แก่
- เจ้าหญิงอัสตริดแห่งเบลเยียม ประสูติเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2505
- เจ้าชายโลร็องแห่งเบลเยียม ประสูติเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2506
- เจ้าหญิงแดลฟีนแห่งเบลเยียม ประสูติเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2511
การศึกษา
[แก้]ตั้งแต่ พ.ศ. 2521 ถึง พ.ศ. 2524 เจ้าชายฟีลิปทรงเข้ารับการศึกษาที่โรงเรียนนายร้อยแห่งเบลเยียม (Belgian Royal Military Academy) ในรุ่นที่ 118 และต่อมาเมื่อวันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2523 ทรงได้รับการแต่งตั้งเป็นนายทหารยศร้อยตรี และได้เข้าสาบานพระองค์เป็นข้าราชการทหาร[1]
ต่อมา ได้เสด็จไปทรงศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีที่วิทยาลัยทรินิตี มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด ประเทศอังกฤษ และทรงศึกษาต่อในระดับปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐ พระองค์ทรงจบการศึกษาใน พ.ศ. 2528 ในสาขาวิชารัฐศาสตร์
เจ้าชายฟีลิปยังทรงได้รับประกาศนียบัตรรับรองการขับเครื่องบินขับไล่ รวมทั้งกระโดดร่มและคอมมานโด ต่อมาใน พ.ศ. 2532 ได้ทรงศึกษาต่อหลักสูตรพิเศษที่สถาบันป้องกันราชอาณาจักรขั้นสูง (Royal Higher Defence Institute) และในปีเดียวกัน ทรงได้รับการเลื่อนพระยศทางทหารเป็นพันเอก และต่อมาใน พ.ศ. 2544 เป็นพลตรีในกองทัพบก กองทัพอากาศ และพลเรือตรีในกองทัพเรือ
ดยุกแห่งบราบันต์
[แก้]หลังจากการเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระราชาธิบดีโบดวง เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2536 และไม่มีพระราชโอรสหรือพระราชธิดา ทำให้เจ้าชายอัลแบร์ เจ้าชายแห่งลีแยช ทรงสืบราชสมบัติต่อ เฉลิมพระปรมาภิไธย สมเด็จพระราชาธิบดีอัลแบร์ที่ 2 พระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 6 แห่งราชอาณาจักรเบลเยียม เจ้าชายฟีลิปจึงทรงดำรงพระราชอิสริยยศ ดยุกแห่งบราบันต์
อภิเษกสมรส
[แก้]เจ้าชายฟีลิป ดยุกแห่งบราบันต์ ทรงอภิเษกสมรสกับมาตีลด์ มารี คริสตียาน กีแลน ดูว์เดอแกม ดาโก ธิดาของเคานต์ปาทริก ดูว์เดอแกม ดาโก จากตระกูลเก่าแก่ในเขตวัลลูน ทางตอนใต้ของเบลเยียม[2][3] กับเคาน์เตสอันนา มาเรีย โคโมรอฟสกา ชาวโปแลนด์[4] เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2542 มีการประกอบพิธีแบบเป็นทางการ ณ ศาลาว่าการกรุงบรัสเซลส์ และพระราชพิธีทางศาสนา ณ มหาวิหารแซงต์มิเชลและแซงต์กูดูลา ในกรุงบรัสเซลส์ มาตีลด์ได้รับพระราชทานพระราชอิสริยยศ ดัชเชสแห่งบราบันต์ เจ้าชายฟีลิปและเจ้าหญิงมาตีลด์ มีพระโอรสและพระธิดารวม 4 พระองค์
เสด็จขึ้นครองราชสมบัติ
[แก้]เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 สมเด็จพระราชาธิบดีอัลแบร์ที่ 2 ทรงประกาศสละราชสมบัติอย่างเป็นทางการ โดยทรงพระราชปรารภเกี่ยวกับปัญหาทางพระพลานมัย โดยเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 ซึ่งเป็นวันชาติเบลเยียม ทรงลงพระปรมาภิไธยสละราชสมบัติอย่างเป็นทางการให้แก่เจ้าชายฟีลิป ดยุกแห่งบราบันต์ และเสด็จขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติเป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 7 แห่งชาวเบลเยียม และสาบานพระองค์หน้าพระราชบัลลังก์ต่อหน้าคณะองคมนตรี นายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี สมาชิกวุฒิสภา ณ รัฐสภาในกรุงบรัสเซลส์
หลังจากเสร็จสิ้นพระราชพิธีแล้ว สมเด็จพระราชาธิบดีและสมเด็จพระราชินีพระองค์ใหม่ ได้เสด็จออก ณ สีหบัญชร พระราชวังหลวง กรุงบรัสเซลส์ พระราชทานพระบรมราชวโรกาส ให้พสกนิกรชาวเบลเยียม เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ชื่นชมพระบารมีและถวายพระพร โดยเมื่อเสด็จขึ้นครองราชสมบัติแล้ว เจ้าหญิงมาตีลด์ ดัชเชสแห่งบราบันต์ พระชายา ได้ขึ้นเป็นสมเด็จพระราชินีแห่งชาวเบลเยียม และเจ้าหญิงเอลีซาแบ็ต พระราชธิดาพระองค์ใหญ่ได้ขึ้นเป็นดัชเชสแห่งบราบันต์ มกุฎราชกุมารีแห่งเบลเยียม พระรัชทายาทพระองค์ต่อไป ซึ่งหากเป็นดังที่คาดการณ์กันไว้ เจ้าหญิงเอลีซาแบ็ตจะทรงเป็นสมเด็จพระราชินีนาถพระองค์แรกของเบลเยียม
พระราชกรณียกิจ
[แก้]ตั้งแต่เมื่อครั้นทรงดำรงพระราชอิสริยยศ ดยุกแห่งบราบันต์ สมเด็จพระราชาธิบดีฟีลิป ทรงให้ความสำคัญด้านการแสวงหาความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าขายระหว่างประเทศ เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2536 ทรงได้รับการแต่งตั้งให้เป็นประธานกิตติมศักดิ์ของสมาคมการค้าระหว่างประเทศของเบลเยียม (Belgian Foreign Trade Board: BFTB) โดยสืบตำแหน่งต่อจากสมเด็จพระราชบิดา ซึ่งทรงดำรงตำแหน่งองค์ประธานกิตติมศักดิ์ตั้งแต่ พ.ศ. 2505 ต่อมาเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2546 ทรงรับการถวายตำแหน่งประธานกิตติมศักดิ์ขององค์การการค้าระหว่างประเทศ[5] โดยทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจมากมายและเสด็จพระราชดำเนินเยือนนานาประเทศเพื่อการแสวงหาความร่วมมือทางเศรษฐกิจ[6][7] และเมื่อเสด็จขึ้นครองราชย์แล้ว เจ้าหญิงอัสตริด พระกนิษฐภคินี ทรงรับช่วงต่อการปฏิบัติพระกรณียกิจนี้
การเสด็จพระราชดำเนินเยือนประเทศไทย
[แก้]สมเด็จพระราชาธิบดีฟีลิปและสมเด็จพระราชินีมาตีลด์เสด็จพระราชดำเนินเยือนประเทศไทยหลายครั้ง เมื่อครั้นตั้งแต่ทรงดำรงพระราชอิสริยยศ ดยุคและดัชเชสแห่งบราบันต์ โดยทรงเสริมสร้างความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุน รวมทั้งการหาแนวทางในการทำการค้าและการลงทุนร่วมกันในสาขาที่ประเทศไทยให้ความสำคัญลำดับต้นในการพัฒนาประเทศ และที่เบลเยียมมีเทคโนโลยีและความเชี่ยวชาญคือ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและโลจิสติกส์ พลังงานสะอาดและพลังงานทดแทน สุขภาพและเวชภัณฑ์ เกษตรอาหาร เป็นต้น เป็นความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุนในสาขาที่มีศักยภาพร่วมกันและสอดคล้องกับแผนการพัฒนาประเทศของไทย รวมทั้งเป็นการสร้างความรู้และความเข้าใจระดับประชาชนเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของสองประเทศที่มีรากฐานมากกว่า 140 ปี[8]
นอกจากมีความสัมพันธ์ทางการค้าขายแล้ว ยังทรงกระชับความสัมพันธ์ของพระราชวงศ์ทั้ง 2 ประเทศ โดยเมื่อ พ.ศ. 2549 ดยุคและดัชเชสแห่งบราบันต์ (พระราชอิสริยยศในขณะนั้น) เสด็จพระราชดำเนินร่วมกับสมาชิกพระราชวงศ์ต่างประเทศมายังพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ กรุงเทพมหานคร
เมื่อเสด็จพระราชดำเนินเยือนประเทศไทยเมื่อ พ.ศ. 2556 ได้เสด็จพระราชดำเนินทรงพบพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเป็นการส่วนพระองค์ ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช
จากการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2559 สมเด็จพระราชาธิบดีฟีลิปได้มีพระราชดำรัสแสดงความเสียพระราชหฤทัย สำนักพระราชวังของเบลเยียม ได้นำข้อความพระราชดำรัสเผยแพร่ผ่านทางทวิตเตอร์ของสำนักพระราชวัง ความว่า "รู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการเสด็จสวรรคต ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นการสิ้นสุดรัชสมัยที่ยาวนาน ข้าพเจ้าขอส่งความระลึกไปถึงพระราชวงศ์ และพสกนิกรชาวไทย" ทั้งในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ สมเด็จพระราชาธิบดีฟิลิป ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระราชินีมาตีลด์แห่งเบลเยียม เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ด้วย
พระราชบุตร
[แก้]สมเด็จพระราชาธิบดีฟีลิป และสมเด็จพระราชินีมาตีลด์แห่งเบลเยียม มีพระราชธิดา 2 พระองค์ และพระราชโอรส 2 พระองค์ รวมทั้งสิ้น 4 พระองค์ ดังนี้
- เจ้าหญิงเอลีซาแบ็ตแห่งเบลเยียม (พระราชสมภพ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2544)
- เจ้าชายกาบรีแยลแห่งเบลเยียม (ประสูติ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2546)
- เจ้าชายแอมานุแอลแห่งเบลเยียม (ประสูติ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2548)
- เจ้าหญิงเอเลออนอร์แห่งเบลเยียม (ประสูติ 16 เมษายน พ.ศ. 2551)
พระอิสริยยศ
[แก้]- 15 เมษายน พ.ศ. 2503 – 9 สิงหาคม พ.ศ. 2536: เจ้าชายฟีลิปแห่งเบลเยียม
(His Royal Highness Prince Philippe of Belgium) - 9 สิงหาคม พ.ศ. 2536 – 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2556: เจ้าชายฟีลิป ดยุกแห่งบราบันต์
(His Royal Highness The Duke of Brabant) - 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 – ปัจจุบัน : สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งชาวเบลเยียม
(His Majesty The King of the Belgians)
ภายใต้รัฐธรรมนูญแห่งเบลเยียม พระมหากษัตริย์เบลเยียมจะทรงเฉลิมพระปรมาภิไธยและพระราชอิสริยยศอย่างเป็นทางการที่ สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งชาวเบลเยียม (อังกฤษ: His Majesty The King of the Belgians) โดยจะไม่ทรงฉลองพระราชอิสริยยศ สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งเบลเยียม ซึ่งใช้สำหรับอดีตพระมหากษัตริย์ ทั้งนี้ พระราชอิสริยยศอย่างเป็นทางการของพระมหากษัตริย์แห่งเบลเยียมเขียนเป็นภาษาประจำชาติของเบลเยียมได้ดังนี้
- ฝรั่งเศส: Sa Majesté le Roi des Belges
- ดัตช์: Zijne Majesteit de Koning der Belgen
- เยอรมัน: Seine Majestät der König der Belgier
พระเกียรติยศ
[แก้]เครื่องราชอิสริยาภรณ์เบลเยียม
[แก้]- ประธานเครื่องราชอิสริยาภรณ์เลออปอล (Grand Master and Grand Cordon of the Order of Leopold I)
- ประธานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ดาราแห่งแอฟริกา (Grand Master of the Order of the African Star)
- ประธานเครื่องราชอิสริยาภรณ์มหาราชสีห์แห่งเบลเยียม (Grand Master of the Royal Order of the Lion)
- ประธานเครื่องราชอิสริยาภรณ์มหามงกุฎแห่งเบลเยียม (Grand Master of the Order of the Crown)
- ประธานเครื่องราชอิสริยาภรณ์เลโอโพลด์ที่ 2 (Grand Master of the Order of Leopold II)
เครื่องราชอิสริยาภรณ์ต่างประเทศ
[แก้]รายการเครื่องราชอิสริยาภรณ์ต่างประเทศ | ||||
---|---|---|---|---|
2536 | เนเธอร์แลนด์ | เครื่องราชอิสริยาภรณ์แห่งออเรนจ์-นัสเซา ชั้นที่ 1 (Grand Cross of the Order of Orange-Nassau) | [9][10] | |
2556 | เหรียญที่ระลึกพระราชพิธีบรมราชาภิเษก สมเด็จพระราชาธิบดีวิลเลม-อเล็กซานเดอร์แห่งเนเธอร์แลนด์ (Recipient of the King Willem-Alexander Inauguration Medal) | |||
2559 | เครื่องราชอิสริยาภรณ์สิงโตเนเธอร์แลนด์ ชั้นที่ 1 (Knight Grand Cross of the Order of the Netherlands Lion) | |||
2537 | อาร์เจนตินา | เครื่องอิสริยาภรณ์นายพลซาน มาร์ติน ผู้ปลดปล่อย ชั้นที่ 1(Grand Cross of the Order of the Liberator General San Martín) | [11] | |
ญี่ปุ่น | เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันสูงส่งยิ่งดอกเบญจมาศ ชั้นสังวาล (Knight Grand Cordon with Collar of the Order of the Chrysanthemum) | [12] | ||
2538 | นครรัฐวาติกัน | เครื่องอิสริยาภรณ์อันศักดิ์สิทธิ์แห่งเยรูซาเล็ม ชั้นที 1 (Knight Grand Cross of the Order of the Holy Sepulchre|Equestrian Order of the Holy Sepulchre of Jerusalem) | [13] | |
2539 | โบลิเวีย | เครื่องอิสริยาภรณ์นกคอนดอร์แห่งแอนดีส ชั้นที่ 1 (Grand Cross of the Order of the Condor of the Andes) | [11] | |
2539 | สวีเดน | เหรียญที่ระลึกในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 50 พรรษา สมเด็จพระราชาธิบดีคาร์ลที่ 16 กุสตาฟแห่งสวีเดน (Recipient of the 50th Birthday Badge Medal of King Carl XVI Gustaf) | [14][15] | |
2544 | เครื่องราชอิสริยาภรณ์เซราฟีม (Knight of the Royal Order of the Seraphim) | [16] | ||
2553 | เหรียญที่ระลึกในโอกาสพระราชพิธีอภิเษกสมรส เจ้าหญิงวิคตอเรีย มกุฎราชกุมารีแห่งสวีเดน (Recipient of the Royal Wedding of Crown Princess Victoria of Sweden) | [17] | ||
2559 | เหรียญที่ระลึกในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 70 พรรษา สมเด็จพระราชาธิบดีคาร์ลที่ 16 กุสตาฟแห่งสวีเดน (Recipient of the 70th Birthday Badge Medal of King Carl XVI Gustaf) | |||
2540 | โปรตุเกส | เครื่องเสนาอิสริยาภรณ์อาวิส ชั้นสายสร้อย (Grand Cordon of the Order of Aviz) | [18] | |
2548 | เครื่องเสนาอิสริยาภรณ์แห่งพระคริสต์ ชั้นที่ 1 (Grand Cross of the Order of Christ) | |||
2541 | เยอรมนี | เครื่องอิสริยาภรณ์คุณธรรมแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ชั้นที่ 1 (Grand Cross of the Order of Merit of the Federal Republic of Germany) | [19] | |
2541 | มอลตา | เครื่องรัฐอิสริยาภรณ์คณะทหารองค์อธิปัตย์แห่งมอลตา ชั้นที่ 1(Knight Grand Cross of Honour and Dévotion of the Sovereign Military Order of Malta) | [11] | |
2542 | ลักเซมเบิร์ก | เครื่องราชอิสริยาภรณ์สิงโตทองแห่งราชวงศ์นัสเซา ชั้นที่ 1 (Knight Grand Cross of the Order of the Gold Lion of the House of Nassau) | [20] | |
2543 | สเปน | เครื่องราชอิสริยาภรณ์แห่งคาทอลิกอิสซาเบลล่า ชั้นที่ 1 (Knight Grand Cross of the Order of Isabella the Catholic) | [21][22] | |
2545 | เดนมาร์ก | เครื่องราชอิสริยาภรณ์ช้าง (Knight Grand Cross of the Order of the Elephant) | [23] | |
2546 | นอร์เวย์ | เครื่องราชอิสริยาภรณ์นักบุญโอลาฟ ชั้นประถมาภรณ์ พร้อมสร้ายสร้อย (Knight Grand Cross with Collar of the Order of St. Olav) | [24][25] | |
2547 | ฟินแลนด์ | เครื่องอิสริยาภรณ์กุหลาบขาวแห่งฟินแลนด์ ชั้นที่ 1(Grand Cross with Collar of the Order of the White Rose) | [26] | |
โปแลนด์ | เครื่องอิสริยาภรณ์อินทรีย์ขาวแห่งโปแลนด์ ชั้นที่ 1 (Grand Cross of the Order of the White Eagle) | |||
โปแลนด์ | เครื่องอิสริยาภรณ์คุณธรรมแห่งสาธารณรัฐโปแลนด์ ชั้นที่ 1 (Grand Cross of the Order of Merit of the Republic of Poland) | [27] | ||
2548 | กรีซ | เครื่องอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งแห่งกรีซ ชั้นที่ 1 (Grand Cross of the Order of Honour) | [11] | |
2551 | ฮังการี | เครื่องอิสริยาภรณ์คุณธรรมแห่งสาธารณรัฐฮังการี ชั้นที่ 1 (Grand Cross with Chain of the Order of Merit of the Republic of Hungary) | [28][29] | |
2558 | ตุรกี | เครื่องรัฐอิสริยาภรณ์แห่งสาธารณรัฐตุรกี (Member of the Decoration of the State of Republic of Turkey) | [30] | |
2559 | จอร์แดน | เครื่องราชอิสริยาภรณ์แห่งอัล-ฮุสเซน บิน อาลี ชั้นสายสร้อย (Knight Grand Cordon with Collar of the Order of al-Hussein bin Ali) | [31] | |
เครื่องราชอิสริยาภรณ์ของอดีตพระราชวงศ์ต่างประเทศ | ||||
2553 | จักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี | เครื่องราชอิสริยาภรณ์ขนแกะทองคำ สายออสเตรีย (Knight of the Order of the Golden Fleece of the House of Habsburg) | [11] | |
องค์กรอื่น ๆ | ||||
2553 | สภาการกีฬาทหารนานาชาติ | เครื่องอิสริยาภรณ์คุณธรรมแห่งสภากีฬาทหารนานาชาติ (Grand Cross of the International Military Sports Council Order of Merit) | [32] |
พระยศทางการทหาร
[แก้]- 26 กันยายน พ.ศ. 2523 – 21 มีนาคม พ.ศ. 2526:
- มกราคม – มีนาคม พ.ศ. 2526: Platoon leader, 15th Comp., 3rd Parachutists Battalion of the Paracommando Regt[33][34]
- 21 มีนาคม พ.ศ. 2526 – 1 ธันวาคม พ.ศ. 2532:
- 1 ธันวาคม พ.ศ. 2532 – 5 เมษายน พ.ศ. 2544:
- 5 เมษายน พ.ศ. 2544 – 25 มีนาคม พ.ศ. 2553:
- กองทัพอากาศเบลเยียม (Belgian Air Force before 2002), พลตรี[37]
- กองทัพบกเบลเยียม, พลตรี
- กองทัพเรือเบลเยียม, พลเรือเอก
- 15 มีนาคม พ.ศ. 2553:[34]
- 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 (ในฐานะพระมหากษัตริย์):
Royal Military Acad.[38] | Pilot Wings[38] | Parachutist badge[37] | Commando badge[38][39] |
123rd TAW (2521–2524) | 9 กรกฎาคม 2525 | 28 ตุลาคม 2525 | 17 ธันวาคม 2525 |
---|
2523 | 2526 | 2532 | 2544 | 2553 | 2556 |
---|
พงศาวลี
[แก้]อ้างอิง
[แก้]- ↑ "The Belgian Monarchy". สืบค้นเมื่อ 22 July 2016.
- ↑ RTL Info - 'Le père de la princesse Mathilde est mourant' เก็บถาวร 2008-03-30 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน (ฝรั่งเศส)
- ↑ Vader prinses Mathilde ligt op sterven (ดัตช์)
- ↑ "Father of Princess Mathildes passes away". เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-07-08. สืบค้นเมื่อ 2012-07-08.
- ↑ "The Belgian Monarchy". สืบค้นเมื่อ 22 July 2016.
- ↑ Agence pour le Commerce extérieur, Missions antérieures เก็บถาวร 2015-02-10 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- ↑ "Official Royal Website Archives". Monarchie.be. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-07-18. สืบค้นเมื่อ 22 July 2013.
- ↑ "Royal Thai Embassy to belgium and Luxembourg, Mission of Thailand to the European Union". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-04-30. สืบค้นเมื่อ 3 April 2013.
- ↑ PPE Agency, King Willem-Alexander's inthronization 2013, Photo
- ↑ Belga Pictures, State visit in Belgium of HM Queen Beatrix of Netherlands (20–22/06/2006), Philippe in this group photo เก็บถาวร 2012-04-25 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- ↑ 11.0 11.1 11.2 11.3 11.4 Senate, biography of senators including Prince Philippe, senator by right
- ↑ Belga Pictures, State visit in Japan, 1996, Sovereign couples & Prince Philippe เก็บถาวร 2014-01-02 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- ↑ Order of the Holy Sepulchre, Belgian Lieutenancy's Official website, article เก็บถาวร 2006-05-16 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน evoking the decoration
- ↑ PPE Agency, King Willem-Alexander's inthronization 2013, Photo
- ↑ Belga Pictures, State visit in Belgium of HM Queen Beatrix of Netherlands (20–22/06/2006), Philippe in this group photo เก็บถาวร 2012-04-25 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- ↑ Belga Pictures, Princess Victoria of Sweden's wedding, 2010, Philippe & Mathilde เก็บถาวร 2012-04-25 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- ↑ Belga Pictures, Princess Victoria of Sweden's wedding, 2010, Philippe & Mathilde เก็บถาวร 2012-04-25 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- ↑ Belga Pictures, State visit in Belgium of HE Mr Jorge SAMPAIO, President of the Portuguese Republic & Mrs SAMPAIO (18–20/10/2005, Photo เก็บถาวร 2012-04-25 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน of Prnce Philippe
- ↑ Belga Pictures, State visit of President Herzog in Belgium (1998), Group Photo เก็บถาวร 2014-01-02 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- ↑ Belga Pictures, State visit in Belgium of TT.RR.AA Grand-Duke Henri & Grand-Duchess Maria-Teresa of Luxembourg. (20–22/03/2007), Philippe & Mathilde เก็บถาวร 2012-04-25 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- ↑ Belga Pictures, State visit in Belgium of TT.MM. King Juan Carlos & Queen Sofia of Spain (16–18/05/2000), Group photo เก็บถาวร 2012-04-25 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- ↑ Prince Felipe's wedding - Belga Pictures, Philippe wearing the order
- ↑ Zimbio, Frederik, Crown Prince of Denmark & Mary Donaldson's wedding, 14 May 2004, Photo of Philippe and Mathilde
- ↑ Belga Pictures, State visit in Belgium of TM King Harald V and Queen Sonja of Norway (20–22 May 2003), Philippe is behind in this group photo เก็บถาวร 2012-04-25 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- ↑ King Harald's 70th birthday party, 2007, Group photo of Heirs & their consort
- ↑ Belga Pictures, State visit of H.E. President Mrs Tarja Halonen of Finland & Dr Pentti Arajärvi (30/03-01/04/2004), Gala dinner, Philippe & Mathilde เก็บถาวร 2012-04-25 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- ↑ Official Belgian royal website, State visit in Belgium of H.E. Mr Aleksander Kwasniewski, President of the Republic of Poland & Mrs Jolanta Kwasniewska, Gala dinner, group photo
- ↑ Official Royal Website, State visit in Belgium of H.E. Mr Laszlo SÓLYOM, President of the Republic of Hungary. (15–17/04/2008, Group photo
- ↑ Belga Pictures, Philippe เก็บถาวร 2012-04-25 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- ↑ "King Philippe of Belgium presents Order of Leopold to President Erdogan". Presidency of the Republic of Turkey. 5 October 2015. สืบค้นเมื่อ 24 October 2015.
- ↑ "Nuevo duelo de reinas: una Rania muy demodé no puede con una Matilde sublime. Noticias de Casas Reales". สืบค้นเมื่อ 22 July 2016.
- ↑ "Prince Philippe receives an international sportive prize". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-01-06. สืบค้นเมื่อ 2013-05-06.
- ↑ Official 3Para page เก็บถาวร 2007-04-30 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน (French) evoking Prince Philippe
- ↑ 34.0 34.1 Prince Philippe[ลิงก์เสีย] promoted, portrait
- ↑ Photo เก็บถาวร 2007-05-13 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน of Philippe as a Captain (3 stars) in the 3Para Battalion
- ↑ Prince Philippe gets married เก็บถาวร 2012-10-19 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน in his uniform of Colonel of the Belgian Air Force
- ↑ 37.0 37.1 Photo[ลิงก์เสีย] of Prince Philippe as a General-major showing his parachutist badge
- ↑ 38.0 38.1 38.2 21st July 2012, photo showing the commando badge, the blue wing of the parachutist badge under the ribbon of the Order of Leopold, the pilot wing, the omega sign of Royal Academy "Promotion toutes armes"
- ↑ Photo เก็บถาวร 2013-05-30 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน showing the commando badge
ดูเพิ่ม
[แก้]
ก่อนหน้า | สมเด็จพระราชาธิบดีฟีลิปแห่งเบลเยียม | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
สมเด็จพระราชาธิบดีอัลแบร์ที่ 2 | สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งราชอาณาจักรเบลเยียม (21 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 – ปัจจุบัน) |
ยังอยู่ในราชสมบัติ
| ||
เจ้าชายโบดวง (สมเด็จพระราชาธิบดีโบดวง) |
ดยุกแห่งบราบันต์ (9 สิงหาคม พ.ศ. 2536 – 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2556) |
เจ้าหญิงเอลีซาแบ็ต |