ลำดับสิ่งประดิษฐ์ของสหรัฐ (ค.ศ. 1946–91)

ลำดับสิ่งประดิษฐ์ของสหรัฐ (ค.ศ. 1946–91) ครอบคลุมความเป็นช่างประดิษฐ์และความก้าวหน้าทางนวัตกรรมของประเทศสหรัฐอเมริกาภายในบริบททางประวัติศาสตร์, ย้อนไปตั้งแต่ยุคร่วมสมัยถึงยุคปัจจุบัน, ซึ่งได้บรรลุความสำเร็จโดยนักประดิษฐ์ทั้งหลาย ผู้เป็นทั้งประชากรโดยกำเนิดหรือได้รับเป็นพลเมืองของประเทศสหรัฐอเมริกา. การคุ้มครองลิขสิทธิ์ยึดถือสิทธิของบุคคลในการเรียกร้องความคิด ของเขาหรือของเธอเป็นคนแรกที่ได้คิดค้นสิ่งประดิษฐ์ที่เป็นต้นฉบับในคำถาม, ตามที่ได้ไฮไลต์ ใน หัวข้อที่หนึ่ง มาตรา 8, ข้อ 8 ของรัฐธรรมนูญของสหรัฐอเมริกาที่ให้อำนาจการแจกแจงต่อไปนี้ให้กับรัฐสภาคองเกรสแห่งสหรัฐอเมริกา:

“

เพื่อส่งเสริมความก้าวหน้าของวิทยาศาสตร์และศิลปะที่มีประโยชน์, โดยการยึดถือเวลาที่จำกัดให้กับนักเขียนและนักประดิษฐ์ในสิทธิของการเขียนและการค้นพบของพวกเขาตามลำดับแต่เพียงผู้เดียว

”

ใน ค.ศ. 1641, สิทธิบัตรแรกในอเมริกาเหนือออกให้กับ ซามูเอล วินสโลว โดยศาลทั่วไปของแมสซาชูเซตสำหรับวิธีการใหม่ของการทำเกลือ.^[1]^[2]^[3] วันที่ 10 เมษายน ค.ศ. 1790 ประธานาธิบดีจอร์จ วอชิงตัน ลงนามใน กฎหมายสิทธิบัตร 1790 (1 Stat. 109) เพื่อใช้เป็นกฎหมายที่ประกาศว่า สิทธิบัตรจะออกให้กับ "ศิลปะที่มีประโยชน์ใดๆ, การผลิต, เครื่องยนต์, เครื่องจักร, หรืออุปกรณ์, หรือ การปรับปรุงใดๆ ที่ไม่เป็นที่รู้จักหรือถูกใช้มาก่อน.""^[4] วันที่ 31 กรกฎาคม ค.ศ. 1790, ซามูเอล ฮอปกินส์ แห่งพิตต์สฟอร์ด, รัฐเวอร์มอนต์ กลายเป็นคนแรกในประเทศสหรัฐอเมริกาในการยื่นแบบและได้รับสิทธิบัตรสำหรับวิธีการที่ดีขึ้นของ " การทำหม้อ และขี้เถ้าไข่มุก."^[5] กฎหมายสิทธิบัตร 1836 (Ch. 357, 5 Stat. 117) ชี้แจงเพิ่มเติมกฎหมายสิทธิบัตรประเทศสหรัฐอเมริกา ที่มีขอบเขตของการจัดตั้งสำนักงานสิทธิบัตรเพื่อใช้เป็นที่ยื่นขอจดสิทธิบัตร, ทำการประมวลผล, และอนุญาต, ขึ้นอยู่กับภาษาและขอบเขตของการประดิษฐ์ของผู้ร้อง, สำหรับ ระยะคุ้มครองสิทธิบัตรจาก 14 ปีที่มีส่วนขยายเพิ่มขึ้นไปอีกถึง 7 ปี.^[4] อย่างไรก็ตาม ข้อตกลงรอบอุรุกวัยของกฎหมายปี 1994 (อังกฤษ: Uruguay Round Agreements Act of 1994 (URAA)) เปลี่ยนระยะคุ้มครองสิทธิบัตรในประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นรวม 20 ปี, มีผลสำหรับการยื่นแบบขอสิทธิบัตรในหรือหลังวันที่ 8 มิถุนายน 1995, จึงเป็นการนำกฎหมายสิทธิบัตรของประเทศสหรัฐอเมริกาให้สอดคล้องกับกฎหมายสิทธิบัตรระหว่างประเทศ.^[6] บทบัญญัติสมัยใหม่ของกฎหมายที่ใช้กับสิ่งประดิษฐ์ถูกนำออกมาใช้ ใน หัวเรื่องที่ 35 ของรหัสสหรัฐอเมริกา (Ch. 950, ตอน 1, 66 Stat 792)

จากปี 1836-2011, สำนักงานสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้าสหรัฐอเมริกา(USPTO) ได้อนุญาตจำนวน 7,861,317 สิทธิบัตร ^[7] เกี่ยวกับสิ่งประดิษฐ์ที่รู้จักกันดีหลายอย่างตามที่ปรากฏตลอดระยะเวลาที่อยู่ด้านล่าง บางต้วอย่างของสิ่งประดิษฐ์ที่ได้รับสิทธิบัตรระหว่างปี 1946 ถึง 1991 รวมถึงทรานซิสเตอร์ของ William Shockley (1947),^[8] คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลของ John Blankenbaker (1971),^[9] Internet protocol/TCP ของ Vinton Cerf และ Bob Kahn (1973),^[10] และ โทรศัพท์เคลื่อนที่ของ Martin Cooper (1973).^[11]

สงครามเย็น (1946-1991)

หลังสงคราม และช่วงปลายปี 1940s (1946-1949)

1946 หอดูดาวอวกาศ

หอดูดาวอวกาศเป็นเครื่องมือใดๆ, เช่น กล้องโทรทรรศน์, ในอวกาศที่ใช้สำหรับการสังเกตดาวเคราะห์ที่ห่างไกล, กาแลคซีและวัตถุอวกาศ. ในปี 1946, นักดาราศาสตร์ฟิสิกส์ทฤษฎีชาวอเมริกัน ลายแมน สปิตเซอร์ เป็นคนแรกที่มีความคิดของกล้องโทรทรรศน์ในอวกาศ, หนึ่งทศวรรษก่อนที่สหภาพโซเวียตเปิดตัวดาวเทียมดวงแรก, สปุตนิก, ขึ้นสู่วงโคจร.^[12] ข้อเสนอของสปิตเซอร์เรียกหากล้องโทรทรรศน์ขนาดใหญ่ที่จะไม่ถูกขัดขวางโดยชั้นบรรยากาศของโลก.^[12] หลังจากที่วิ่งเต้นในปี 1960s และปี 1970s สำหรับระบบดังกล่าวที่จะสร้าง, วิสัยทัศน์ของสปิตเซอร์ในที่สุดก็เป็นรูปร่างเป็นกล้องโทรทรรศน์แสงเครื่องแรกของโลก, กล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิล, ซึ่งถูกยิงขึ้นในวันที่ 20 เดือนเมษายน ค.ศ. 1990 โดยกระสวยอวกาศดิสคัฟเวอรี (STS -31).^[13]^[14]

1946 ตัวป้องกันระเบิด (แบบวงแหวน)

ไดอะแกรมของตัวป้องกันระเบิดแบบวงแหวนในการทำงานแบบเปิดและปิดสนิท. วงแหวนยืดหยุ่น(รูปโดนัท)สีน้ำเงินถูกบังคับให้เข้าไปในช่องว่างของท่อขุดเจาะน้ำมันโดยลูกสูบไฮโดรลิค

ตัวป้องกันระเบิดแบบวงแหวน เป็นวาล์วขนาดใหญ่ที่ใช้ลิ่มในการปิดผนึกปากหลุม. มันมีซีลยางรูปโดนัท, รู้จักกันว่าเป็นหน่วยบรรจุยาง, เสริมแรงด้วยซี่โครงเหล็ก. ในระหว่างการแทรกแซงการขุดเจาะหรือบ่อ, วาล์วอาจถูกปิดถ้าแรงดันเกินจากโซนใต้ดินทำให้เกิดการก่อตัวของของเหลว เช่นน้ำมันหรือก๊าซธรรมชาติที่จะเข้าสู่บ่อขุดและคุกคามแท่นขุดเจาะ. ตัวป้องกันระเบิดแบบวงแหวนถูกคิดค้นโดย วีลล์ สโลน น็อกซ์ ในปี 1946 ที่ได้รับการจดสิทธิบัตรเมื่อวันที่ 9 กันยายน ค.ศ. 1952.^[15]

1946 ทัปเปอร์แวร์

ทัปเปอร์แวร์เป็นบรรจุภัณฑ์พลาสติกสุญญากาศที่ใช้สำหรับการเตรียม, การจัดเก็บ, การบรรจุ และการเสริฟอาหารที่เน่าเสียได้ในครัวและที่บ้าน. ทัปเปอร์แวร์ถูกคิดค้นในปี ค.ศ. 1946 โดยนักเคมีชาวอเมริกัน เอิร์ล สิลาส ทัปเปอร์ ผู้ดัดแปลงวิธีการของการทำให้บริสุทธิ์ของตะกรันพลาสติกสีดำ, ลิตภัณฑ์สูญเปล่าที่ถูกผลิตในการกลั่นน้ำมัน, ให้เป็นสารแม่พิมพ์ที่มีความยืดหยุ่น, แข็งแรง, ไม่มีรูพรุน, ไม่เยิ้มและโปร่งแสง.^[16] มีจำหน่ายหลายสี, บรรจุภัณฑ์พลาสติกที่มี"การปิดผนึกแบบเรอ"ไม่ได้ประสบความสำเร็จในเชิงพาณิชย์จนกระทั่ง บราวนี่ ไวส์, แม่บ้านฟลอริดาจัดงานปาร์ตี้ทัปเปอร์แวร์ในปี 1951 เพื่อที่จะแสดงให้เห็นถึง ผลิตภัณฑ์และอธิบายคุณสมบัติต่างๆ.^[17]^[18]

1946 Spoonplug

Spoonplug เป็นรูปแบบหนึ่งของเหยื่อตกปลา, ถูกคิดค้นโดย เอลวูด แอล "บั๊ก" เพอร์รี่, ตอนนั้นเป็นครูฟิสิกส์และคณิตศาสตร์ในฮิกกอรี, นอร์ธแคโรไลนา. เอลวูด เพอร์รี่ รวมวิทยาศาสตร์เข้ากับวิธีการทางตรรกะเพื่อการตกปลาที่จะสร้าง "ระบบการตกปลารวม". เขาได้รับเครดิตในฐานะที่เป็นบิดาของโครงสร้างการตกปลาและได้รับการแต่งตั้งให้อยู่ในหอเกียรติยศ(อังกฤษ: Hall of Fame) ของการตกปลาน้ำจืดแห่งชาติ.^[19]

1946 ฟันเลื่อยแบบ chipper

ตัวอย่างของฟันแบบชิปเปอร์, Oregon no.10, สัเกตชิ้นโค้งยาวระหว่างแผ่นบนและแผ่นข้าง

ฟันเลื่อยแบบ chipper เป็นฟันแบบหนึ่งของเลื่อยแบบโซ่. การใช้ฟันที่โค้งงอไปด้านบนของห่วงโซ่, มีฟันที่ชี้ไปทางซ้ายและขวาสลับกัน. ในปี 1946, คนตัดไม้ชาวอเมริกัน โจเซฟ บูฟอร์ด คอคส์, ชาวออริกอน ได้คิดค้นฟันแบบชิปเปอร์ซึ่งในวันนี้ยังคงใช้กันอย่างแพร่หลาย และ เป็นหนึ่งในอิทธิพลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของการตัดไม้.^[20]

1946 เทป เส้นใย

เทปเส้นใยหรือเทปสายรัดเป็นเทปที่ไวต่อแรงกด, ใช้สำหรับงานบรรจุภัณฑ์หลายอย่างเช่น การปิดกล่องไม้อัดแผ่นใยลูกฟูก, เสริมแพคเกจ, พันหลายรายการรวมกัน, ใช้ประโยชน์จากแผ่นไม้รองกล่อง(อังกฤษ: pallet) ฯลฯ มันประกอบด้วยกาวไวต่อแรง, เคลือบลงบนด้านหลังของวัสดุที่มักจะเป็นโพลีโพรพิลีนหรือฟิล์มโพลีเอสเตอร์กับเส้นใยไฟเบอร์กลาสที่ฝังภายในเพื่อเพิ่มแรงดึงสูง. เทปเส้นใยถูกคิดค้นในปี ค.ศ. 1946 โดย ไซรัส วูดโรว์ Bemmels. ในปี 1949 ได้มีการวางขายในตลาดและประสบความสำเร็จในทันที.^[21]

1946 บัตรเครดิต

บัตรเครดิตเป็นส่วนหนึ่งของระบบการชำระเงิน, ตั้งชื่อตามบัตรพลาสติกขนาดเล็กที่ออกมาให้ ผู้ใช้ระบบ. ผู้ออกบัตรให้เครดิตให้กับผู้บริโภคโดยผู้ใช้สามารถยืมเงินเพื่อการชำระให้กับร้านค้าหรือการเบิกเงินสดล่วงหน้าให้กับผู้ใช้. ในปี ค.ศ. 1946, นายธนาคารอเมริกัน จอห์น ซี Biggins ของธนาคารแห่งชาติแฟลตบุชของบรูคลินได้คิดค้นบัตรเครดิตที่ออกโดยธนาคารเป็นครั้งแรก.^[22]^[23]^[24]

1946 ผ้าอ้อมกันน้ำ

ผ้าอ้อมเป็นผ้าที่สามารถดูดซึมสำหรับคนที่กลั้นปัสสาวะไม่อยู่. ผ้าอ้อมไม่ชื้นหรือกันน้ำได้ถูกคิดค้นในปี 1946 เมื่อ แมเรียน โดโนแวน ได้ใช้ม่านอาบน้ำจากห้องน้ำของเธอในการสร้าง"Boater", ผ้าอ้อมชิ้นแรกที่นำกลับมาใช้ได้และไม่รั่ว ที่มีผ้าเป็นเส้นพลาสติก. นวัตกรรม อื่นๆของโดโนแวนคือการแทนที่เข็มกลัดซ่อนปลายด้วยปุ่มกดล็อกพลาสติกที่ด้านข้างของผ้าอ้อม. ออกขายครั้งแรกในปี 1949 ที่ร้านเรือธงใน Saks ฟิฟท์อเวนิวในนิวยอร์กซิตี้. สิทธิบัตรที่ออกให้ โดโนแวน ภายหลังในปี 1951 ได้ถูกขายสิทธิในผ้าอ้อมกันน้ำมูลค่า $ 1 ล้าน.^[25]

1947 ทรานซิสเตอร์

แบบจำลองของทรานซิสเตอร์ที่ทำงานได้จริงเป็นครั้งแรก

ในสาขาอิเล็กทรอนิกส์, ทรานซิสเตอร์เป็นอุปกรณ์สารกึ่งตัวนำที่ใช้กันทั่วไปในการขยายหรือสลับสัญญาณอิเล็กทรอนิกส์, เพราะกำลังสัญญาณด้านขาออกที่ควบคุมได้สามารถมีขนาดใหญ่กว่ากำลังสัญญาณขาเข้าที่ควบคุมได้. ทรานซิสเตอร์สามารถขยายสัญญาณให้มีขนาดใหญ่ขึ้นได้. ทรานซิสเตอร์เป็นโครงสร้างพื้นฐานของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ทันสมัยทั้งหมด โดยมีการ ใช้ในวิทยุ, โทรศัพท์, คอมพิวเตอร์ และระบบอิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ. จากวันที่ 17 พฤศจิกายน 1947 ถึง 23 ธันวาคม 1947 จอห์น Bardeen และวอลเตอร์ Brattain ที่ AT&T Bell Labs, ได้ทำการทดลองและในที่สุดก็สังเกตได้ว่าเมื่อสองจุดสัมผ้สทองถูกนำไปใช้กับคริสตัลเจอร์เมเนียม, สัญญาณถูกผลิตให้ออกมามีขนาดออกมีขนาดใหญ่กว่าสัญญาณที่ใส่เข้าไป.^[26] ผู้จัดการของเบลล์แล็บกลุ่มวิจัยเซมิคอนดักเตอร์, วิลเลียม Shockley, เห็นศักยภาพในการทำงานในช่วงไม่กี่เดือนต่อมา ในการเพิ่มพูนความรู้ของเซมิคอนดักเตอร์อย่างมากเพื่อสร้างทรานซิสเตอร์จุดสัมผ้ส(อังกฤษ: point-contact transistor)ตัวแรก. Shockley ได้รับการพิจารณาโดยคนจำนวนมากว่าเป็น "บิดา" ของทรานซิสเตอร์.^[8] ดังนั้น, ในการรับรู้ผลงานของเขา, ทรานซิสเตอร์เป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง, แม้จะไม่กว้างขวางระดับโลก, แต่ก็ยอมรับว่าเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่สำคัญที่สุดของศตวรรษที่ 20 ทั้งหมด เนื่องจากเป็นรูปแบบโครงสร้างในปัจจุบันของโปรเซสเซอร์และถูกใช้ในเกือบทุก คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ทันสมัย.^[27] ในการรับรู้ของการประดิษฐ์ของทรานซิสเตอร์, Shockley, Bardeen และ Brattain ได้ร่วมกันรับรางวัลรางวัลโนเบลในสาขาฟิสิกส์ประจำปี [[ค.ศ. 1956].^[28]

1947 เครื่องกระตุ้นหัวใจ

เครื่องกระตุ้นหัวใจคือการรักษาที่ชัดเจนสำหรับภาวะหัวใจคุกคามชีวิต, ภาวะหัวใจสั่น และภาวะหัวใจเต้นเร็วผิดปกติ, ประกอบด้วย การส่งพลังงานไฟฟ้าไปยังหัวใจส่วนที่ได้รับผลกระทบ. ดร. โคล้ด เบ็ค คิดค้นเครื่องกระตุ้นหัวใจในปี ค.ศ. 1947.^[29]

1947 เครื่องบินเหนือเสียง

ในอากาศพลศาสตร์, กำแพงเสียงมักจะหมายถึงจุดที่เครื่องบินจะย้ายจากความเร็วใกล้เสียงไปยังความเร็วเหนือเสียง. เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม ค.ศ. 1947 เพียงหนึ่งเดือนหลังจากที่กองทัพอากาศสหรัฐได้รับการสถาปนาให้เป็นบริการที่แยกต่างหาก, การทดสอบมาถึงจุดสูงสุดในการการเหนือเสียงโดยมีคนบังคับเป็นครั้งแรกเมื่อกำแพงเสียงถูกทำลาย, ขับโดยกัปตันกองทัพอากาศ ชัค เยเกอร์ ในเครื่องเบลล์ เอ็กซ์-1.^[30]

1947 สีอะคริลิค

สีอะคริลิคเป็นสีแห้งเร็วที่มีเม็ดสีลอยอยู่ในของเหลวผสมพอลิเมออคริลิค. สีอะคริลิคถูกคิดค้นเป็นครั้งแรกโดย ลีโอนาร์ Bocour และแซม โกลเด้น ในปี ค.ศ. 1947 ภายใต้แบรนด์ Magna paint.^[31]

1947 คลัทช์อนุภาคแม่เหล็ก

คลัทช์อนุภาคแม่เหล็กเป็นคลัตช์แม่เหล็กไฟฟ้าชนิดพิเศษที่ไม่ได้ใช้แผ่นเสียดทาน แต่จะใช้ ผงละเอียดของวัสดุที่ไวต่ออำนาจแม่เหล็ก (โดยทั่วไปเป็นเหล็กสเตนเลส) เพื่อเชื่อมทางกลระหว่างแผ่นล้อที่หมุนอย่างอิสระที่ติดอยู่กับเพลาด้านหนึ่ง, กับใบพัดที่ติดอยู่กับเพลาอีกด้านหนึ่ง. ครัทช์อนุภาคแม่เหล็กถูกคิดค้นในปี ค.ศ. 1947 โดย ยูเครน-อเมริกัน จาค็อบ Rabinow.^[32]

1948 วินเซิร์ฟ

วินเซิร์ฟเป็นกีฬาบนพื้นผิวน้ำโดยใช้กระดานโต้คลื่น, ปกติก็เรียกว่า sailboard ด้วย, มักจะยาว 2-5 เมตรและขับเคลื่อนด้วยลมที่พัดใบเรือ. ในปี ค.ศ. 1948, นิวแมน ดาร์บี้ อายุ 20 ปีเป็นครั้งแรกที่มีความคิดของการใช้ใบเรือมือถือและเสาระยางติดตั้งอยู่บนแกนร่วมเพื่อที่เขาจะสามารถควบคุมเรือคู่ขนาดเล็กของเขา. นี่เป็น sailboard ที่ไม่มีหางเสือที่เคยสร้างเป็นครั้งแรกที่ยอมให้บุคคลสามารถคัดท้ายได้โดยการขยับน้ำหนักของเขาหรือของเธอเพื่อที่จะเอียงใบเรือไปข้างหน้าและไปทางท้ายเรือ.^[33] ดาร์บี้ ไม่ได้ยื่นขอจดสิทธิบัตรสำหรับการประดิษฐ์ของเขา แต่เขาก็ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นนักประดิษฐ์ sailboard ตัวแรก.^[34]

1948 สเปรย์ผม

สเปรย์ผมเป็นสารละลายความงามที่ถูกนำมาใช้เพื่อให้ผมแข็งหรือคงอยู่ในรูปแบบบางอย่าง. อ่อนแอกว่าเจลผม, ขี้ผึ้งผมหรือกาว, มันจะถูกพ่นเพื่อให้คงรูปแบบเป็นเวลานาน. โดยใช้ปั๊ม หรือหัวฉีดละอองสเปรย์, มันจะกระจายอย่างสม่ำเสมอทั่วทั้งผม. สเปรย์ผมถูกคิดค้นและผลิตเป็นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1948 โดยบริษัทผลิตภัณฑ์เชส, อยู่ใน Broadview, อิลลินอยส์

1948 ขยะแมว

ขยะแมวเป็นหนึ่งในจำนวนวัสดุหลายๆอย่างที่ใช้ในกล่องขยะเพื่อดูดซับความชื้นของอุจจาระ และปัสสาวะของแมว ซึ่งจะช่วยลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ที่เหม็น เช่นแอมโมเนีย และทำให้พวกมันได้รับการยอมรับให้อยู่ภายในบ้านได้มากขึ้น. ขยะแมวครั้งแรกที่มีขายในเชิงพาณิชย์คือคิตตี้ลิตเตอร์ ในปี ค.ศ. 1948 และประดิษฐ์คิดค้นโดย Ed Lowe.^[35]

1948 แท่งเฮลลีแกน

แท่งเฮลลีแกนเป็นเครื่องมือใช้กำลังบุกเข้าบ้านพิเศษถูกนำไปใช้ทั่วไปโดยนักดับเพลิงและการบังคับใช้กฎหมาย. มันถูกออกแบบมาโดยและถูกตั้งชื่อตาม ฮิวจ์ เฮลลีแกน, รองหัวหน้าหน่วยดับเพลิงคนที่หนึ่งในแผนกดับเพลิงมหานครนิวยอร์กในปี ค.ศ. 1948. เนื่องจาก เครื่องมือที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยรองหัวหน้าหน่วยดับเพลิงนครนิวยอร์ก, กรมจึงไม่ได้ซื้อมันในตอนแรกเพราะถูกมองว่าเป็นความขัดแย้งในผลประโยชน์ (อังกฤษ: conflict of interest) ในการซื้อของจากสมาชิกของแผนก.^[36]

1948 เครื่องเป่ามือ

เครื่องเป่ามือเป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าที่พบในห้องน้ำสาธารณะและจะใช้ในการทำให้มือแห้ง. มัน อาจจะทำงานด้วยการกดปุ่มหรือ, เมื่อเร็วๆนี้, โดยอัตโนมัติโดยใช้เซ็นเซอร์อินฟราเรด. เครื่องเป่ามือถูกคิดค้นในปี ค.ศ. 1948 โดยจอร์จ คลีเมนส์.^[37]

1948 ปีก Rogallo

ปีกยืดหยุ่นของ Rogallo ได้รับการทดสอบโดยองค์การนาซ่า, เป็นร่มชูชีพบังคับได้ เพื่อดูดจับแคปซูลอวกาศ"เจมินี"และจรวดใช้แล้ว

ปีก Rogallo เป็นถุงลมชนิดยืดหยุ่น ประกอบด้วยสองพื้นผิวรูปกรวยที่มีกรวยทั้งสองด้านชี้ไปข้างหน้า. ไม่ได้เป็นทั้งว่าว, เครื่องร่อนหรือชนิดใดของเครื่องบิน, ปีก Rogallo ส่วนใหญ่มักจะ มีให้เห็นในว่าวของเล่น แต่ถูกใช้ในการสร้างร่มชูชีพยานอวกาศในระหว่างการทดสอบเบื้องต้น สำหรับ"โปรแกรมเจมินี"ของนาซาในช่วงต้นทศวรรษ 1960s, ร่มชูชีพนำร่องได้, ยานบินขับเคลื่อนขนาดเบามากเหมือนรถสามล้อ, เช่นเดียวกับเครื่องร่อนแขวน. ก่อนสิ้น ปี 1948, วิศวกรการบินอเมริกัน ฟรานซิส Rogallo ได้ประสบความสำเร็จในการประดิษฐ์เป็นครั้งแรกสำหรับ ว่าวที่มีปีกยืดหยุ่นที่เขาเรียกว่า' Flexi-kite'. สิทธิบัตรถูกยื่นขอในปี ค.ศ. 1948 และได้รับการอนุมัติในปี ค.ศ. 1951. ภรรยาของเขา เกอร์ทรูด Rogallo ยังได้ทำผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญกับการประดิษฐ์, ด้วยการเย็บผ้าเป็นขนาดที่จำเป็นโดยใช้อุปกรณ์ในครัวเรือน เช่นผ้าม่านห้องครัว. Rogallo เชื่อว่าปีกที่มีความยืดหยุ่นจะให้เสถียรภาพที่ดีกว่าพื้นผิวที่คงที่, นำไปสู่ การกำจัดเสากระโดงแข็งในระหว่างเที่ยวบิน. ด้วยเหตุนี้ แนวคิด Rogallo จะเห็นเป็นตัวอย่างที่คลาสสิกของความบริสุทธิ์และมีความมีประสิทธิภาพในการบิน.^[38]^[39]

1948 เคเบิลทีวี

เคเบิลทีวีส่งรายการโทรทัศน์ให้กับผู้บริโภคผ่านทางสัญญาณคลื่นความถี่วิทยุโดยใช้เส้นใยแก้วนำแสงหรือสายโคแอกเชียล เมื่อเทียบกับวิธีการที่ใช้อากาศในการส่งคลื่นโทรทัศน์แบบดั้งเดิม. ที่รู้จักกันครั้งแรกในฐานะที่เป็นเสาอากาศโทรทัศน์ชุมชน หรือ CATV, เคเบิลทีวี เกิดในเทือกเขาของซิลเวเนียในปี ค.ศ. 1948 โดยจอห์น Walson และ มาร์กาเร็ต Walson.^[40]

1948 แผ่นจานบิน

แผ่นจานบินเป็นวัตถุคล้ายแผ่นดิสก์ถูกโยนและจับสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจ, ซึ่งโดยทั่วไปจะเป็นพลาสติกและมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 20 ถึง 25 เซนติเมตร (8-10 นิ้ว) ที่มีขอบ. รูปทรงของแผ่นดิสก์, หน้าตัดแบบ airfoil, ช่วยให้มันบินด้วยการสร้างแรงยกตัว เมื่อมันเคลื่อนผ่านอากาศในขณะที่หมุน. ครั้งแรกรู้จักในฐานะ "Whirlo-Way", แผ่นดิสก์บินถูกคิดค้น ในปี 1949 โดยวอลเตอร์ เฟรเดอริ มอร์ริสัน ที่รวมเสน่ห์ของเขากับสิ่งประดิษฐ์และความสนใจในการบินของเขา. แกะสลักจากบล็อกที่เป็นของแข็งของสารประกอบพลาสติกที่เรียกว่า "Tenite", มอร์ริสันขายสิ่งประดิษฐ์แผ่นดิสก์บินของเขาให้กับ WHAM-O, ซึ่งแนะนำมันในปี 1957 ว่าเป็น"Pluto Platter". ในปี 1958 WHAM-O แก้ไข"Pluto Platter" และแนะนำ "FRISBIE" แผ่นดิสก์บินไปทั่วโลก. มันได้กลายเป็นความรู้สึกประทับใจในทันที.^[41]

1948 วิดีโอเกม

นายพลเดวิด เอช Petraeus แห่งกองทัพบกสหรัฐกำลังเล่นกอล์ฟ Wii ที่มีปฏิสัมพันธ์

วิดีโอเกมเป็นเกมอิเล็กทรอนิกส์ที่เกี่ยวข้องกับการมีปฏิสัมพันธ์กับส่วนติดต่อผู้ใช้ในการสร้าง ภาพความคิดเห็นในอุปกรณ์วิดีโอ. ในปี 1948, สิบปีก่อนที่ 'เทนนิสสำหรับสองคน'ของ วิลเลียม Higinbotham ได้รับการพัฒนา, โทมัส ที โกลด์สมิธ จูเนียร์และ Estle อาร์ แมนน์, ที่ได้ สิทธิบัตรร่วมสำหรับ"อุปกรณ์สวนสนุกแคโทด Ray Tube", ทำให้มันเป็นวิดีโอเกมที่เป็นเอกสารที่เก่าแก่ที่สุด. ตามมาตรฐานที่ทันสมัยในการเล่นเกมวิดีโอ, อุปกรณ์สวนสนุกจำเป็นต้องให้ผู้เล่น ซ้อนทับภาพหรือภาพประกอบของเป้าหมาย เช่นเครื่องบินในหน้าจอที่จะประสานการกระทำของเกม. ^[42]

1949 การหาช่วงเวลาด้วยวิธีเรดิโอคาร์บอน

การหาช่วงเวลาด้วยวิธีเรดิโอคาร์บอนเป็นวิธีการหาช่วงเวลาที่ใช้ไอโซโทปของคาร์บอน-14 (14C) ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติเพื่อตรวจสอบอายุของวัสดุคาร์บอนย้อนหลังได้ถึงประมาณ 60,000 ปี. ในปี 1949, วิลลาร์ด เอฟ ลิบบี้ คิดค้นขั้นตอนในการหาเวลาด้วยคาร์บอน-14.^[43]

1949 ถุงเมาเครื่องบิน

ถุงเมาเครื่องบิน, หรือที่เรียกว่า ถุง barf, ถุงเมาอากาศ, ถุงป่วย, หรือถุงเมาจากการเคลื่อนไหว, เป็นถุงขนาดเล็ก โดยทั่วไปจะให้ผู้โดยสารบนเครื่องบิน และบนเรือ ในการเก็บรวบรวมอาเจียนในกรณีที่เมาจากการเคลื่อนไหว.ถุง airsickness ถูกคิดค้นโดย Gilmore Schjeldahl ในปี 1949 สำหรับสายการบิน โอเรียนท์ นอร์ธเวสต์.^[44]

1949 เครื่องปรับผิวหน้าน้ำแข็ง

เครื่องปรับผิวหน้าน้ำแข็งบนลานสเก็ตน้ำแข็งในร่ม

เครื่องปรับผิวหน้าน้ำแข็งเป็นเหมือนรถบรรทุกที่ใช้ในการทำความสะอาดและทำผิวหน้าของน้ำแข็งให้เรียบสำหรับสนามแข่งสเก็ตน้ำแข็ง. แฟรงค์ เจ Zamboni แห่ง Paramount, แคลิฟอร์เนีย คิดค้นเครื่องนี้ครั้งแรก ที่เขาเรียกมันว่า Zamboni ในปี ค.ศ. 1949.^[45]

1949 นาฬิกาอะตอม

นาฬิกาอะตอมใช้มาตรฐานความถี่เรโซแนนของอะตอมเป็นองค์ประกอบของการจับเวลา, นาฬิกาอะตอมตัวแรกที่อุปกรณ์ขยายคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าแอมโมเนีย ที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1949 ที่สำนักมาตรฐานแห่งชาติ ประเทศสหรัฐอเมริกา.^[46]

1949 จอแสดงภาพ Holter

จอแสดงภาพ Holter เป็นอุปกรณ์แบบพกพาสำหรับการแสดงภาพอย่างต่อเนื่องของกิจกรรมเกี่ยวกับไฟฟ้าของหัวใจตลอด 24 ชั่วโมงหรือมากกว่า. แผ่นกาว (ขั้วไฟฟ้า) จะติดไว้บนอกเชื่อมต่อกับสายไฟไปยังจอแสดงภาพ Holter. หน้าที่ของมันก็คือการตรวจจับและบันทึกข้อมูลเช่น อัตราการเต้นของหัวใจในช่วงเวลากลางวันและกลางคืน, การเต้นของหัวใจที่ผิดปกติ และ จังหวะการเต้นของหัวใจที่ปกติและผิดปกติ. จอแสดงภาพ Holter ถูกคิดค้นโดยนอร์แมน Holter.^[47]

1949 หุ่นทดสอบการชน

ศีรษะ, คอ และกระดูกสันหลังทรวงอกของหุ่นทดสอบการชน

หุ่นทดสอบการชนเป็นอุปกรณ์การทดสอบที่ใช้หุ่นแทนคนเต็มรูปแบบที่จำลองขนาด, สัดส่วนของน้ำหนักและ เสียงที่เปล่งออกของร่างกายมนุษย์ และมักจะติดตั้งเครื่องมือวัดเพื่อบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับการทำงานแบบไดนามิกของ ATD ในผลกระทบต่อรถจำลอง. การใช้การวิจัยที่ใช้ซากศพของมนุษย์และสัตว์จากการศึกษาก่อนหน้านี้, หุ่นทดสอบการชนเทียมเป็นครั้งแรกเป็นหุ่นมนุษย์ที่ชื่อ "เซียร์ราแซม". มันถูกคิดค้นในปี 1949 โดย ซามูเอล ดับบลิว แอลเดอร์สัน ที่ห้องปฏิบัติการวิจัยแอลเดอร์สัน(ARL)ของเขา กับ เซียร์รา เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด สำหรับกองทัพ อากาศสหรัฐในขณะที่มีการดำเนินการทดสอบที่นั่งดีดตัวของเครื่องบิน, สายรัดนักบิน และ หมวกกันน็อกนักบิน.^[48]^[49] หุ่นชุดแรกๆของเดอร์สัน และของบรรดาคู่แข่งของเขาค่อนข้างจะเป็นของธรรมดาๆ, ที่ไม่มีโครงสร้างกระดูกเชิงกราน และข้อต่อกระดูกสันหลังน้อย. ด้วยผู้ผลิตรถยนต์อเมริกันที่สนใจในหุ่นทดสอบการชนที่ทนทานที่จะสามารถผ่านการทดสอบครั้งแล้วครั้งเล่า ในขณะที่ได้ผลลัพธ์ในสเปกตรัมที่กว้างของข้อมูลในระหว่างการชนรถยนต์จำลอง, หุ่นทดสอบการชนตัวแรกที่ใช้สำหรับการทดสอบรถยนต์ถูกคิดค้นอีกครั้งโดย ซามูเอล เดอร์สัน ในปี 1968. มันถูกเรียกว่า วีไอพี (Very Important Person) และมันถูกสร้างขึ้นด้วยขนาดของผู้ใหญ่เฉลี่ยคู่กับกรงซี่โครงเหล็ก, ข้อต่อ, คอที่ยืดหยุ่นและกระดูกสันหลัง.^[50]

1949 คอมไพเลอร์

คอมไพเลอร์คือโปรแกรมคอมพิวเตอร์หรือชุดของโปรแกรมที่แปลงรหัส source code ที่ถูกเขียนในภาษาต้นฉบับเป็นภาษาคอมพิวเตอร์ให้เป็นภาษาคอมพิวเตอร์ของเครื่องอื่นที่มักจะมีรูปแบบไบนารีเป็นที่รู้จักกันว่าเป็น object code "สาเหตุที่พบบ่อยที่สุดสำหรับความต้องการที่จะเปลี่ยน source code คือเพื่อสร้างโปรแกรมปฏิบัติการ. คอมไพเลอร์ตัวแรกที่เขียนขึ้นสำหรับภาษา A-0 โปรแกรม ได้อุทิศให้กับนักประดิษฐ์ เกรซ ฮอปเปอร์ ในปี 1949.^[51]

1949 สีสเปรย์

สีสเปรย์ ที่เรียกว่า aerosol paint เป็นสีที่บรรจุมาในภาชนะปิดผนึกที่มีแรงดันและถูกปล่อยออกมาเป็นสเปรย์หมอกละเอียดเมื่อกดปุ่มวาล์วที่ฝา. เป็นรูปแบบหนึ่งของการวาดภาพด้วยสเปรย์, สีสเปรย์ให้พื้นผิวที่เรียบและเคลือบอย่างสม่ำเสมอ, ซึ่งแตกต่างกับสีที่ทาด้วยลูกกลิ้งหรือใช้แปรงจำนวนมาก. ในปี 1949 เอ็ด ซีย์มัวร์ แห่ง Sycamore, อิลลินอยส์ คิดค้นสีสเปรย์ ซึ่งเขาคิดอยู่บนพื้นฐานของหลักการเดียวกับสเปรย์น้ำหอมและยาฆ่าแมลง. การขนส่งปรากฏในกระป๋องขนาดเล็กของสีที่บรรจุด้วยสารฉีดเป็นละอองและปิดด้วยหัวฉีดสเปรย์.^[52]

1950s

1950 เครื่องทำหิมะเทียม

มุมมองด้านหลังของเครื่องยิงหิมะ แสดงให้เห็นพัดลมของมัน

เครื่องทำหิมะคือการผลิตหิมะเทียมด้วยการบังคับให้น้ำและแรงดันอากาศผ่าน"ปืนหิมะ" หรือ " ปืนใหญ่หิมะ" บนลานสกี, ส่วนใหญ่จะใช้ที่สกีรีสอร์ทเพื่อเสริมหิมะธรรมชาติ. เครื่องนี้จะช่วยให้สกีรีสอร์ทในการปรับปรุงความน่าเชื่อถือของหิมะปกคลุมและขยายฤดูกาลสกีของพวกเขา. ค่าใช้จ่ายที่สูงในการผลิตของเครื่องทำหิมะต้องใช้อุณหภูมิที่ต่ำ. อุณหภูมิที่เป็นเกณฑ์สำหรับเครื่องทำหิมะจะลดลงเมื่อความชื้นลดลง. หิมะที่ทำจากเครื่องครั้งแรกร่วมคิดค้นโดยวิศวกรสาม คนคือ Art Hunt, Dave Richey และ Wayne Pierce แห่งมิลฟอร์ด, คอนเนตทิคัทเมื่อวันที่ 14 มีนาคม ค.ศ. 1950. สิ่งประดิษฐ์ที่ได้รับสิทธิบัตรของพวกเขาคิอ"ปืนใหญ่หิมะ"ต้วแรกที่ใช้ ท่อรดน้ำในสวน, คอมเพรสเซอร์ 10 แรงม้าและหัวฉีดปืนสเปรย์ซึ่งผลิตหิมะได้ประมาณ 20 นิ้ว. ^[53]

1950 เครื่องเป่าใบไม้

เครื่องเป่าใบไม้เป็นเครื่องมือทำสวนเป่าอากาศออกจากหัวฉีดเพื่อไล่เศษขยะออกจากสวน เช่น ใบไม้. เครื่องเป่าใบไม้มักจะขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์สองจังหวะหรือมอเตอร์ไฟฟ้า แต่ เครื่องยนต์สี่จังหวะที่ได้รับการแนะนำเมื่อเร็วๆนี้ บางส่วนอยู่ในความกังวลเกี่ยวกับมลพิษในอากาศ. เครื่องเป่าใบไม้โดยทั่วไปจะมีหน่วยมือถือวางอยู่ได้ด้วยตนเองหรือมีกระเป๋าเป้สะพายหลังที่มีท่อเป่ามือถือ, ถูกคิดค้นโดย Dom Quinto ในปี 1950.^[54]

1950 รหัสแฮมมิง

ในการสื่อสารโทรคมนาคม, รหัสแฮมมิงเป็นรหัสแก้ไขข้อผิดพลาดเชิงเส้น, มันสามารถตรวจสอบข้อผิดพลาดได้ถึงสองบิตพร้อมกัน และแก้ไขข้อผิดพลาดบิตเดียวได้, ดังนั้น การสื่อสารที่เชื่อถือจึงเป็นไปได้เมื่อระยะทางแฮมมิงระหว่างรูปแบบบิตที่ส่งและรับน้อยกว่าหรือเท่ากับหนึ่ง. ในทางตรงกันข้าม รหัสพาริตี้ง่ายๆไม่สามารถแก้ไขข้อผิดพลาดและสามารถเพียงแค่ตรวจสอบจำนวนเลขคี่ของข้อผิดพลาดได้เท่านั้น รหัส Hamming มีความสำคัญพื้นฐานในทฤษฎีการเข้ารหัส และ ยังคงอยู่ในการใช้งานจริงในการออกแบบคอมพิวเตอร์สมัยใหม่. รหัส Hamming ถูกคิดค้นในปี 1950 โดย ริชาร์ด แฮมมิง ที่เบลล์แล็บ.^[55]

1950 ตัวบอกบทระยะไกล

ชุดของสามตัวบอกบทระยะไกลแสดงข้อความในภาษาญี่ปุ่น

ตัวบอกบทระยะไกลเป็นอุปกรณ์แสดงผลที่บอกบทให้ผู้พูดด้วยข้อความภาพอิเล็กทรอนิกส์ในการพูดหรือสคริปต์. การใช้ตัวบอกบทระยะไกลมีความคล้ายคลึงกับการปฏิบัติของการใช้บัตรคิว. หน้าจออยู่ด้านหน้าและมักจะต่ำกว่าเลนส์ของกล้องและคำบนหน้าจอจะปรากฏต่อสายตาของผู้พูดโดยใช้แผ่นกระจกใส หรือตัวแยกแสงที่เตรียมมาเป็นพิเศษ. อุปกรณ์นี้ถูกคิดค้นในปี 1950 โดย ฮิวเบิร์ต Schlafly ที่ทำงานที่โรงถ่ายของ 20th Century Fox ในลอสแอนเจลีส.^[56]

1950 สายยาง Sengstaken - Blakemore

หลอด Sengstaken - Blakemore เป็นสายยางร้อยเข้าจมูกแบบหนึ่งที่ใช้เป็นครั้งคราวในการบริหารจัดการของเลือดออกในทางเดินอาหารส่วนบนที่เกิดจากการมีเลือดออกจากหลอดอาหาร ซึ่งเป็นเส้นเลือดที่โป่งพองในผนังหลอดอาหาร, มักจะเป็นผลมาจากโรคตับแข็ง. มันประกอบไปด้วยบอลลูนในกระเพาะอาหาร, บอลลูนในหลอดอาหาร และพอร์ตดูดกระเพาะอาหาร, หลอด Sengstaken - Blakemore ถูกคิดค้นโดย ดร. โรเบิร์ต ดับบลิว Sengstaken และ ดร. อาร์เธอร์ เอช Blakemore ในปี 1950.^[57]

1951 stellarator

stellarator เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการจำกัดขนาดพลาสมาร้อนด้วยสนามแม่เหล็ก ในการที่จะ รักษาปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชันที่มีการควบคุม. มันเป็นอุปกรณ์ฟิวชั่นที่มีการควบคุมที่เก่าแก่ที่สุด ในปี 1951, นักฟิสิกซ์ดวงดาวชาวอเมริกัน ลายแมน สปิตเซอร์ แนะนำว่า คณะกรรมาธิการพลังงานปรมาณูของสหรัฐอเมริกาเริ่มจำกัดขนาดและหาประโยชน์นิวเคลียร์ฟิวชันของไฮโดรเจนที่อุณหภูมิเกินกว่าอุณหภูมิพื้นผิวของดวงอาทิตย์. การทำเช่นนี้ สปิตเซอร์ คิดค้นอุปกรณ์การกำหนดค่าของการจำกัดพลาสม่าที่เรียกว่า stellarator.^[58]

1951 คูลเลอร์

กล่องเย็น, คูลเลอร์, กล่องน้ำแข็งแบบพกพา, ถังเย็น, คือกล่องหุ้มฉนวนที่ใช้ในการเก็บอาหารที่เน่าเสียง่าย หรือเครื่องดื่มเย็น. ก้อนน้ำแข็งที่มีความเย็นมากๆมักจะถูกเก็บอยู่ในนั้น เพื่อทำให้สิ่งที่อยู่ภายในยังคงเย็นอยู่. บางครั้งใช้แพ็คน้ำแข็ง, เนื่องจากพวกมันมักจะมีน้ำที่ละลายจากน้ำแข็งอยู่ภายใน หรือมีเจลปิดผนึกอยู่ภายในที่ยังคงมีความเย็นนานกว่าน้ำธรรมดา. คูลเลอร์ถูกคิดค้นในปี 1951 โดย ริชาร์ด C. Laramy แห่งโจเลียต, อิลลินอยส์. Laramy ยื่น สิทธิบัตรสำหรับคูลเลอร์เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 1951 และได้รับอนุมัติ สิทธิบัตร สหรัฐอเมริกา # 2663157 เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม ค.ศ. 1953.^[59]

1951 Wetsuit

wetsuit เป็นเสื้อผ้า, มักจะทำจากโฟมยางเทียม, สวมใส่โดยนักดำน้ , วินด์เซิร์ฟ, นักพายเรือแคนู และอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับกีฬาทางน้ำ, มันให้ฉนวนกันความร้อน, ความต้านทานต่อการเสียดสีและเป็นทุ่นลอยน้ำ. คุณสมบัติของฉนวนขึ้นอยู่กับฟองอากาศของก๊าซภายในวัสดุ, ที่ลด ความสามารถในการนำความร้อน. ฟองอากาศยังให้ wetsuit มีความหนาแน่นต่ำ, ทำให้ลอยอยู่ในน้ำได้. wet suit ถูกคิดค้นในปี 1951 โดยนักฟิสิกส์ชื่อ ฮิวจ์ Bradner แห่งมหาวิทยาลัยแห่งแคลิฟอร์เนีย ที่เบิร์กลีย์.^[60]

1951 น้ำยาลบคำผิด

น้ำยาลบคำผิด เป็นของเหลวสีขาวทึบแสง ที่นำไปป้ายกระดาษเพื่อปกปิดความผิดพลาดในข้อความ. มันเป็นสิ่งที่สำคัญมากเมื่อวัสดุถูกพิมพ์ด้วยเครื่องพิมพ์ดีด, แต่ความผิดพลาดได้น้อยลงตั้งแต่การถือกำเนิดของโปรแกรมประมวลผลคำ(อังกฤษ: word processor). น้ำยาลบคำผิดถูกคิดค้นโดย เบ็ตตี เนสมิธ เกรแฮม ในปี ค.ศ. 1951. แต่เดิมเรียกโดยใช้ชื่อแบรนด์ว่า "ความผิดออกมา", เกรแฮม เริ่มขายน้ำยาลบคำผิดในปี 1956.^[61]

1951 เวลล์เคาน์เตอร์

เวลล์เคาน์เตอร์เป็นอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับการวัดกัมมันตภาพรังสีในตัวอย่างขนาดเล็ก. มันมักจะ ใช้ตัวตรวจจับที่เป็นผลึกโซเดียมไอโอไดด์. มันถูกคิดค้นในปี 1951 โดยวิศวกรไฟฟ้าอเมริกัน และชีวฟิสิกส์ ฮาล แองเกอร์.^[62] แองเกอร์ ยื่นขอสิทธิบัตร สหรัฐอเมริกา # 2779876 เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 1953 สำหรับ" ตัวตรวจจับการแพร่กระจายของกัมมันตภาพรังสี" ของเขาซึ่งได้รับอนุมัติภายหลังในวันที่ 29 มกราคม ค.ศ. 1957.^[63]

1952 ถุงลมนิรภัย

ถุงลมนิรภัยที่ปล่อยลมออกแล้วบนพวงมาลัยหลังจากที่เกิดอุบัติเหตุการจราจร

ถุงลมนิรภัยเป็นคุณลักษณะด้านความปลอดภัยที่ออกแบบมาเพื่อปกป้องผู้โดยสารในรถยนต์ในการประสานงา. รถยนต์ส่วนใหญ่ในวันนี้มีถุงลมนิรภัยด้านคนขับและมีหลายคันที่มีอีกชุดหนึ่งด้านผู้โดยสารอีกด้วย. ถูกติดตั้งอยู่ในโครงพวงมาลัยด้านคนขับและในแผงควบคุมด้านผู้โดยสาร, อุปกรณ์ถุงลมนิรภัยตอบสนองภายในหลายส่วนพันของวินาทีหลังการชน. เบาะความปลอดภัยดั้งเดิมที่ถูกสร้างขึ้นครั้งแรกโดยจอห์น ดับเบิลยู Hetrick ในปี 1952. หลังจากที่ครอบครัวของเขามีส่วนร่วมในอุบัติเหตุทางรถยนต์, Hetrick ได้ร่างภาพสเก็ตช์ของอากาศอัด เก็บไว้ในภาชนะ. เมื่อน้ำหนักสปริงโหลดรับรู้การชะลอตัวของรถในอัตราที่รวดเร็วอย่างกระทันหันมากพอ, มันที่จะเปิดวาล์วที่จะปล่อยความดันในภาชนะเข้าไปจนเต็มถุง. ด้วยความรู้นี้ เขาได้พัฒนาออกแบบของเขาจนกระทั่งเขาได้รับการจดสิทธิบัตรในอุปกรณ์เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม ค.ศ. 1952.^[64] ต่อมาในปี 1967 Dr. Allen S. Breed ได้คิดค้นและพัฒนาให้เป็นองค์ประกอบสำคัญสำหรับการใช้งานในยานยนต์ในปี 1967 โดยใช้ตัวเซ็นเซอร์แรงเฉื่อยแบบลูกกลิ้ง-ใน-หลอดสำหรับการรับรู้การชน. จากนั้น Breed Corporation ทำการตลาดนวัตกรรมนี้ให้ไครสเลอร์.^[65]

1952 คลิป ขนมปัง

ตัวอย่างคลิปขนมปังที่แสดงราคาและวันหมดอายุ

คลิปขนมปังเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการปิดถุงพลาสติก เช่นถุงที่ใช้ใส่ขนมปังที่หั่นเป็นชิ้นแล้วถูกรัดปากถุงด้วยคลิปชนิดนี้. พวกมันยังถูกเรียกว่า ป้ายขนมปัง, ขนมปังแท็บ, ตัวรัดขนมปัง, ตัวหนีบขนมปัง, หรือ คลิปถุงขนมปัง. โดยการปิดผนึกถุงให้ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น กว่าการรัดหรือพับที่ปากถุง, คลิปหรือตัวรัดอาจรักษาคุณภาพให้ยาวนานขึ้น. คลิปขนมปังถูกประดิษฐ์ขึ้นในปี ค.ศ. 1952 โดย ฟลอยด์ แพกซ์ตัน แห่งแยคิมา, วอชิงตัน. แพกซ์ตันไม่เคยจดสิทธิบัตรอุปกรณ์.^[66]

1952 บาร์โค้ด

บาร์โค้ดเป็นตัวแทนของข้อมูลที่อ่านได้ด้วยเครื่องอ่านแสง, ซึ่งแสดงข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์บางอย่าง. แต่เดิม, บาร์โค้ดแสดงข้อมูลในความกว้าง(ของเส้น) และช่องว่างของเส้นขนาน, และอาจจะเรียกว่าบาร์โค้ดหรือสัญลักษณ์เชิงเส้นหรือหนึ่งมิติ. พวกมันยังมาในรูปแบบของสี่เหลี่ยม, จุด, รูปหกเหลี่ยม, และรูปแบบทางเรขาคณิตอื่นๆภายในภาพที่เรียกว่ารหัสหรือสัญลักษณ์แมทริกซ์สองมิติ. Norman Joseph Woodland เป็นที่รู้จักกันดีที่สุดสำหรับการประดิษฐ์บาร์โค้ด ซึ่งเขาได้รับสิทธิบัตรในเดือนตุลาคม ค.ศ. 1952.^[67]

1952 หัวใจเทียม

หัวใจเทียมถูกฝังเข้าไปในร่างกายเพื่อแทนที่หัวใจจริง. เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 1952, เฮนรี่ Opitek อายุ 41 ปีที่ทนทุกข์ทรมานจากการหายใจช่วงสั้นๆได้สร้างประวัติศาสตร์ทางการแพทย์ที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยฮาร์เปอร์ที่ Wayne State University ในรัฐมิชิแกน. หัวใจเทียมแบบ Dodrill-GMR, ถือว่าเป็นหัวใจจักรกลที่ทำงานได้เป็นครั้งแรก, ถูกคิดค้นโดย ดร. Forest Dewey Dodrill และประสบความสำเร็จในการใส่ให้กับ เฮนรี่ Opitek ในระหว่างการผ่าตัดเปิดหัวใจ.^[68] ในปี 1981 ดร. โรเบิร์ต Jarvik ได้ทำการฝังหัวใจถาวรเทียมตัวแรกของโลก,^[69] ที่มีชื่อว่า Jarvik 7 ให้กับ ดร. บาร์นีย์ คลาร์ก. หัวใจ, ขับเคลื่อนโดยคอมเพรสเซอร์ภายนอก, ทำให้ คลาร์ก มีชีวิตอยู่ได้ 112 วัน. หัวใจของ Jarvik ไม่ได้ถูกห้ามสำหรับการใช้งานถาวร. ตั้งแต่ปี 1982, กว่า 350 คนได้รับหัวใจของ Jarvik เพื่อเป็นสะพานสำหรับการปลูกถ่าย.^[70]

1953 เครื่องหัวใจ-ปอด

ดร. John Heysham Gibbon ได้ดำเนินการผ่าตัดที่ประสบความสำเร็จเป็นครั้งแรกในการผ่าตัดบายพาสหัวใจโดยที่เลือดถูกหมุนเวียนและให้ออกซิเจนแบบเทียมโดยใช้สิ่งประดิษฐ์ของเขา, ปั้มที่รู้จักกันว่าเป็นเครื่องหัวใจ-ปอด. เทคโนโลยีทางการแพทย์ชิ้นใหม่นี้, ซึ่งยอมให้ศัลยแพทย์ดำเนินการกับหัวใจที่แห้งและไม่เคลื่อนไหวโดยการทำให้เกิดการไหลเวียนของเลือดและปริมาณออกซิเจนของร่างกาย, เป็นการเพิ่มขึ้นอย่างมากสำหรับทางเลือกในการผ่าตัดรักษาข้อบกพร่องและโรคของหัวใจ.^[71]

1953 โวลต์มิเตอร์ (ดิจิตอล)

โวลต์มิเตอร์เป็นเครื่องมือที่ใช้สำหรับการวัดความต่างศักย์ไฟฟ้าระหว่างจุดสองจุดในวงจร ไฟฟ้า. โวลต์มิเตอร์แบบอนาล็อกเลื่อนเข็มชี้ไปตามเส้นสเกลเป็นสัดส่วนกับแรงดันไฟฟ้าของ วงจร; ดิจิตอลมิเตอร์แสดงค่าเป็นตัวเลขของแรงดันไฟฟ้าโดยการใช้ตัวแปลงอนาล็อกเป็นดิจิตอล(อังกฤษ: analog to digital converter). โวลต์มิเตอร์แบบดิจิตอลถูกคิดค้นในปี ค.ศ. 1953 โดย แอนดรู เคย์ ผู้ก่อตั้ง Kaypro.^[72]

1953 ปากกามาร์กเกอร์

ปากกามาร์กเกอร์, ปากกาทำเครื่องหมาย, ปากกาปลายสักหลาด, หรือตัวทำเครื่องหมาย เป็นปากกาที่มีที่มาของหมึกสีตัวเองและมักจะมีปลายที่ทำจากวัสดุที่มีรูพรุนเช่น สักหลาดหรือ ไนลอน. ซิดนีย์ โรเซนธาล จาก ริชมอนด์ฮิลล์, นิวยอร์ก, ได้รับเครดิตกับการประดิษฐ์ปากกามาร์กเกอร์ในปี ค.ศ. 1953.^[73]

1953 WD-40

WD-40 เป็นสเปรย์ไล่ความชื้นที่ใช้อย่างกว้างขวาง, เป็นประโยชน์ทั้งในบ้านและเขตการค้า, มันช่วยหล่อลื่นและคลายข้อต่อและบานพับ, เอาสิ่งสกปรกและสารตกค้างออก และ ช่วยรื้อถอนน้อตและสกรูที่ติด. ผลิตภัณฑ์ที่ยังอาจมีประโยชน์ในการไล่ความชื้น, เนื่องจากงานนี้เป็น วัตถุประสงค์และความตั้งใจในการออกแบบดั้งเดิม. WD-40 ถูกคิดค้นในปี ค.ศ. 1953 โดย Norm Larsen และพนักงานอีกสองคนที่บริษัท Rocket Chemical Company ในซานดิเอโก.^[74]

1953 เครื่องวัดของแอพการ์

เครื่องวัดของแอพการ์(อังกฤษ: Apgar scale) จะใช้ในการตรวจสอบสถานะทางกายภาพของทารกแรกเกิด, โดยการบริหารทารกแรกเกิดที่หนึ่งนาทีหลังคลอดและห้านาทีหลังคลอด. มันใช้คะแนนแอพการ์ในการวัดอัตราการเต้นหัวใจ, การหายใจ, สีของกล้ามเนื้อ, การตอบสนองและสี. การทดสอบนี้จะแจ้งเตือนได้อย่างรวดเร็วแก่บุคลากรทางการแพทย์ว่าทารกแรกเกิดต้องการความช่วยเหลือ. การทดสอบนี้ไม่ยุ่งยากและง่ายต่อการดำเนินการ, ถูกคิดค้นในปี ค.ศ. 1953 โดย ดร. เวอร์จิเนีย Apgar ศาสตราจารย์ด้านวิสัญญีที่ New York Columbia-Presbyterian Medical Center.^[75]

1953 Gilhoolie

gilhoolie เป็นเครื่องใช้ในครัวที่ใช้เปิดขวด. มันถูกคิดค้น โดย ดร. ดับบลิว ซี ฟูลเลอร์ ในปี ค.ศ. 1953.^[76]

1953 เหล็กล็อกล้อ

เหล็กล็อกล้อสมัยใหม่สำหรับรถที่ฝ่าฝืนการห้ามจอดรถในเมลเบิร์น โดยกรมตำรวจวิกตอเรีย, สังเกตเหล็กแหลมที่ยางเพื่อป้องกันการขับหนีหรือถูกถอดล้อ

เหล็กล็อกล้อ, หรือที่เรียกว่าเดนเวอร์บูท หรือบูทล้อ, เป็นอุปกรณ์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันไม่ให้ยานพาหนะจากการเคลื่อนย้าย. ในรูปแบบที่พบมากที่สุดของมัน, มันประกอบด้วย เหล็กรูปคีมคล้องล้อรถ, ที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันไม่ให้มีการกำจัดทั้งตัวมันเองและล้อ, เหล้กล็อกล้อถูกใช้ในการบังคับใช้กฎหมายกับการจอดรถที่ไม่ได้รับอนุญาตหรือผิดกฎหมาย, แทนการลากจูงรถที่กระทำผิดกฎหมายนั้น และเพื่อความปลอดภัยเช่นเป็นอุปสรรคต่อการที่รถจะถูกขโมย. แต่เดิมเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นตัวห้ามรถเคลื่อนที่, เหล็กล็อกล้อหรือบูตเดนเวอร์ถูกคิดค้น ในปี 1953 โดยแฟรงก์ Marugg แห่งเดนเวอร์, โคโลราโด. สิทธิบัตรถูกยื่นขอในวันที่ 7 พฤษภาคม 1955 และอนุมัติในสามปีต่อมาเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม ค.ศ. 1958.^[77]

1953 ลูก Wiffle

Wiffleball เป็นรูปแบบการดัดแปรงของกีฬาเบสบอลที่ได้รับการออกแบบสำหรับการเล่นในร่มหรือกลางแจ้งในพื้นที่อับ. เกมถูกเล่นโดยใช้ลูกพลาสติกยาง, พรุน, น้ำหนักเบา, กลวงและไม้ตีทำด้วยพลาสติกโดยปกติจะเป็นสีเหลืองยาวกลวง. ลูก Wiffle ถูกคิดค้นโดยเดวิด เอ็น Mullany แห่งแฟร์ฟิลด์, คอนเนตทิคัท ในปี ค.ศ. 1953 เมื่อเขากำลังออกแบบลูกที่หมุนโค้งได้อย่างง่ายดายสำหรับลูกชายวัย 12 ปีของเขา. มันถูกตั้งชื่อเมื่อลูกชายและเพื่อนของเขาจะอ้างถึงการ strikeout ว่าเป็นการ "whiff".^[78]

1953 Maser

ตัวปล่อยความถี่วิทยุแบบไฮโดรเจน, ชิ้นส่วนตัวแรกภายในเครื่อง maser ไฮโดรเจน

Maser เป็นอุปกรณ์ที่ผลิตคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่สอดคล้องกันผ่านการขยายที่เกิดจากการแผ่รังสีที่ถูกกระตุ้น. ในอดีต คำนี้มาจากคำย่อ"Microwave Amplification by Stimulated Emission of Radiation". ชาร์ลส์ เอช ทาวน์ส, เจ พี กอร์ดอน และ H.J. Zeiger สร้าง maser เครื่องแรกที่มหาวิทยาลัยโคลัมเบียในปี ค.ศ. 1953.^[79]

1953 กระดาษสำเนาไม่มีคาร์บอน

กระดาษสำเนาไม่มีคาร์บอนเป็นทางเลือกให้กับกระดาษคาร์บอน, ใช้ในการทำสำเนาของเอกสารต้นฉบับ, เขียนด้วยลายมือโดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ใดๆ. กระดาษสำเนาที่ไม่มีถูกคิดค้นโดยนักเคมี Lowell Schleicher และ Barry Green, ที่ทำงานให้กับบริษัทเอ็นซีอาร์, ที่ย่อยสลายทางชีวะได้, ไม่มีคราบ, เป็นทางเลือกสำหรับกระดาษคาร์บอน.^[80]

1953 ตัวขยายสัญญาณแบบข้ามสนาม

การทำงานภายในของตัวขยายสัญญาณแบบข้ามสนาม

ตัวขยายสัญญาณแบบข้ามสนาม (อังกฤษ: crossed-field amplifier(CFA)) เป็นหลอด สูญญากาศชนิดพิเศษที่ใช้บ่อยเป็นตัวขยายสัญญาณไมโครเวฟในเครื่องส่งสัญญาณพลังงานสูงมาก. CFA มี gain และแบนด์วิดธ์ต่ำกว่าหลอดขยายสัญญาณไมโครเวฟอื่นๆ, แต่จะมีประสิทธิภาพมากกว่าและความสามารถในการส่งออกพลังงานที่สูงกว่ามาก. วิลเลียม ซี บราวน์ ได้รับการยกย่องให้เป็นผู้คิดค้นตัวขยายสัญญาณข้ามสนามในปี ค.ศ. 1953 ซึ่งเขาเรียกมันว่า Amplitron.^[81]

1954 ถุงเก็บมีซิป

ถุงเก็บมีซิปเป็นถุงพลาสติกที่มีปากถุงถูกปิดผนึกด้วยซิปที่ช่วยให้สามารถมองเห็นสิ่งที่เก็บไว้ข้างในถุง. รู้จักกันดีภายใต้ชื่อแบรนด์และเครื่องหมายการค้า Ziploc, ถุงเก็บมีซิปเป็นที่นิยมใช้ในการเก็บอาหารที่เน่าเสียง่ายและอาหารว่าง, มีการจดสิทธิบัตรโดย โรเบิร์ต ดับบลิว Vergobbi เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม ค.ศ. 1954. อย่างไรก็ตาม ถุงเหล่านี้ยังไม่ได้รับการแนะนำให้กับผู้บริโภคจนกระทั่งปี 1968 เมื่อ Dow Chemical แนะนำถุง Ziploc.^[82]

1954 อาหารเย็นทีวี

อาหารเย็นทีวีเป็นอาหารสำเร็จรูป, แช่แข็งหรือแช่เย็น, ทั่วไปในแพคเกจแยกต่างหาก. มันต้องมีการเตรียมเล็กน้อย, อบด้วยเตาอบหรือเตาไมโครเวฟ, และมีองค์ประกอบครบสำหรับอาหารหนึ่งมื้อในถาดที่มีช่องสำหรับใส่อาหาร. คาร์ล เอ สเวนสัน แห่ง C.A. สเวนสัน แอนด์ซัน ได้รับเครดิตโดยทั่วไปสำหรับการประดิษฐ์อาหารเย็นทีวี. เจอร์รี่ โทมัส ผู้บริหารของสเวนสันที่เกษียณแล้วกล่าวว่าเขามีความคิดนี้หลังจากที่บริษัทพบว่าตัวเองมีส่วนเกินจำนวนมากของไก่งวงแช่แข็งเนื่องจากยอดขายไม่ดีในวันขอบคุณพระเจ้า.^[83]

1954 ลำโพงแบบ acoustic suspension

วูฟเฟอร์แบบ acoustic suspension เป็นชนิดหนึ่งของลำโพงที่ช่วยลดการบิดเบือนของเสียงเบสที่เกิดจากการหยุดทำงานทางกลไกที่ไม่เป็นเส้นตรงและแข็งกระด้างในลำโพงทั่วไป. ลำโพงแบบ acoustic suspension ถูกคิดค้นในปี ค.ศ. 1954 โดย Edgar Villchur และนำ ไปสู่การผลิตเชิงพาณิชย์โดย Villchur และ Henry Kloss ด้วยการก่อตั้งของ Acoustic Research ในเคมบริดจ์ แมสซาชูเซต.^[84]

1954 โมเดลจรวด

โมเดลจรวดเป็นจรวดขนาดเล็กที่มีการโฆษณากันทั่วไปว่ามีความสามารถที่จะยิงขึ้นไปโดย ใครก็ได้, ที่ระดับความสูงต่ำโดยทั่วไป, มักจะประมาณ 300-1500 ฟุต และสามารถกู้คืนด้วยวิธีการที่หลากหลาย. ได้รับความนิยมในหมู่เด็กและมือสมัครเล่น, โมเดลจรวดถือว่าเป็นงานอดิเรก. ในปี 1954 ผู้เชี่ยวชาญดอกไม้ไฟที่ได้รับอนุญาต Orville Carlisle พร้อมกับพี่ชายของเขา โรเบิร์ต, ได้ออกแบบโมเดลแรกของจรวดและโมเดลมอเตอร์จรวด.^[85]

1954 ประตู (เลื่อนอัตโนมัติ)

ประตูบานเลื่อนอัตโนมัติจะเปิดและปิดโดยไฟฟ้า, สปริง หรือโดยเซ็นเซอร์. ประตูนี้ไม่จำเป็นต้องมีคนเปิดหรือปิดประตูให้ด้วยการหมุนลูกบิดประตูหรือยกขึ้นวางบนแท่งเหล็กของประตูมันเอง. ประตูบานเลื่อนอัตโนมัติมักจะพบที่ทางเข้าและออกของซูเปอร์มาร์เก็ต, ห้างสรรพสินค้า และอาคารสนามบิน. ในปี ค.ศ. 1954 ดี ฮอร์ตัน และ ลิว เฮวิตต์ เป็นผู้ร่วมคิดค้นประตูบานเลื่อนอัตโนมัติ.^[86]

1954 คีมของ mögen

คีมของ mögen เป็นเครื่องมือผ่าตัดที่ใช้ในการขลิบอวัยวะเพศชายของมนุษย์. อุปกรณ์ถูกออกแบบมาเพื่อตัดหนังหุ้มปลาย, ในขณะที่ปกป้องลึงค์. คีมของ mögen ถูกคิดค้นในปี ค.ศ. 1954 โดยแรบไบ แฮร์รี่ Bronstein, บรูคลิน, นิวยอร์ก. เป็นเวลาหลายปี, มันถูกใช้เฉพาะใน พิธีกรรมขลิบของชาวยิวในพิธีที่เรียกว่า bris. แต่ในปีที่ผ่านมาล่าสุด, แพทย์อเมริกันมีการใช้คีมบ่อยครั้งในงานด้านการแพทย์สำหรับการขลิบเด็กแรกเกิด.^[87]

1954 การกู้ชีพด้วยการเป่าปาก

การช่วยชีวิตด้วยการเป่าลมหายใจเข้าทางปากเป็นทักษะการปฐมพยาบาลเพื่อรักษาชีวิตที่สำคัญ, มีการฝึกซ้อมทั่วโลก. มันเป็นที่รู้จักกันวิธีเดียวเท่านั้นที่มีประสิทธิภาพของการรักษาชีวิตของคนที่ได้รับความเดือดร้อนจากหัวใจหยุดเต้นให้มีชีวิตอยู่นานพอสำหรับการรักษาที่ชัดเจนที่จะส่งมอบให้. ในปี ค.ศ. 1954 เจมส์ อีแลม แสดงให้เห็นเป็นครั้งแรกถึงการทดลองที่ การช่วยชีวิตด้วยการเป่าลมหายใจเข้าทางปาก (อังกฤษ: cardiopulmonary resuscitation (CPR)) เป็นเทคนิคที่ฟังขึ้นและร่วมกับ ดร. ปีเตอร์ Safar ได้แสดงให้เห็นถึง ความเหนือกว่าเมื่อเทียบกับวิธีการทั้งหลายก่อนหน้านี้.^[88]

1954 เพชรสังเคราะห์

เพชรสังเคราะห์เป็นเพชรที่ถูกผลิตในกระบวนการทางเทคโนโลยีที่ตรงข้ามกับเพชรธรรมชาติ, ซึ่งจะถูกสร้างขึ้นในกระบวนการทางธรณีวิทยา. เพชรสังเคราะห์ยังเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางว่าเป็น เพชร HPHT หรือเพชร CVD, HPHT และ ซีวีดี เป็นวิธีการผลิต, HPHT ย่อมาจาก high-pressure high-temperature หรือการสังเคราะแบบแรงดันสูงอุณหภูมิสูง และ CVD ย่อมาจาก chemical vapor deposition หรือไอสารเคมีสะสม. แม้ว่า แนวคิดของการผลิตเพชร เทียมคุณภาพสูงเป็นเรื่องเก่า, การสังเคราะห์ที่ทำซ้ำใหม่ได้ของเพชรไม่ได้เป็นเรื่องเก่า. ในปี ค.ศ. 1954 ฮาวเวิร์ด เทรซี่ ฮอลล์ ที่ ศูนย์ปฏิบัติการวิจัยของ GE ได้คิดค้น belt press ในรูปของโดนัทซึ่งถูกคุมขังในห้องตัวอย่างและลูกสูบสองโค้งเรียวเพื่อใส่ความดันบนห้องเพื่อที่จะ ผลิตเพชรสังเคราะห์ที่ประสบความสำเร็จในเชิงพาณิชย์และสามารถทำซ้ำใหม่ได้เป็นครั้งแรก.^[89]

1954 ปืนเรดาร์

ปืนเรดาร์หรือปืนความเร็วเป็นปืน Doppler ขนาดเล็กที่ใช้ในการตรวจสอบความเร็วของวัตถุ, มันทำงานขึ้นอยู่กับปรากฏการณ์ดอปเพลอร์(อังกฤษ: Doppler effect) ที่นำไปใช้กับ ลำแสงเรดาร์ในการวัดความเร็วของวัตถุที่มันยิงไปถึง. ปืนเรดาร์อาจจะเป็นแบบมือถือหรือติดตั้งบนยานพาหนะ. ไบรซ์ เค บราวน์ คิดค้นปืนเรดาร์ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1954.^[90]

1955 เครื่องยกผู้ป่วย

เครื่องยกผู้ป่วยเป็นอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ช่วยให้ผู้ป่วยในโรงพยาบาลและสถานพยาบาลและผู้ที่ได้รับการดูแลสุขภาพที่บ้านที่จะทำการย้ายระหว่างเตียงและเก้าอี้ผู้ป่วยหรือ สถานที่พักผ่อนอื่นๆที่คล้ายกัน, โดยใช้พลังงานไฮดรอลิค. เครื่องยกผู้ป่วย, จะถูกใช้สำหรับผู้ป่วยที่จำกัดการเคลื่อนไหว, เป็นสิทธิบัตรเมื่อวันที่ 12 เมษายน ค.ศ. 1955 โดย โรนัลด์ อาร์ สแตรทตัน ในสิ่งที่เขาเรียกว่า "เครนบนพื้นที่มีขาที่ปรับได้".^[91]

1955 แคปซูลของ Crosby-Kugler

แคปซูลของ Crosby-Kugler เป็นอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับเก็บชิ้นเนื้อของเยื่อเมือกในลำไส้ขนาดเล็ก, ที่จำเป็นสำหรับการวินิจฉัยโรคของลำไส้ขนาดเล็กต่างๆ. มันถูกคิดค้นโดย ดร. วิลเลียม โฮล์มส์ ครอสบี, จูเนียร์ ในปี ค.ศ. 1955.^[92]

1955 เรือดำน้ำนิวเคลียร์

USS Nautilus, เรือดำน้ำนิวเคลียร์ลำแรกของโลกที่ปฏิวัติสงครามทางเรือ. เรือดำน้ำทั่วไปต้องมีสองเครื่องยนต์: เครื่องยนต์ดีเซลในการเดินทางบนพื้นผิวและเครื่องยนต์ไฟฟ้าเพื่อเดินทางใต้น้ำในที่ซึ่งไม่มีออกซิเจนสำหรับเครื่องยนต์ดีเซลที่สามารถใช้ได้. โดยอาศัยความสามารถของนิวเคลียร์, USS Nautilus สามารถเดินทางโดยไม่ถูกขัดขวางหลายพันไมล์ใต้พื้นผิวโดยไม่ต้องเติมเชื้อเพลิง. เริ่มต้นในปี 1951, พลเรือตรี Hyman Rickover ได้รับเครดิตในการออกแบบเรือดำน้ำนิวเคลียร์ลำแรกของโลกผู้ซึ่งนำและควบคุมกลุ่มของนักวิทยาศาสตร์และวิศวกรที่ สาขาเครื่องปฏิกรณ์เรือของคณะกรรมาธิการพลังงานปรมาณู. หลังจากการทดลองในทะเลได้ดำเนินการและการทดสอบเสร็จสมบูรณ์, USS Nautilus ได้ดำเนินการอย่างเต็มที่ในเดือนมกราคม ค.ศ. 1955.^[93]

1955 ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์

ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์, หรือฮาร์ดไดรฟ์, ฮาร์ดดิสก์, หรือ ดิสก์ไดรฟ์ เป็นอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลไม่ระเหยที่เก็บข้อมูลที่เข้ารหัสแบบดิจิตอลบนจานที่หมุนอย่างรวดเร็วที่มีพื้นผิวเป็นแม่เหล็ก. ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ถูกคิดค้นโดย Reynold Johnson และแนะนำในเชิงพาณิชย์ในปี 1956 กับ คอมพิวเตอร์ IBM 305 RAMAC.^[94]

1955 ไดรฟ์ฮาร์มอนิก

ไดรฟ์ฮาร์มอนิก เป็นระบบเกียร์กลไกชนิดพิเศษที่สามารถปรับปรุงลักษณะบางอย่างเมื่อเทียบกับระบบเกียร์แบบดั้งเดิม. ไดรฟ์ฮาร์มอนิกถูกคิดค้นในปี ค.ศ. 1955 โดย วอลตัน มัสเซอร์ .^[95] สิทธิบัตร สหรัฐอเมริกา # 2906143 ถูกยื่นขอเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 1955 และอนุมัติให้กับ มัสเซอร์ เมื่อวันที่ 29 กันยายน ค.ศ. 1959.^[96]

1955 magnetometer แบบสั่นตัวอย่าง

magnetometer แบบสั่นตัวอย่าง หรือ (อังกฤษ: vibrating sample magnetometer (VSM)) เป็นเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ที่ใช้วัดคุณสมบัติของแม่เหล็ก จากนั้นกลุ่มตัวอย่างมีการสั่นสะเทือนทางกายภาพแบบคลื่นรูปซายน์, ทั่วไปโดยผ่านการใช้วัสดุ piezoelectric. มันถูกคิดค้นในปี ค.ศ. 1955 โดยนักฟิสิกส์อเมริกัน ไซมอน Foner ที่ห้องปฏิบัติการลินคอล์นของเอ็มไอทีในเคมบริดจ์, แมสซาชูเซต.^[97]^[98] Foner ยื่นขอสิทธิบัตร สหรัฐอเมริกา # 2946948 เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 1957. มันได้รับอนุมัติในวันที่ 26 กรกฎาคม ค.ศ. 1960.^[99]

1956 ลูกกลิ้งผ้าสำลี

ลูกกลิ้งผ้าสำลีหรือตัวกำจัดสำลี เป็นม้วนกระดาษกาวด้านเดียวบนกระดาษแข็งหรือม้วนพลาสติกที่ติดตั้งอยู่บนแกนกลาง, ที่มีมือจับติดมาด้วย. อุปกรณ์นี้จะอำนวยความสะดวกในการกำจัดสำลีหรือขนสัตว์หรือเส้นใยขนาดเล็กอื่นๆออกจากวัสดุส่วนใหญ่เช่นเสื้อผ้า, เบาะ และผ้าลินิน. ลูกกลิ้งผ้าสำลีถูกร่วมคิดค้นในปี ค.ศ. 1956 โดยวิศวกรไฟฟ้าอเมริกัน นิโคลัส แม็คเคย์ และภรรยาของเขา เฮเลน.^[100]

1956 การแข่งรถโกคาร์ต

การแข่งรถโกคาร์ท เป็นตัวแปรของกีฬาแข่งรถแบบเปิดล้อด้วยรถสี่ล้อง่ายๆขนาดเล็กที่เรียกว่ารถโกคาร์ท, หรือ คาร์ทเกียร์กระปุกที่ขึ้นอยู่กับการออกแบบ. โกคาร์ทแตกต่างกันอย่างกว้างขวางในความเร็ว ซึ่งบางเครื่องสามารถทำความเร็วได้เกิน 160 ไมล์ต่อชั่วโมง, ในขณะที่ โกคาร์ทตั้งใจให้เป็นรถสำหรับประชาชนทั่วไปในสวนสนุกที่อาจจะจำกัดความเร็วไม่เกิน 15 ไมล์ต่อชั่วโมง. ในช่วงฤดูร้อนของปี ค.ศ. 1956, มือเก่าไฟแรง Art Ingels ได้สร้างโกคาร์ทคันแรกจากท่อรถเก่า, ลูกปัดเชื่อม และมอเตอร์เครื่องตัดหญ้า, โดยไม่ได้ตระหนักว่าเขาได้คิดค้นกีฬาและรูปแบบของการแข่งรถใหม่.^[101]

1956 หุ่นยนต์อุตสาหกรรม

หุ่นยนต์อุตสาหกรรมเป็นหุ่นยนต์ที่ถูกควบคุมโดยอัตโนมัติ, โปรแกรมใหม่ได้, อเนกประสงค์ ที่มีแกนสามชิ้นหรือมากกว่า. คนแรกที่คิดค้นหุ่นยนต์อุตสาหกรรมคือ George Devol และ Joseph F. Engelberger.^[102]

1956 ระบบปฏิบัติการ(การประมวลผลเป็นชุด)

ระบบปฏิบัติการ (อังกฤษ: Operating System (OS)) เป็นซอฟต์แวร์ (โปรแกรมและข้อมูล) ที่ทำงานบนเครื่องคอมพิวเตอร์และบริหารจัดการฮาร์ดแวร์ของคอมพิวเตอร์และให้บริการทั่วไปสำหรับการดำเนินการที่มีประสิทธิภาพของโปรแกรมต่างๆ. สำหรับการทำงานของฮาร์ดแวร์ เช่นนำเข้าและส่งออกและจัดสรรหน่วยความจำ, ระบบปฏิบัติการทำหน้าที่เป็นตัวกลา ระหว่างโปรแกรมประยุกต์และฮาร์ดแวร์ของคอมพิวเตอร์, ถึงแม้ว่ารหัสโปรแกรมมักจะมีการ ดำเนินการโดยตรงโดยฮาร์ดแวร์, แต่มักจะเรียกระบบปฏิบัติการหรือถูกขัดจังหวะด้วย OS. ระบบปฏิบัติการจะพบได้ในเกือบทุกอุปกรณ์ที่มีเครื่องคอมพิวเตอร์เป็นส่วนประกอบ, จากโทรศัพท์มือถือและเครื่องเล่นวิดีโอเกม จนถึงซูเปอร์คอมพิวเตอร์และเว็บเซิร์ฟเวอร์. GM-NAA I/O, ที่สร้างขึ้นโดย Owen Mock และ Bob Patrick แห่ง ห้องปฏิบัติการวิจัยของ General Motors ในช่วงต้นปี 1956 (หรือปลาย 1955) สำหรับเมนเฟรมคอมพิวเตอร์ IBM 701 ของพวกเขาได้รับพิจารณาโดยทั่วไปว่าจะเป็นชุดแรกของระบบปฏิบัติการ "การประมวลผลชุด" (อังกฤษ: batch processing) และเป็นไปได้ที่จะเป็นระบบปฏิบัติการ"ของจริง"ตัวแรก. รูปแบบพื้นฐานของระบบปฏิบัติการที่มีอยู่ก่อนการประมวลผลชุด, ระบบควบคุม input/output (อังกฤษ: Input/Output Control System (IOC)) เป็นตัวอย่างหนึ่ง. อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ แตกต่างโดยเฉพาะ และทำให้ GM-NAA I/O เป็นตัวแรกในชนิดของมัน คือว่า แทนที่จะมีผู้ปฏิบัติเป็นมนุษย์สักคนที่จะโหลดแต่ละโปรแกรมด้วยตนเองเหมือนกับสิ่งที่ระบบก่อนหน้านี้มีความสามารถที่จะทำได้, ซอฟแวร์ด้วยคอมพิวเตอร์ที่ใช้ใน GM-NAA I/O, จะจัดการจัดตารางเวลา, บริหารและมัลติทาสกิ้งของแอพลิเคชันของคอมพิวเตอร์ทั้งหมด.^[103]

1956 Fortran

Fortran เป็นภาษาการเขียนโปรแกรมที่มีวัตถุประสงค์ในการใช้ทั่วไป, มีขั้นตอน และมีความจำเป็น, ที่เหมาะโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการคำนวณตัวเลขและการคำนวณทางวิทยาศาสตร์. Fortran มาครองพื้นที่ของการเขียนโปรแกรมนี้ในช่วงต้น และอยู่ในการใช้งานอย่างต่อเนื่องมานานกว่าครึ่งศตวรรษ ในพื้นที่การคำนวณด้วยคอมพิวเตอร์อย่างเข้มข้น เช่น การคาดการณ์สภาพอากาศด้วยตัวเลข, การวิเคราะห์องค์ประกอบที่จำกัด, การคำนวณพลศาสตร์ของไหล (อังกฤษ: computational fluid dynamics (CFD)), การคำนวณทางฟิสิกส์และเคมี. มันเป็นหนึ่งในภาษาที่นิยมมากที่สุดในพื้นที่ของการใช้คอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูง และโปรแกรมเพื่อจัดทำมาตรฐานและจัดอันดับซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่เร็วที่สุดของโลกถูกเขียนด้วยภาษา Fortran. ในปี 1956 John Backus และทีมงานของนักวิจัยที่ ไอบีเอ็ม ได้คิดค้นการเขียนโปรแกรมภาษา Fortran สำหรับคอมพิวเตอร์เมนเฟรม 704 ของไอบีเอ็ม.^[104]

1956 วีดิทัศน์

วีดิทัศน์เป็นวิธีการบันทึกภาพและเสียงลงบนเทปแม่เหล็ก ซึ่งตรงข้ามกับฟิล์มภาพยนตร์. เครื่องบันทึกวีดิทัศน์มืออาชีพตัวแรกในทางปฏิบัติเป็นเครื่องวิดีโอเทปแบบ quadruplex แนะนำโดย Ampex เมื่อ 14 เมษายน ค.ศ. 1956. ถูกประดิษฐ์คิดค้นโดย Charles Ginsburg และ Ray Dolby, Quad ใช้ระบบสี่หัวขวางบนเทปสองนิ้ว (5.08 เซนติเมตร) และหัวเชิงเส้นสำหรับร่องเสียง.^[105]

1956 แหวนเก็บอนุภาค

แหวนเก็บอนุภาค(อังกฤษ: Particle storage ring) เป็นตัวเร่งอนุภาคทรงกลมประเภทหนึ่งซึ่งภายในมีลำแสงอนุภาคแบบต่อเนื่องหรือแบบชีพจรอาจถูกปล่อยให้หมุนเวียนเป็นระยะเวลานานถึงหลายๆชั่วโมง เจอราร์ด เค โอนีล คิดค้นแหวนเก็บอนุภาคครั้งแรกในปี ค.ศ. 1956.^[106]

1957 รถยกแบบคัดท้าย

รถยกแบบคัดท้าย (อังกฤษ: skid steer loader หรือ skid loader) เป็นเครื่องยนต์ตัวถังแข็งขนาดเล็กที่มีแขนยกแนบตัวสองข้างที่ใช้ติดเครื่องมือหรือชิ้นส่วนที่หลากหลายที่ช่วยประหยัดแรงงาน. แม้ว่า บางครั้งพวกมันมีรางติดตั้งอยู่ด้วย, รถยกแบบคัดท้ายโดยทั่วไปจะเป็นรถขับเคลื่อนสี่ล้อที่สามารถผลักดันวัสดุจากสถานที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง, บรรทุกวัสดุในกระบะหน้าของมันหรือขนวัสดุใส่ลงในรถบรรทุกหรือรถพ่วง. Brothers Louis และ Cyrill Keller ร่วมกันคิดค้นรถยกแบบคัดท้ายคันแรก, ซึ่งมีพื้นฐานมาจากรถยกสามล้อที่พวกเขาพัฒนาในปี 1957 สำหรับเกษตรกรไก่งวงใกล้ Rothsay, มินนิโซตา. ในเดือนกันยายนปี 1958 พวกเขาได้รับการว่าจ้างจากพี่น้องตระกูล Melroe ที่บริษัท Melroe การผลิต ใน Gwinner, นอร์ทดาโคตา, ซึ่งต่อมากลายเป็นบริษัท Bobcat. โดยใช้การออกแบบของ Brothers, Melroe แนะนำ M60 รถยกขับเคลื่อนด้วยตัวเอง และในปี 1960 หลุยส์เพิ่มแกนไดรฟ์ล้อหลัง, กลายเป็นรุ่น M400, รถยกแบบคัดท้ายจริงคันแรกของโลก.^[107]

1957 เลเซอร์

เลเซอร์เป็นอุปกรณ์ที่ปล่อยรังสีแม่เหล็กไฟฟ้าออกมาผ่านกระบวนการที่เรียกว่า การแผ่รังสีที่ถูกกระตุ้น (อังกฤษ: stimulated emission). แสงเลเซอร์มักจะเป็น spatially coherent ซึ่งหมายความว่าแสงถูกปล่อยออกมาทั้งในรูปของลำแสงที่แคบความแตกต่างต่ำหรือสามารถถูกแปลงให้เป็นลำแสงเดียวด้วยความช่วยเหลือขององค์ประกอบแสง เช่นเลนส์. เลเซอร์ถูกใช้ในการอ่าน CD และบาร์โค้ด, ขีปนาวุธนำวิถี, ลบรอยแผล, ผลิตเหล็ก, วัดระยะทางจากโลกไปยังดวงจันทร์อย่างแม่นยำ, ที่บันทึกภาพความละเอียดสูงของเนื้อเยื่อสมอง, สร้างความบันเทิงให้คนที่อยู่ในการแสดงของแสง และทำสิ่งอื่นๆอีกหลายพันอย่าง. ในปี 1957 Gordon Gould นักฟิสิกส์อเมริกัน เป็นคนแรกที่สร้างทฤษฎีความคิดและการใช้เทคโนโลยีเลเซอร์. แม้จะมีการสู้รบ 20 ปีกับสหรัฐอเมริกาเรื่องจดสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้าสำนักงาน, โกลด์ขณะนี้ได้เกี่ยวข้องอย่างกว้างขวางในฐานะที่เป็นนักประดิษฐ์ดั้งเดิมของเลเซอร์.^[108] นอกจากนี้, ชาร์ลส์ เอช ทาวน์ส และ อาร์เธอร์ แอล Schawlow, นักวิทยาศาสตร์ที่ห้องปฏิบัติการเบลล์ เขียนบทความ, Infrared and Optical Masers ในปี 1958 ที่มีอิทธิพลอย่างมากต่อทฤษฎีของเลเซอร์. ประหลาดและน่าขัน, โกลด์ ทาวน์ส หรือ Schawlow ไม่เคยสร้างเลเซอร์ที่ทำงานได้เป็นครั้งแรก. ในวันที่ 7 กรกฎาคม 1960 นักฟิสิกส์อเมริกัน Theodore H. Maiman สร้างเลเซอร์อันแรก. แกนกลางของเลเซอร์ของเขาประกอบไปด้วยทับทิมที่มนุษย์สร้างขึ้นเพื่อเป็นสื่อกลางที่พร้อมทำงาน (อังกฤษ: active medium), วัสดุที่ได้รับการตัดสินว่าไม่เหมาะสม โดยนักวิทยาศาสตร์คนอื่นๆที่ปฏิเสธแกนคริสตัลเพื่อประโยชน์ของก๊าซต่างๆ.^[109]

1957 กล้องจุลทรรศน์แบบ Confocal

กล้องจุลทรรศน์แบบ confocal เป็นเทคนิคการถ่ายภาพแสงที่ใช้ในการเพิ่มความคมชัดของ micrograph และเพื่อสร้างภาพสามมิติโดยใช้รูเข็มอวกาศที่จะกำจัดแสงนอกจุดโฟกัสหรือแสงจ้าในชิ้นงานตัวอย่างที่มีความหนากว่าระนาบโฟกัส. เทคนิคนี้ได้รับความนิยมในชุมชนวิทยาศาสตร์และอุตสาหกรรม. งานทั่วไปรวมถึงวิทยาศาสตร์เพื่อชีวิตและการตรวจสอบสารกึ่งตัวนำ. หลักการของการถ่ายภาพ confocal ถูกคิดค้นและจดสิทธิบัตรโดย มาร์วิน มินสกี ในปี ค.ศ. 1957.^[110]

1957 ซองน้ำตาล

ซองน้ำตาลเป็นวิธีการจัดส่งน้ำตาลสำหรับการบริโภคหนึ่งครั้ง. ซองน้ำตาลมีจำหน่ายทั่วไปในร้านอาหารและบาร์กาแฟในการบริการที่ดีกว่าชามน้ำตาลหรือตู้จ่ายน้ำตาลด้วยเหตุผลของความเรียบร้อย, และการควบคุมการหกเลอะเทอะและ การควบคุมบางส่วนของการลดอาหาร. ในปี 1957, ซองน้ำตาลที่ประกอบไปด้วยสารแทนน้ำตาลแคลอรี่ต่ำ ได้รับการคิดค้นโดย Benjamin Eisenstadt ผู้ก่อตั้ง Cumberland Packing หรือที่รู้จักกันดีในวันนี้เป็นบริษัท Sweet 'N Low. ^[111]

1957 บรรจุภัณฑ์ฟองอากาศ

บรรจุภัณฑ์ฟองอากาศที่รู้จักกันแพร่หลายโดยชื่อแบรนด์ว่า Bubble Wrap

รู้จักกันดีโดยใช้ชื่อแบรนด์ของ Bubble Wrap, บรรจุภัณฑ์ฟองอากาศเป็นวัสดุพลาสติกยืดหยุ่นโปร่งใส ที่ใช้กันทั่วไปสำหรับกันกระแทกของสิ่งเปราะบาง, ชิ้นส่วนที่แตกง่ายเพื่อดูดซับ หรือลดแรงกระแทกและการสั่นสะเทือน. เว้นระยะอย่างสม่ำเสมอ, ทรงกลมนูนบรรจุอากาศที่รู้จักกันว่าเป็น"ฟองอากาศ" มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1/4 นิ้ว(6 มิลลิเมตร) จนถึงขนาดใหญ่ถึงหนึ่งนิ้ว(26 มิลลิเมตร) หรือมากกว่า, บรรจุภัณฑ์ฟองอากาศได้รับการร่วมคิดค้นโดย อัลเฟรด ฟิลดิ้ง และมาร์ค Chavannes ในปี 1957.^[112]

1957 Borazon

Borazon, อัญรูปของโบรอนไนไตรด์, เป็นสารที่แข็งแกร่งที่สุดเป็นอันดับสี่ตามหลังแท่งนาโนเพชรรวม, fullerite ultrahard, และเพชร, และเป็นวัสดุเทียมที่แข็งแกร่งที่สุดอันดับสาม. Borazon เป็นผลึกที่สร้างขึ้นโดยให้ความร้อนในปริมาณที่เท่ากับให้โบรอนและไนโตรเจนที่อุณหภูมิสูงกว่า 1,800°เซลเซียส (3300°ฟาเรนไฮต์) ที่ 7 gigapascal (£ 1,000,000 แรง ต่อตารางนิ้ว). Borazon ถูกคิดค้นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1957 โดย โรเบิร์ต เอช Wentorf จูเนียร์ นักเคมีกายภาพ ที่ทำงานให้กับ บริษัท General Electric. ในปี 1969, General Electric ใช้ชื่อ Borazon เป็นเครื่องหมายการค้าสำหรับคริสตัล.^[113]

1957 กล้องรังสีแกมมา

กล้องรังสีแกมมาเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการสร้างภาพไอโซโทปกัมมันตรังสีโดยการเปล่งรังสี แกมมา, เทคนิคนี้เรียกว่า scintigraphy. การประยุกต์ใช้ scintigraphy รวมถึงการพัฒนายาเสพติดในช่วงต้น และการถ่ายภาพนิวเคลียร์ทางการแพทย์เพื่อดูและวิเคราะห์ภาพของร่างกายมนุษย์ของการกระจายตัวของการฉีด, สูดดมหรือกินทางการแพทย์ของสาร radionuclides ที่เปล่งรังสีแกมมา. กล้องรังสีแกมมาถูกคิดค้นโดย Hal Anger ในปี ค.ศ. 1957.^[114]

1957 Cryotron

cryotronเป็น สวิทช์ที่ทำงานโดยใช้สภาพตัวนำยิ่งยวด. cryotron ทำงานบนหลักการที่ว่า สนามแม่เหล็กทำลายสภาพตัวนำยิ่งยวด cryotron ถูกคิดค้นโดย ดัดลีย์ อัลเลน บั๊ก ในปี 1957 .^[115]

1958 การเฝ้าดูทารกในครรภ์แบบ Doppler

การเต้นของหัวใจแบบ Doppler หรือที่เรียกว่า การเฝ้าดูทารกในครรภ์แบบ Doppler หรือ การเฝ้าดูการเต้นของหัวใจทารกในครรภ์แบบ Doppler เป็นอุปกรณ์มือถือที่ใช้อัลตราซาวนด์ ในการระบุการเต้นของหัวใจของทารกในครรภ์ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการการดูแลสุขภาพก่อนคลอด. การเฝ้าดูทารกในครรภ์แบบ Doppler ถูกคิดค้นในปี 1958 โดยสูติแพทย์ อเมริกัน ดร. เอ็ดเวิร์ด เอช Hon.^[116]^[117]

1958 เข็มขัดรัดสายไฟ

เข็มขัดรัดสายไฟ(อังกฤษ: cable tie) หรือที่เรียกว่า zip tie หรือ tie-wrap เป็นตัวมัดแบบหนึ่งโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผูกสายไฟอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหลายเข้าด้วยกันเพื่อจัดระเบียบ สายไฟเหล่านั้น. พวกมันยังเป็นที่นิยมใช้เป็นกุญแจมือชั่วคราว, โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศ สหรัฐอเมริกา, สหราชอาณาจักรและในปานามา. แต่เดิมเป็นที่รู้จักว่าเป็น Ty-Rap, ถูกคิดค้น ในปี 1958 โดย Maurus C. Logan ที่ทำงานเป็นเวลาหลายปีที่ โทมัส แอนด์ เบตต์.^[118] โลแกน ยื่นจดสิทธิบัตร สหรัฐอเมริกา # 3022557 เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 1958 และได้รับอนุมัติให้แก่ เขาในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1962.^[119]

1958 โปรแกรมภาษาลิสป์

ภาษาลิสป์เป็นครอบครัวของโปรแกรมภาษาคอมพิวเตอร์ที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและมี ไวยากรณ์ในวงเล็บที่โดดเด่นและครบถ้วน. ระบุไว้แต่เดิมในปี 1958, ภาษาลิสป์เป็นภาษาการเขียนโปรแกรมระดับสูงที่เก่าแก่ที่สุดอันดับสองในการใช้งานอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน ในขณะที่ Fortran เก่าแก่ที่สุด. มันถูกคิดค้นโดย John McCarthy ในปี 1958.^[120]

1958 คาร์บอนไฟเบอร์

คาร์บอนไฟเบอร์เป็นวัสดุที่ประกอบด้วยเส้นใยบางอย่างมากมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 0.005-0.010 มม.และส่วนใหญ่ประกอบด้วยของอะตอมของคาร์บอน. ในปี 1958 ดร. โรเจอร์เบคอน คิดค้นคาร์บอนไฟเบอร์ประสิทธิภาพสูงเป็นครั้งแรกที่ ยูเนี่ยน คาร์ไบด์ ปาร์มา เทคนิคอลเซ็นเตอร์ ที่ตั้งอยู่ด้านนอกของคลีฟแลนด์, โอไฮโอ.^[121]

1958 วงจรรวม

วงจรรวม เป็นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็กที่ได้รับการผลิตในพื้นผิวของชั้นบางๆของวัสดุกึ่งตัวนำ. วงจรรวมถูกใช้ในเกือบทุกอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้อยู่ในปัจจุบันและเป็นการปฏิวัติ โลกของอิเล็กทรอนิกส์. การบูรณาการของทรานซิสเตอร์ขนาดเล็กจำนวนมากลงในชิปขนาดเล็กเป็นการปรับปรุงขนาดใหญ่ของการประกอบวงจรด้วยมือที่ใช้ส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์ย่อยๆ. เมื่อวันที่ 12 กันยายน 1958, Jack Kilby ได้พัฒนาชิ้นส่วนของเจอร์เมเนียมด้วยเครื่องออสซิลโลสโคป. ในขณะที่กดสวิทช์, ออสซิลโลสโคปได้แสดงให้เห็นคลื่นรูปไซน์อย่างต่อเนื่อง, ซึ่งพิสูจน์ว่าวงจรรวมของเขามีการทำงาน. สิทธิบัตรสำหรับ"วงจรแข็งที่ทำจากเจอร์เมเนียม", วงจรรวมครั้งแรก, ถูกยื่นจดโดยนักประดิษฐ์ Jack Kilby ในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 1959.^[122]

1959 Fusor

fusor เป็นอุปกรณ์ที่ประดิษฐ์คิดค้นโดย Philo T. Farnsworth ในปี 1959 เพื่อสร้าง นิวเคลียร์ฟิวชัน. ซึ่งแตกต่างจากระบบการควบคุมฟิวชั่นส่วนใหญ่ซึ่งให้ความร้อนช้าๆกับพลาสม่าที่ถูกจำกัดโดยสนามแม่เหล็ก, เครื่อง fusor จะฉีดไอออน"อุณหภูมิสูง"โดยตรงเข้าไปในห้องปฏิกิริยา, เป็นการหลีกเลี่ยงความซับซ้อนจำนวนมาก. วิธีการนี้ถูกเรียกว่า การเก็บตัวไฟฟ้าสถิตเฉื่อย (อังกฤษ: inertial electrostatic confinement).^[123]

1959 ดาวเทียมสภาพอากาศ

ดาวเทียมสภาพอากาศเป็นดาวเทียมประเภทหนึ่งที่ใช้เป็นหลักในการเฝ้าดูสภาพอากาศและ สภาพภูมิอากาศของโลก. ดาวเทียมสภาพอากาศดวงแรก, Vanguard 2, ถูกยิงขึ้นในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 1959, แม้ว่าดาวเทียมสภาพอากาศดวงแรกที่จะได้รับการพิจารณาว่าเป็นความสำเร็จจะเป็น TIROS-1 ซึ่งยิงขึ้นโดยองค์การนาซ่า เมื่อวันที่ 1 เมษายน 1960.^[124]

1959 Spandex

Spandex เป็นใยสังเคราะห์ที่รู้จักกันในความยืดหยุ่นที่โดดเด่น, มักจะถูกสวมใส่เป็นเครื่องแต่งกายสำหรับการออกกำลังกายและในยิมนาสติก. สแปนเด็กซ์มีความแข็งแรงและทนทานกว่ายางซึ่งเป็นคู่แข่งไม่สังเคราะห์ที่สำคัญ. Spandex ถูกคิดค้นในปี 1959 โดย Joseph Shivers นักเคมีของดูปองท์.^[125]

1960s

1960 ที่นั่งความปลอดภัยของเด็ก

ที่นั่งความปลอดภัยของเด็ก, บางครั้งจะเรียกว่าที่นั่งความปลอดภัยของทารก, ระบบฉุดรั้งเด็ก, ที่นั่งรถฉุดรั้ง, หรือคลุมเครือเป็น ที่นั่งในรถ, เป็นที่นั่งที่ออกแบบมาเฉพาะเพื่อป้องกันเด็กจาก การบาดเจ็บหรือเสียชีวิตในระหว่างการชน. พวกมันมักถูกใช้โดยเด็กเมื่อนั่งอยู่ในรถ. ในปี 1960, Leonard Rivkin แห่งเดนเวอร์, โคโลราโด คิดค้นที่นั่งความปลอดภัยของเด็กอันแรกสำหรับใช้ในยานพาหนะที่ติดตั้งถังที่นั่ง.^[126] สิทธิบัตรถูกยื่นขอในวันที่ 5 มีนาคม 1962 และได้รับการอนุมัติเมื่อ 22 ตุลาคม 1963.^[127]

1960 สนามหญ้าเทียม

สนามหญ้าเทียมหรือสนามหญ้าสังเคราะห์เป็นพื้นผิวที่มนุษย์สร้างขึ้นทำให้ดูเหมือนหญ้าธรรมชาติ. ส่วนใหญ่มักจะถูกใช้ในสนามกีฬาที่มีต้นกำเนิดหรือมีการเล่นตามปกติบนพื้นหญ้า. ในปี 1960, David Chaney เป็นคนที่ได้เครดิตยาวนานกับการประดิษฐ์รุ่นแรกของสนามหญ้าเทียม, จากนั้นก็แจ้งเกิดเชิงพาณิชย์ในปี 1965 เมื่อมันถูกติดตั้งที่ Reliant Astrodome, สนามกีฬาในฮูสตัน, เท็กซัส.^[128]

1960 บัตรแถบแม่เหล็ก

บัตรแถบแม่เหล็กเป็นบัตรชนิดหนึ่งที่มีความสามารถในการจัดเก็บข้อมูลโดยการปรับเปลี่ยน ความเป็นแม่เหล็กของอนุภาคแม่เหล็กที่ทำจากเหล็กเล็กๆบนแผ่นของวัสดุแม่เหล็กบนบัตร. แถบแม่เหล็ก , บางครั้งเรียกว่า magstripe ถูกอ่านโดยการสัมผ้สและรูดทางกายภาพผ่านหัว อ่าน. บัตรแถบแม่เหล็กใช้ทั่วไปในบัตรเครดิต, บัตรประจำตัวเช่นบัตรอนุญาตขับรถ,และตั๋วโดยสาร. บัตรแถบแม่เหล็กถูกคิดค้นในปี 1960 โดย Forrest Parry วิศวกรของ IBM, ผู้มีความคิดในการติดชิ้นส่วนของเทปแม่เหล็กในการเก็บข้อมูลการรักษาความปลอดภัยและข้อมูลเข้าไปบนบัตรพลาสติก.^[129]

1960 การนำวิถีทั่วโลกด้วยระบบดาวเทียม

ดาวเทียม*Transit*ของนาซากำลังโคจรรอบโลก, เป็น ระบบการทำงาน GNSS ครั้งแรกในโลก

การนำวิถีทั่วโลกด้วยระบบดาวเทียม (อังกฤษ: global navigation satellite system (GNSS)) ให้ตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ที่ครอบคลุมทั่วโลก. GNSS ยอมให้เครื่องรับอิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็กสามารถกำหนดตำแหน่งของตัวเอง เช่น ลองจิจูด, ละติจูด และระดับความสูงให้ภายในระยะไม่กี่เมตรโดยใช้สัญญาณเวลาที่ส่งไปตามเส้นสายตา(อังกฤษ: line of sight)โดยสัญญาณวิทยุจากดาวเทียมในอวกาศ. เครื่องรับบนพื้นดินที่มีตำแหน่งคงที่ยังสามารถถูกนำมาใช้ในการคำนวณเวลาที่แม่นยำเป็นข้อมูลอ้างอิงสำหรับการทดลองทางวิทยาศาสตร์. ระบบแรกดังกล่าวคือ"Transit", ถูกพัฒนาโดยห้องปฏิบัติการฟิสิกส์ประยุกต์ของ Johns Hopkins University ภายใต้การนำของ ริชาร์ด Kershner. การพัฒนาระบบสำหรับกองทัพเรือสหรัฐฯเริ่มต้นขึ้นในปี 1958 และดาวเทียมต้นแบบ Transit 1A, ถูกยิงขึ้นในเดือน กันยายน 1959. ดาวเทียมดวงนี้ล้มเหลวในการที่จะไปถึงวงโคจร. ดาวเทียมดวงที่สอง, Transit 1B, ถูกยิงขึ้นประสบความสำเร็จในวันที่ 13 เมษายน 1960 โดยจรวด Thor-Ablestar. การส่งดาวเทียมTransitดวงสุดท้ายเกิดขึ้นในเดือน สิงหาคม 1988.^[129]

1960 ยาเม็ดคุมกำเนิดโดยการกินแบบรวม

ยาเม็ดคุมกำเนิดโดยการกินแบบรวม, หรือยาคุมกำเนิด, หรือเพียงแค่ "ยา" คือการรวมกันของ สโตรเจนและโปรเจสตินนำมารับประทานเพื่อยับยั้งการให้กำเนิดปกติของเพศหญิง. เมื่อวันที่ 9 พ.ค. 1960, องค์การอาหารและยาประกาศว่าจะอนุมัติ Enovid 10 มิลลิกรัมสำหรับใช้คุมกำเนิด. ตามเวลาที่ Enovid 10 มิลลิกรัมถูกนำไปใช้ทั่วไปเป็นเวลาสามปี, อย่างน้อยผู้หญิงครึ่งหนึ่งล้านคนได้ใช้มัน. เริ่มต้นการวิจัยและการศึกษาของเขาในความเป็นไปได้ของความสมบูรณ์ของผู้หญิงในปี 1950, Dr. Gregory Pincus ได้คิดค้นยาเม็ดคุมกำเนิดโดยการกินแบบรวมในปี 1960.^[130]

1960 Obsidian hydration dating

Obsidian hydration dating เป็นวิธีทางธรณีเคมีของการกำหนดอายุทั้งในแง่แน่นอนหรือสัมพันธ์ (อังกฤษ: absolute or relative terms) ของสิ่งประดิษฐ์ที่ทำจากหินสีดำโปร่งใสจากภูเขาไฟ (อังกฤษ: obsidian). Obsidian hydration dating ได้รับการแนะนำในปี 1960 โดย Irving Friedman และ Robert Smith จากสำนักงานสำรวจทางธรณีวิทยาของสหรัฐอเมริกา.^[131]

1960 เลเซอร์ก๊าซ

เลเซอร์ก๊าซเป็นเลเซอร์ที่กระแสไฟฟ้าจะถูกปล่อยผ่านก๊าซในการผลิตแสงสว่าง. เลเซอร์ก๊าซตัวแรก, ฮีเลียม-นีออน, ถูกคิดค้นโดย วิลเลียม อา เบนเน็ตต์, ดอน Herriott และ อาลี จาแวน ในปี 1960.^[132] เลเซอร์ก๊าซที่มองเห็นได้อย่างต่อเนื่องครั้งแรก, ทำงานที่ 632.8 นาโนเมตรในสีแดง, ถูกคิดค้นโดย A. D. White และ J. D. Rigden ในปี ค.ศ. 1962.^[133]]

1961 สเปรดชีท (อิเล็กทรอนิกส์)

สเปรดชีตอิเล็กทรอนิกส์เป็นแอปพลิเคชันจัดระเบียบข้อมูลสารสนเทศให้อยู่ในรูปซอฟต์แวร์ คอมพิวเตอร์ที่กำหนดด้วยคอลัมน์(แนวตั้ง) และแถว(แนวนอน). ถูกใช้เป็นหลักเพื่อวัตถุประสงค์ทางธุรกิจและการบัญชี, ข้อมูลนั้นจะสามารถ "บวกขึ้นไป" ตามสูตรที่จะให้ผลรวม ทั้งหมด. โปรแกรมสเปรดชีทสรุปข้อมูลสารสนเทศจากหลายแหล่งให้อยู่ในที่เดียวกันและนำเสนอผลลัพธ์ในรูปแบบที่จะช่วยให้ผู้ตัดสินใจเห็น"ภาพใหญ่"ทางการเงินของบริษัท. สเปรดชีต ในกระดาษได้มีการใช้โดยนักบัญชีเป็นเวลาหลายร้อยปี. อย่างไรก็ตาม สเปรดชีตอิเล็กทรอนิกส์ที่ทำงานด้วยคอมพิวเตอร์เป็นแหล่งกำเนิดมากขึ้นล่าสุด. ในปี 1961, ริชาร์ด Mattessich, อาจารย์มหาวิทยาลัยแห่งแคลิฟอร์เนียที่เบิร์กลีย์, ได้บุกเบิกแนวคิดของ speadsheets อิเล็กทรอนิกส์สำหรับใช้ในการบัญชีธุรกิจ. ในฤดูใบไม้ร่วงของปี 1978, นักเรียน โรงเรียนธุรกิจฮาร์วาร์ด Dan Bricklin, เกิดความคิดสำหรับเครื่องคิดเลขแบบโต้ตอบที่สามารถมองเห็นได้. Bricklin และ Bob Frankston จึงร่วมกันคิดค้นโปรแกรมซอฟต์แวร์ VisiCalc, "โปรแกรมนักฆ่า"และสเปรดชีตอิเล็กทรอนิกส์ตัวแรกของโลกสำหรับใช้ในคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล.^[134]^[135]

1961 คอมพิวเตอร์สวมใส่ได้

คอมพิวเตอร์สวมใส่ได้ เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ที่สามารถสวมใส่บนร่างกายของมนุษย์ได้. คอมพิวเตอร์สวมใส่ได้ เป็นประโยชน์โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานที่ต้องการความสนับสนุนจากคอมพืวเตอร์ในขณะที่ มือ, เสียง, ตาหรือความสนใจของผู้ใช้มีส่วนร่วมอย่างแข็งขันกับสภาพแวดล้อมทางกายภาพ. คอมพิวเตอร์สวมใส่ได้ถูกคิดขึ้นครั้งแรกโดยนักคณิตศาสตร์ ชาวอเมริกัน Edward O. Thorp ในปี ค.ศ. 1955 และร่วมคิดค้นกับวิศวกรอิเล็กทรอนิกส์ชาวอเมริกัน Claude Shannon.^[136]

1961 เครื่องดื่มอัดลมแช่แข็ง

เครื่องดื่มอัดลมแช่แข็ง เป็นส่วนผสมของน้ำเชื่อม, แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์และน้ำ, ที่ถูกแช่แข็งโดยเครื่องที่สั่งได้เพื่อสร้างเครื่องดื่มที่ประกอบด้วยฟองเกล็ดน้ำแข็งที่มีของเหลวน้อยมาก. ในปี 1961, โอมาร์ Knedlik แห่ง Coffeyville, แคนซัส ได้คิดค้นเครื่องดื่มอัดลมแช่แข็งครั้งแรกและเป็นที่ยอมรับว่าเป็นผู้ประดิษฐ์เครื่องดื่มอัดลมแช่แข็ง. ในปี 1965, 7-Eleven ได้รับใบอนุญาตเครื่องและเริ่มขายสิ่งประดิษฐ์ของ Knedlik โดยชื่อแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักแพร่หลายคือ Slurpee.^[137]

1961 Biofeedback

Biofeedback เป็นรูปแบบของการแพทย์ทางเลือกที่เกี่ยวข้องกับการวัดการทำงานของร่างกายของเรื่องเชิงปริมาณ เช่นความดันโลหิต, อัตราการเต้นของหัวใจ, อุณหภูมิผิว, กิจกรรมต่อมเหงื่อ, และความตึงเครียดของกล้ามเนื้อ, เพื่อถ่ายทอดข้อมูลให้กับผู้ป่วยในเวลาจริงขณะนั้น. เรื่องนี้ทำให้เกิดการรับรู้ของผู้ป่วยและการควบคุมสติของกิจกรรมทางสรีรวิทยาที่หมดสติของเขาหรือของเธอ. Neal Miller โดยทั่วไปถือว่าเป็นบิดาของ biofeedback สมัยใหม่. มิลเลอร์ สร้างทฤษฎีหลักการพื้นฐานของ biofeedback โดยใช้ทฤษฎีของเขาในสภาวะที่คลาสสิกและมีผลบังคับที่ทั้งสองอย่างนี้เป็นผลของหลักการการเรียนรู้ร่วมกันในปี 1961. มิลเลอร์ตั้งสมมติฐานว่า พฤติกรรมใดๆที่วัดได้ทางสรีรวิทยาภายในร่างกายมนุษย์จะตอบสนองในบางวิธีที่จะควบคุมด้วยความสมัครใจ.^[138]

1962 ดาวเทียมสื่อสาร

ดาวเทียมสื่อสาร เป็นดาวเทียมที่ถูกประจำการอยู่ในพื้นที่สำหรับทำหน้าที่สื่อสารโทรคมนาคม. ดาวเทียมสื่อสารที่ทันสมัยใช้ความหลากหลายของวงโคจร. สำหรับการให้บริการแบบจุดต่อจุดอยู่กับที่, ดาวเทียมสื่อสารจะมีเทคโนโลยีไมโครเวฟในการถ่ายทอดสัญญาณวิทยุที่เสริมกับงานของสายการสื่อสารใต้น้ำ. คิดค้นในปีค.ศ. 1962โดยวิศวกรการบินและอวกาศอเมริกัน จอห์น โรบินสัน เพียร์ซ, นาซ่าส่ง Telstar, ดาวเทียมสื่อสารที่ใช้งานครั้งแรกของโลกและเป็นดาวเทียมดวงแรกที่ออกแบบมาเพื่อส่งผ่านการสื่อสารทางโทรศัพท์และข้อมูลความเร็วสูง. ชื่อของมันยังคงถูกใช้มาจนถึงทุกวันนี้สำหรับดาวเทียมออกอากาศวิทยุโทรทัศน์จำนวนมาก.^[139]

1962 ตัวจุดปล่องไฟ

ตัวจุดปล่องไฟ ([[lang-en|chimney starter}}) หรือที่เรียกว่า ปล่องไฟถ่าน, เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการจุดไฟให้กับถ่านก้อนหรือถ่านกลมบนตะแกรง. แม้ว่า ตัวจุดปล่องไฟขณะนี้บางครั้งถูก ถือว่าเป็นวิธีการ"ดั้งเดิม"ของการจุดไฟถ่าน, อุปกรณ์พื้นฐานที่ใช้กับเตาบาร์บีคิวถูกร่วมคิดค้นในปีค.ศ. 1962 โดย Hugh King, Lavaughn Johnson, และ Garner Byars แห่ง Corinth, มิสซิสซิปปี และออกวางตลาดภายใต้ฉลาก "Auto Fire". สิทธิบัตรสำหรับตัวจุดปล่องไฟถูกยื่นจดโดยผู้ประดิษฐ์มันในวันที่ 6 กรกฎาคม 1962 และได้รับอนุมัติในเดือนมกราคม 1965.^[140]

1962 ไดโอดเปล่งแสง

ไฟ LED สีฟ้า, สีเขียว, สีแดงสามารถนำมารวมกันในการผลิตสีอื่นที่ชัดมากที่สุด, รวมทั้งสีขาว

ไดโอดเปล่งแสง (LED) เป็นไดโอดสารกึ่งตัวนำที่ปล่อยแสงออกมาเมื่อกระแสไฟฟ้าถูกจ่ายเข้าไปในทิศทาง forward ของอุปกรณ์ เช่นเดียวกับในวงจรไฟ LED ธรรมดา. ผลที่ได้คือ รูปแบบของการเรืองแสงเมื่อสเปกตรัมของแสงที่ไม่ต่อเนื่องกันและแคบ ถูกปล่อยออกมาจาก p-n junction ในวัสดุ solid state. ครั้งแรกของ LED ที่มีสเปกตรัมที่มองเห็นได้ ถูกคิดค้นในปี ค.ศ. 1962 โดย Nick Holonyak Jr.^[141]^[142]^[143]

1962 Electret ไมโครโฟน

ไมโครโฟน electret เป็นไมโครโฟนที่ใช้คอนเดนเซอร์, ซึ่งช่วยลดความจำเป็นสำหรับแหล่งจ่ายไฟโดยใช้วัสดุที่เก็บประจุอย่างถาวร. วัสดุ Electret รู้จักกันมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1920 และได้รับการเสนอให้เป็นองค์ประกอบของไมโครโฟนคอนเดนเซอร์มาแล้วหลายครั้ง, แต่ถูกพิจารณา ว่าไม่สะดวกในทางปฏิบัติ จนกระทั่งฟอยล์ electret ถูกคิดค้นขึ้นที่ Bell Laboratories ในปี ค.ศ. 1962 โดย James Edward Maceo West หรือ จิม เวสต์ ใช้ฟอยล์เทฟลอนโลหะบางๆ. วัสดุนี้กลายเป็นชนิดที่พบมากที่สุด, ที่ใช้ในงานจำนวนมาก ตั้งแต่การบันทึกคุณภาพสูง จนถึงไมโครโฟนในตัวของอุปกรณ์บันทึกเสียงขนาดเล็กและโทรศัพท์.^[144]

1962 เข็มฉีดยาแบบเจ็ท

เข็มฉีดยาแบบเจ็ทเป็นเข็มฉีดยาทางการแพทย์แบบหนึ่งที่ใช้ของเหลวแรงดันสูงแทนการฉีดด้วยเข็มใต้ผิวหนัง, ถูกคิดค้นโดย Aaron Ismach ในปีค.ศ. 1962.^[145]

1962 เลเซอร์ไดโอด

เลเซอร์ไดโอดเป็นเลเซอร์ที่ตัวสื่อที่ใช้งานเป็นสารกึ่งตัวนำที่คล้ายกันกับที่พบในไดโอดเปล่งแสง. ชนิดที่พบและนำมาใช้ในทางปฏิบัติมากที่สุดของเลเซอร์ไดโอดจะเกิดขึ้นจาก p-n junction และขับเคลื่อนด้วยกระแสไฟฟ้าที่ฉีด. อุปกรณ์เหล่านี้บางครั้งเรียกว่า เลเซอร์ไดโอดแบบฉีดเพื่อแยกพวกมันออกจากเลเซอร์ไดโอดแบบสูบแสงซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตได้ง่ายกว่าในห้องปฏิบัติการ. เลเซอร์ไดโอดถูกคิดค้นในปี ค.ศ. 1962 โดย Robert N. Hall.^[146]

1962 เครื่องวัดกลูโคส

เครื่องวัดกลูโคสเป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์สำหรับการกำหนดความเข้มข้นโดยประมาณของ น้ำตาลในเลือด, ถูกคิดค้นครั้งแรกโดย Leland Clark และ Ann Lyons ที่โรงพยาบาลเด็ก ซินซินนาติ ซึ่งเป็นที่รู้จักครั้งแรกในฐานะอิเล็กโทรดเอนไซม์กลูโคส. เซ็นเซอร์ทำงานโดยการวัดปริมาณของออกซิเจนที่ถูกบริโภคโดยเอนไซม์.^[147]

1963 Kicktail

Kicktails เป็นปลายของแผ่นสเกตบอร์ดที่งอขึ้นด้านบนซึ่งในวันนี้ ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญในตัวสเก็ตบอร์ด. kicktail ด้านหน้ามักจะเรียกว่าจมูก, ในขณะที่ kicktail ด้านหลังเรียกว่าหาง. kicktail ถูกคิดค้นในปี 1963 โดย แลร์รี่ สตีเวนสัน.^[148] สิทธิบัตร สหรัฐอเมริกา # 3565454 ถูกยื่นขอเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 1969 และออกให้แก่สตีเวนสันเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1971.^[149] U.S. patent #3,565,454 was filed on June 12, 1969 and issued to Stevenson on February 2, 1971.^[150]

1963 เมาส์คอมพิวเตอร์

ในการใช้คอมพิวเตอร์, เมาส์เป็นอุปกรณ์ชี้ตำแหน่งที่ทำงานโดยการตรวจสอบการเคลื่อนไหว สองมิติเมื่อเทียบกับพื้นผิวที่รองรับมัน. การเคลื่อนไหวของเมาส์โดยทั่วไปจะแปลให้เป็นการเคลื่อนไหวของตัวชี้บนจอแสดงผล, ที่ช่วยให้การควบคุมอย่างละเอียดของส่วนติดต่อผู้ใช้แบบกราฟิก (อังกฤษ: Graphic User Interface). Douglas Engelbart คิดค้นเมาส์คอมพิวเตอร์ที่ Augmentation Research Center, ที่ได้รับเงินสนับสนุนจาก Advanced Research Projects Agency ของกระทรวงกลาโหม(ตอนนี้เป็น DARPA) ในปี 1963. เมาส์ตัวแรกถูกแกะสลักจากไม้และตัวติดตามการเคลื่อนไหวผ่านทางสองล้อที่ติดตั้งอยู่ที่ด้านล่างแทนที่จะเป็นลูกกลมดังเช่นที่ใช้งานในรูปแบบปัจจุบัน.^[151]

1963 ภาษาเบสิก

ในการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์, ภาษาเบสิกเป็นครอบครัวของภาษาการเขียนโปรแกรมระดับสูง. ภาษาเบสิกดั้งเดิมถูกคิดค้นในปี 1963 โดย John George Kemeny และ Thomas Eugene Kurtz ที่ Dartmouth College ในมลรัฐนิวแฮมป์เชียร์ เพื่อให้นักเรียนแผนกที่ไม่ใช่วิทยาศาสตร์สามารถเข้าถึงคอมพิวเตอร์ได้. ในขณะที่ เกือบทุกการใช้งานของคอมพิวเตอร์ จำเป็นต้องมีการเขียนโปรแกรมที่กำหนดเอง, ซึ่งเป็นสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์และนักคณิตศาสตร์ เท่านั้นที่มีแนวโน้มที่จะสามารถทำได้. ภาษาและตัวแปรของมันด้กลายเป็นที่แพร่หลายใน ไมโครคอมพิวเตอร์ในปี 1970s และ 1980s.^[152]

1963 สายสวนบอลลูน

สายสวนบอลลูนเป็นสายสวนชนิด"อ่อน"ที่มี"บอลลูน"ถูกทำให้พองได้ที่ปลายของมัน. มันจะถูกใช้ในระหว่างขั้นตอนการใส่สายสวนเพื่อขยายรอยเปิดแคบๆหรือทางผ่านเข้าภายในร่างกาย. สายสวนบอลลูนที่แฟบอยู่จะถูกใส่เข้าที่, จากนั้นจะถูกทำให้พองขึ้นเพื่อดำเนินการในขั้นตอนที่จำเป็นต่อไปและถูกทำให้แฟบลงอีกครั้งเพื่อจะได้ดึงมันออกมา. การใช้งานทั่วไป รวมถึงการขยายหลอดเลือด. ในปี 1963 ดร. Thomas Fogarty คิดค้นและจดสิทธิบัตรสายสวนบอลลูน.^[153]

1963 ดาวเทียม Geosynchronous

ดาวเทียม geosynchronous เป็นดาวเทียมที่มีวงโคจรติดตามเหนือโลกซ้ำอยู่ที่เดิมกับจุดใดจุดหนึ่งบนโลกเป็นประจำตลอดช่วงเวลา. ดาวเทียม geosynchronous ดวงแรกของโลก, Syncom II ที่ถูกส่งขึ้นไปกับจรวดเดลต้าที่นาซาในปี 1963 ถูกคิดค้นโดย แฮโรลด์ โรเซ็น.^[154]

1964 Buffalo Wings

Buffalo Wings, คลุกในเศษขนมปังอิตาลี, ทอดในน้ำมันท่วม, กับเนย, น้ำส้มสายชูและซอสเผ็ดทาบาสโกและซอสจุ่มแต่งหน้าเนยแข็งน้ำเงิน

ปีกบัฟฟาโล, ปีกร้อนหรือปีกเป็นส่วนของปีกไก่ (กลมหรือแบน)ที่ถูกทอดธรรมดาไม่ใส่ขนมปัง จากนั้นคลุกในซอส. ซอสปีกไก่คลาสสิกแบบบัฟฟาโล่สไตล์ประกอบด้วยซอสเผ็ดพริกไทยป่นกับน้ำส้มสายชูและเนย. พวกมันจะถูกเสิร์ฟด้วยแท่งคื่นฉ่ายและแต่งหน้าด้วยบลูชีส. ปีก บัฟฟาโลได้รับชื่อจากเมืองที่พวกมันถูกคิดค้นขึ้น, ใน Anchor Bar, เมืองบัฟฟาโล, รัฐนิวยอร์ก. ในปี 1964 เทเรซา Bellissimo ที่บาร์ Anchor ของครอบครัว, ปกคลุมปีกไก่ในซอส พิเศษของเธอเอง และเสริฟด้วยบลูชีสและคื่นฉ่ายข้างจาน. ในปี 1980 แฟรงก์ Bellissimo, สามีของเทเรซาบอกหนังสือเดอะนิวยอร์กเกอร์ว่า ปีกบัฟฟาโลของเธอถูกคิดค้นจากความจำเป็น เพราะร้านอาหารมีปีกไก่ล้นสต็อก, แทนที่ชิ้นส่วนไก่อื่นๆ, ที่ทั้งคู่ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรกับมันดี. ในขณะที่ โดมินิค Bellissimo ลูกชายของแฟรงก์และเทเรซาโต้แย้งเรื่องนี้. โดมินิกอ้างว่าปีกเป็นอาหารว่างจานด่วนเที่ยงคืนและว่าแม่ของเขาสร้างขึ้นตามความต้องการของเขาในขณะที่กำลังดื่มกับเพื่อน. ไม่ว่าเรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร, Bellissimo ทั้งหมดได้ตายไปและตั้งแต่นั้นก็ไม่มีวิธีการตรวจสอบที่มาว่าปีกบัฟฟาโลถูกคิดค้นขึ้นมาได้อย่างไร.^[155]

1964 จอพลาสม่า

จอพลาสม่าเป็นจอแสดงผลผิวหน้าแบนเหมือนจอโทรทัศน์ขนาดใหญ่. เซลล์ขนาดเล็กจำนวนมากระหว่างสองแผ่นของกระจกบรรจุส่วนผสมเฉื่อยของแก๊สมีสกุล. ก๊าซในเซลล์ถูกเปลี่ยนให้เป็นพลาสมาด้วยวิธีการทางไฟฟ้าซึ่งจะไปกระตุ้น phosphors ให้เปล่งเป็นแสงออกมา. จอแสดงผลพลาสม่าขาวดำได้รับการร่วมคิดค้นใน กรกฎาคม 1964 ที่มหาวิทยาลัยแห่งอิลลินอยส์ ที่เออร์บานาแชมเปน โดยโดนัลด์ Bitzer, เอช ยีน Slottow และ นักศึกษาปริญญาโท โรเบิร์ต วิลสัน สำหรับระบบคอมพิวเตอร์ PLATO.^[156]^[157]

1964 เครื่องสังเคราะห์ของมุกจ์

เครื่องสังเคราะห์ของมุกจ์เป็นเครื่องสังเคราะห์แบบแอนะล็อกโดยไม่ต้องใช้หลอดสูญญากาศ. มันใช้วงจรแอนะล็อกและเทคนิคของคอมพิวเตอร์แอนะล็อกในการสร้างเสียงด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์. ในปี 1964, ดร. โรเบิร์ต มุกจ์ คิดค้นเครื่องสังเคราะห์ที่มีการใช้โดยการบันทึกของศิลปินเช่น มิค แจ็คเกอร์, เดอะบีทเทิล, เดอะมังกีส์, และ สตีวี่ วันเดอร์.^[158]

1964 เทป 8 แทร็ค

สเตอริโอ 8, หรือที่รู้จักกันทั่วไปว่าเป็นเทปแปดร่องเสียงหรือแปดแทร็ค, เป็นเทคโนโลยีการบันทึกเสียงลงบนเทปแม่เหล็ก. ในปี 1964 วิลเลียม ลีอา คิดค้นแปดแทร็ค, ซึ่งต่อมาจะกลายเป็นสื่อดนตรีที่นิยมมากที่สุดจากกลางปี 1960s ถึงต้นปี 1980s.^[159]

1964 กลีบถาวร

กลีบถาวรเป็นลักษณะของผ้าที่ผ่านกรรมวืธีทางเคมีเพื่อต่อต้านรอยยับและให้คงรูปร่างของมันไว้. การบำบัดนี้มีผลให้เกิดความยั่งยืนของเนื้อผ้าเช่น เสื้อยืด, กางเกงขายาว, และกางเกงทรงหลวม. กลีบถาวรถูกคิดค้นในปี 1964 โดย รูธ โรแกน Benerito, ผู้นำการวิจัยของ-กลุ่มวิจัยทางเคมีกายภาพ-ของ-ห้องปฏิบัติการปฏิกิริยาสารเคมีในฝ้าย.^[160]^[161]

1964 เลเซอร์คาร์บอนไดออกไซด์

เลเซอร์คาร์บอนไดออกไซด์เป็นหนึ่งในเลเซอร์ก๊าซที่เก่าแก่ที่สุดที่ได้รับการพัฒนา และ ยังคงเป็นหนึ่งที่มีประโยชน์มากที่สุด" เลเซอร์คาร์บอนไดออกไซด์ถูกคิดค้นโดย C. Kumar N. Patel แห่ง เบลล์แล็บ ในปี 1964.^[162]

1964 จอภาพผลึกเหลว (โหมดกระจายแบบไดนามิก)

จอภาพผลึกเหลว (อังกฤษ: liquid crystal display (LCD)) เป็นอุปกรณ์แสงที่ควบกล้ำด้วยกรรมวิธีทางอิเล็กทรอนิกส์ให้อยู่ในแผงบางและแบนเพื่อสร้างพิกเซลขาวดำหรือสีจำนวนมากที่เติมเต็มผลึกเหลวและเรียงเป็นแถวด้านหน้าของแหล่งกำเนิดแสงหรือตัวสะท้อนแสง. ในปี 1964 จอร์จ เอช Heilmeier คิดค้นโหมดกระจายแบบไดนามิก (อังกฤษ: dynamic scattering mode) ถูกพบในจอภาพผลึกเหลว, ในที่ซึ่งประจุไฟฟ้าจะถูกจ่ายเข้าไปเพื่อจัดเรียงโมเลกุลเพื่อให้พวกมันกระจายแสงออกมา.^[163]

1964 SQUID

Superconducting Quantum Interference Devices เป็นอุปกรณ์วัดสนามแม่เหล็ก (อังกฤษ: magnetometers) ที่มีความไวสูงมาก, ใช้วัดสนามแม่เหล็กขนาดเล็กมากๆด้วยวิธีการของวงลูปตัวนำยิ่งยวดที่ประกอบด้วย Josephson junctions. DC SQUID ถูกคิดค้นในปี 1964 โดย อาร์โนลด์ ซิลเวอร์, โรเบิร์ต Jaklevic, จอห์น Lambe และ เจมส์ Mercereau แห่ง- ห้องปฏิบัติการวิจัยฟอร์ด.^[164]

1964 เลเซอร์อาร์กอน

เลเซอร์อาร์กอนเป็นหนึ่งในครอบครัวของเลเซอร์ไอออนที่ใช้แก๊สมีสกุลเป็นสื่อกลางที่ใช้งาน (อังกฤษ: active medium) เลเซอร์อาร์กอนถูกคิดค้นโดย วิลเลียม Bridges ในปี 1964.^[165]

1965 เครื่องปรับเสียงด้วยการปรับตัว(อัตโนมัติ)

เครื่องปรับเสียงด้วยการปรับตัวแบบอัตโนมัติใช้แก้ไขสัญญาณที่บิดเบี้ยว, เป็นการปรับปรุง ประสิทธิภาพและความเร็วของข้อมูลอย่างมาก. โมเด็มคอมพิวเตอร์ทั้งหมดใช้ equalizers. เครื่องปรับเสียงด้วยการปรับตัวแบบอัตโนมัติถูกคิดค้นในปี 1965 โดย วิศวกรไฟฟ้าของเบลล์แล็บ, โรเบิร์ต Lucky.^[166]

1965 สโนว์บอร์ด

สโนว์บอร์ดเป็นกีฬาที่เกี่ยวข้องกับการไถลลงทางลาดที่บางส่วนเป็นหิมะหรือปกคลุมด้วยหิมะทั้งหมดบนสโนว์บอร์ดที่ติดอยู่กับเท้าของผู้เล่นด้วยรองเท้าพิเศษที่ติดอยู่กับแผ่นด้านบน. การพัฒนาของสโนว์บอร์ดได้รับแรงบันดาลใจจากสเก็ตบอร์ด, กระดานโต้คลื่น และสกี. สโนว์บอร์ดตัว, Snurfer, ถูกคิดค้นโดย เชอร์แมน Poppen ในปี 1965. กีฬาสโนว์บอร์ดได้กลายเป็นกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวในปี 1998.^[167]

1965 เคฟลาร์

เคฟลาร์ เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนสำหรับไฟเบอร์พารา-อะรามิดสังเคราะห์ขนาดเบา ที่แข็งแกร่ง. โดยปกติ มันจะถูกปั่นให้เป็นเป็นเชือกหรือแผ่นผ้าที่สามารถใช้เป็นเชือกหรือผ้าหรือเป็นส่วนผสมในองค์ประกอบวัสดุผสม. ปัจจุบัน เคฟลาร์มีการใช้งานจำนวนมาก, ตั้งแต่ ยางรถจักรยานและใบเรือแข่งจนถึงเกราะป้องกันร่างกายเพราะอัตราส่วนความแข็งแรงต่อน้ำหนักที่สูง. ถูกคิดค้นที่ดูปองท์ในปี 1965 โดย สเตฟานี Kwolek, เคฟลาร์ถูกใช้ในเชิงพาณิชย์ครั้งแรกในช่วงต้นจองปี 1970s โดยใช้แทนเหล็กในยางรถแข่ง.^[168]

1965 Hypertext

Hypertext ส่วนใหญ่มักจะหมายถึงข้อความ(อังกฤษ: text) บนคอมพิวเตอร์ที่จะนำผู้ใช้ ไปยังข้อมูลที่เกี่ยวข้องอื่นตามความต้องการ. มันเป็นนวัตกรรมค่อนข้างล่าสุดสำหรับการติดต่อกับผู้ใช้ (อังกฤษ: user interface), ที่สามารถเอาชนะบางส่วนของข้อจำกัดของข้อความที่ถูกเขียนขึ้น. มากกว่าจะอยู่เฉยๆเหมือนข้อความทั่วไป, ไฮเปอร์เท็กซ์ทำให้เป็นไปได้ขององค์กรแบบไดนามิกของข้อมูลผ่านการเชื่อมโยงและการเชื่อมต่อที่เรียกว่าการเชื่อมโยงหลายมิติ (อังกฤษ: hyperlinks). เท็ด เนลสัน ประกาศใช้คำว่า "ไฮเปอร์เทกซ์" และ "ไฮเปอร์มีเดีย" ในปี 1965 และคิดค้น-ระบบการแก้ไข Hypertext-ในปี 1968 ที่มหาวิทยาลัยบราวน์.^[169]

1965 โทรศัพท์ไร้สาย

โทรศัพท์ไร้สาย เป็นโทรศัพท์ที่ไม่มีสายเชื่อมระหว่างส่วนมือจับ(อังกฤษ: handset)กับสถานีฐาน(อังกฤษ: base station). ส่วนมือจับสามารถสื่อสารกับสถานีฐานได้ด้วยคลื่นวิทยุ, โดยที่สถานีฐานจะเชื่อมต่อกับผู้ให้บริการโทรศัพท์แบบอยู่กับที่ตามปกติ. ระยะห่างของส่วนมือจับมักจะอยู่ในระยะที่จำกัดของสถานีฐาน. สถานีฐานจะอยู่ในสถานที่ของผู้ใช้บริการ และติดต่อกับเครือข่ายโทรศัพท์แบบเดียวกับที่โทรศัพท์แบบมีสาย. ใน ปี 1965 หญิงอเมริกัน ชื่อ Teri พอล ได้คิดค้นโทรศัพท์ไร้สายแต่เนื่องจากความยากลำบากของการตลาด, พอลไม่เคยจดสิทธิบัตรการประดิษฐ์ของเธอ. จอร์จ Sweigert แห่ง Euclid, โอไฮโอ ประสพความสำเร็จมากกว่าจึงได้รับสิทธิบัตรสำหรับโทรศัพท์ไร้สายในปี 1969.^[170]

1965 ปากกาอวกาศ

ปากกาอวกาศ, หรือที่เรียกว่าปากกาไร้แรงโน้มถ่วง (อังกฤษ: Zero Gravity Pen) เป็น ปากกาที่ใช้ตลับหมึกที่มีแรงดันและมีการอ้างว่าสามารถเขียนได้ในแรงโน้มถ่วงเป็นศูนย์, คว่ำบนลงล่าง, ใต้น้ำ, บนกระดาษเปียกและลื่น, ได้ทุกมุม, และในช่วงที่อุณหภูมิเลวร้ายมาก. ปลายปากกาทำจากลูกลื่นทังสเตนคาร์ไบด์และสามารถติดตั้งได้สนิทอย่างแม่นยำเพื่อหลีกเลี่ยงการรั่วไหล, ลูกลอยเลื่อนจะแยกหมึกออกจากก๊าซแรงดัน. หมึก thixotropic เก็บอยู่ในหลอดปิดผนึกแน่นหนาไม่มีอากาศเข้าและใส่แรงดัน โดยอ้างว่าสามารถเขียนได้นานกว่า ปากกาลูกลื่นมาตรฐานถึงสามเท่า. ในปี 1965, ปากกาอวกาศถูกคิดค้นและจดสิทธิบัตรโดยพอล ซี ฟิชเชอร์. หลังจากสองปีของการทดสอบที่นาซา, ปากกาอวกาศถูกใช้เป็นครั้งแรกในระหว่างการปฏิบัติภารกิจ อพอลโล 7 ในปี 1968. ^[171]

1965 มินิคอมพิวเตอร์

มินิคอมพิวเตอร์เป็นคอมพิวเตอร์หลายผู้ใช้ที่อยู่ในช่วงกลางของสเปกตรัมคอมพิวเตอร์ใน ระหว่างระบบหลายผู้ใช้ที่ใหญ่ที่สุดและระบบผู้ใช้คนเดียวที่เล็กที่สุด. เวสลีย์ เอ คลาร์ก และ ชาร์ลส์ Molnar ร่วมคิดค้น PDP-8 ในปี 1965 ซึ่งเป็นมินิคอมพิวเตอร์เครื่องแรกของโลกที่ใช้ เทคโนโลยีวงจรรวม. เนื่องจากขนาดที่ค่อนข้างเล็กและป้ายราคาที่ $ 18,000, Digital Equipment ขายได้ไม่กี่ร้อยหน่วย.^[172]

1965 Compact Disc

คอมแพคดิสก์, หรือซีดี เป็นแผ่นดิสก์แสงที่ใช้ในการจัดเก็บข้อมูลดิจิตอล, เดิมถูกพัฒนามาสำหรับการจัดเก็บเสียงแบบดิจิตอล. ในปี 1965 เจมส์ รัสเซลล์ ปฏิบัติตามความคิดของเขาที่ว่า วงการเพลงต้องการสื่อใหม่, โดยที่การบันทึกแผ่นเสียงและเข็มบนหีบเสียงจะไม่เข้ามาติดต่อซึ่งกันและกันอีกต่อไป. มีความสนใจในเลเซอร์, รัสเซลก็เริ่มการวิจัยของเขาในระบบแสง ที่จะเข้ามาแทนที่เข็มหีบเสียงและแทนที่ด้วยเลเซอร์ที่จะอ่านรหัสเพื่อบันทึกและเล่นเสียง.^[173]^[174] ในเส้นผ่าศูนย์กลาง 12 นิ้ว(30 เซนติเมตร), รัสเซลในปี 1970 ได้ประสบความสำเร็จในการคิดค้นและสร้างคอมแพคดิสก์อันแรกของโลก ที่มีรหัสดิจิทัลฝังลงบนแผ่นดิสก์ที่สามารถอ่านได้จากเลเซอร์.^[175]^[176]^[177]^[178] หลังจากเป็นพันธมิตรกับ Digital Recording ซึ่งต่อมาก็ถูกซื้อไปโดย Optical Recording Corporation, รัสเซลและบริษัทแม่ที่เขาทำงานด้วย, พบว่ามันยากมากขึ้นในการบังคับใช้และปกป้องสิทธิบัตรของเขาจากการถูกละเมิดโดยคู่แข่ง เช่น Sony, ฟิลิปส์, และ ไทม์วอร์เนอร์ ที่ทุกคนได้ประโยชน์จากการประดิษฐ์ของรัสเซล. ความเชื่อที่ว่านักวิทยาศาสตร์ชาวดัตช์และชาวญี่ปุ่น "ได้คิดค้น" คอมแพคดิสก์เป็นความเข้าใจผิดในแง่ที่ว่า ฟิลิปส์และโซนี่ได้ใช้เทคโนโลยีพื้นฐานของรัซเซลส์เพื่อพัฒนาแผ่นดิสก์ให้คมชัด, ปฏิบัติได้, มีขนาดเล็กและมีความเชี่ยวชาญมากยิ่งขึ้น. ในปี 1982, Sony และ ฟิลิปส์ได้แนะนำแผ่นซีดีใน"เชิงพาณิชย์", สิบสองปีหลังจากที่รัสเซลได้สร้างต้นแบบการทำงานไว้แล้วในปี 1970. ในปี 1986 Optical Recording ตัดสินใจที่จะดำเนินการตามกฎหมายโดยการฟ้อง Sony, ฟิลลิป, และ Time Warner. สองปีต่อมาบริษัทได้ตกลงให้ใบอนุญาตกับ Sony และหลังจากนั้นไม่นานก็ทำข้อตกลงกับฟิลลิป และอื่นๆไม่นานก็ตามมา, รวมทั้งการพิจารณาคดีในเดือนมิถุนายน 1992 ศาลมีคำสั่งให้ ไทม์ วอร์เนอร์จ่าย Optical Recording เป็นเงิน $30 ล้านเนื่องจากการละเมิดสิทธิบัตร.^[179]^[180]

1965 เลเซอร์เคมี

เลเซอร์เคมีเป็นเลเซอร์ที่ได้รับพลังงานจากปฏิกิริยาเคมี. เลเซอร์เคมีสามารถให้คลื่นเอาต์พุตที่ต่อเนื่องที่มีกำลังถึงระดับล้านวัตต์. พวกมันจะถูกใช้ในอุตสาหกรรมสำหรับตัดและขุดเจาะ, และในทางทหารเป็นอาวุธกำกับพลังงาน. เลเซอร์เคมีครั้งแรกถูกร่วมคิดค้นโดย เจอโรม V, V แคสเปอร์ และ จอร์จ ซี Pimentel ในปี 1965.^[181]

1966 หน่วยความจำเข้าถึงโดยสุ่มแบบพลวัต

หน่วยความจำเข้าถึงโดยสุ่มแบบไดนามิก (อังกฤษ: Dynamic random access memory (DRAM))เป็นหน่วยความจำชนิดหนึ่งที่จะเข้าถึงข้อมูลที่เก็บแต่ละบิตของข้อมูลในตัวเก็บประจุแยกต่างหากภายในวงจรรวม. เนื่องจาก ตัวเก็บประจุจริงจะมีการรั่วไหลของประจุ, ข้อมูลในที่สุดก็จะจางหายไป เว้นแต่ประจุในคาปาซิเตอร์จะมีการรีเฟรชเป็นระยะๆ. เพราะว่ามีความต้องการการฟื้นฟูนี้, หน่วยความจำแบบไดนามิกจึงทำงานตรงกันข้ามกับหน่วยความจำแบบการเข้าถึงแบบคงที่และหน่วยความจำแบบคงที่อื่นๆ. ในปี 1966 DRAM ถูกคิดค้นโดย โรเบิร์ต Dennard ที่ ศูนย์วิจัยโทมัสเจวัตสัน ของไอบีเอ็ม.^[182]

1967 กระเป๋าเป้สะพายหลัง (กรอบภายใน)

กระเป๋าเป้สะพายหลังกรอบภายใน ประกอบด้วยหลายแถบของโลหะหรือพลาสติกที่ถูกทำเป็นแม่พิมพ์ให้พอดีกับหลังของคนคนหนึ่ง, บางครั้งก็มีโครงโลหะเพิ่มเติมเพื่อเสริมสร้างกรอบ. ปกติมักจะเป็นชุดที่ซับซ้อนของรัดสายที่ทำงานร่วมกับกรอบเพื่อกระจายน้ำหนักและยึดให้อยู่กับที่. ฝาปิดด้านหลังที่แนบกับผู้สวมใส่ช่วยให้เป้ติดอย่างใกล้ชิดกับร่างกายและช่วยให้การเคลื่อนไหวที่คาดการณ์ของโหลดในเป้. กระเป๋าเป้สะพายหลังเฟรมภายในถูกคิดค้นในปี 1967 โดย เกร็ก โลว์, ผู้ก่อตั้ง Lowepro.^[183]

1967 เครื่องคิดเลข (มือถือ)

การประดิษฐ์คิดค้นโดย Jack Kilby ในปี 1967,^[166]^[184] เครื่องคิดเลขมือถือเป็นอุปกรณ์สำหรับการดำเนินการคำนวณทางคณิตศาสตร์, แตกต่างไปจากเครื่องคอมพิวเตอร์โดยความสามารถในการแก้ปัญหาจะมีจำกัด และอินเตอร์เฟซที่จะใช้วิธีการที่ดีที่สุดสำหรับการคำนวณแบบโต้ตอบมากกว่าการเขียนโปรแกรม. เครื่องคิดเลข สามารถเป็นฮาร์ดแวร์หรือซอฟแวร์, และเป็นเครื่องจักรกลหรือแบบอิเล็กทรอนิกส์ และมักจะ ถูกสร้างขึ้นในอุปกรณ์เช่นพีดีเอหรือโทรศัพท์มือถือ

1968 แร็กเก็ตบอล

แร็กเก็ตบอลเป็นกีฬาที่ใชัแร็กเก็ตแบบหนึ่งที่เล่นกับลูกบอลยางกลวงในสนามในร่มหรือกลางแจ้ง. โจเซฟ Sobek ได้เครดิตกับการประดิษฐ์กีฬาแร็กเก็ตบอลในกรีนนิชวายเอ็มซีเอ, แม้ว่าจะไม่ได้มีการตั้งชื่อมัน. ผู้เล่นเทนนิสและแฮนด์บอลมืออาชีพ, Sobek มองหากีฬาใช้ความเร็วที่ง่ายต่อการเรียนรู้และเล่น. เขาออกแบบพายขึงด้วยเชือกชิ้นแรก, ดัดแปลงชุดของกฎการประมวลผลและตั้งชื่อเกมของเขาว่า "แร็กเก็ตไม้พาย".^[185]

1968 ความเป็นจริงเสมือน

ความเป็นจริงเสมือน (อังกฤษ: Virtual reality (VR)) เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถโต้ตอบกับสภาพแวดล้อมที่จำลองด้วยคอมพิวเตอร์. สภาพแวดล้อมความเป็นจริงเสมือนในปัจจุบันส่วนใหญ่จะเป็นประสบการณ์การมองเห็นเป็นหลัก, ที่แสดงบนหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือผ่านทางการแสดงพิเศษหรือสามมิติ, แต่การจำลองบางครั้งรวมถึงข้อมูลทางประสาทสัมผัสเพิ่มเติมเช่น เสียงผ่านลำโพงหรือหูฟัง. ในปี 1968 อีวาน Sutherland, ด้วยความช่วยเหลือของนักเรียนของเขา บ๊อบ Sproull, ได้ประดิษฐ์คิดค้นสิ่งที่เป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นครั้งแรกของความเป็นจริงเสมือนและความเป็นจริงเสริม (อังกฤษ: augmented reality (AR)) ระบบจอแสดงผลติดตั้งบนหัว (อังกฤษ: head mounted display (HMD)). ^[186] มันเป็นแบบดั้งเดิมทั้งในแง่ของส่วนติดต่อผู้ใช้และความสมจริง, และ HMD ที่จะสวมใส่โดยผู้ใช้ก็หนักมากซะจนมันจะต้องถูกห้อยลงมาจากเพดาน, และกราฟิกประกอบไปด้วยสภาพแวดล้อมเสมือนก็ เป็นห้องพักแบบโครงร่างง่ายๆ. ในปี 1989, Jaron ลานิเยร์ ผู้ก่อตั้ง VPL Research นิยม แนวคิดของความเป็นจริงเสมือนกับระบบ "google n' gloves"ของเขา.^[187]

1969 อุปกรณ์ไม่รวมเต่า

เต่าทะเลกำลังหนีออกจากอวนดักกุ้งผ่านทางอุปกรณ์ไม่รวมเต่า

อุปกรณ์ไม่รวมเต่า (อังกฤษ: turtle excluder device) เป็นอุปกรณ์พิเศษที่ช่วยให้เต่าทะเลที่ถูกจับในการหลบหนีเมื่อถูกจับอยู่ในตาข่ายของชาวประมง. เต่าทะเลจะถูกจับเมื่ออวนลากพื้นทะเลถูกใช้โดยอุตสาหกรรมประมงจับกุ้งในเชิงพาณิชย์. เต่าทะเลหายใจด้วยปอด, ถ้าถูกอวนจับมันจะจมน้ำตาย. อุปกรณ์ไม่รวมเต่าตัวแรกเรียกว่า Georgia Jumper. มันถูกคิดค้นในปี 1968 โดยชาวประมงอเมริกัน Sinkey Boone.^[188]

1968 Zipper (เครื่องเล่น)

Zipper ขณะหมุน. หนึ่งของโมเดลเก่าที่สุดในปี 1970s

(อย่าสับสนกับ--สิ่งประดิษฐ์ 1893--ที่มีชื่อเดียวกัน) "Zipper" เป็นเครื่องเล่นสนุกตื่นเต้นได้รับความนิยมที่งาน carnivals และสวนสนุกในประเทศสหรัฐอเมริกา, แคนาดา, ออสเตรเลียและ นิวซีแลนด์. มันมีแรง G ในแนวตั้งที่แข็งแกร่ง, แกว่งหลายรอบ, และความรู้สึกที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้. รูปแบบพื้นฐานของเครื่องเล่นคือหมุนเป็นรูปไข่เป็นเวลานานด้วยสายเคเบิลรอบขอบ ของมันที่ดึง 12 กระเช้ารอบเครื่องเล่น. Zipper ถูกออกแบบมาให้สามารถขนส่งได้และประกอบใหม่จากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง. Zipper ถูกคิดค้นในปี 1968 โดยโจเซฟ บราวน์ แห่ง Chance Morgan. ตั้งแต่นั้น, มากกว่า 200 เครื่องได้ถูกสร้างและจัดจำหน่ายทั่วโลกทำให้มันเป็นหนึ่งของเครื่องเล่นที่ผลิตมากที่สุดและทันสมัยตลอดกาล.^[189]

1969 Lunar Module

Lunar Module เป็นส่วนของยานอวกาศที่เป็นตัวส่งลงพื้นดินสร้างขึ้นสำหรับโครงการอพอลโล โดยกรัมแมน เพื่อให้บรรลุการขนส่งจากวงโคจร cislunar ลงไปที่พื้นผิวและกลับมา. โมดูลยังเป็นที่รู้จักกันว่าเป็น LM จากการแต่งตั้งของผู้ผลิต. นาซาประสบความสำเร็จในการทดสอบการบินครั้งแรกเมื่อวันที่ 22 มกราคม 1968 โดยใช้จรวด Saturn V. ภารกิจประสบความสำเร็จหกครั้ง บรรทุกสิบสองนักบินอวกาศ, คนแรกคือนีล อาร์มสตรองและ Buzz Aldrin ในวันที่ 20 กรกฎาคม 1969 ลงพื้นผิวดวงจันทร์และกลับโลกอย่างปลอดภัย. ทอม เคลลี่ เป็นวิศวกรโครงการที่ กรัมแมน, คิดค้นและประสบความสำเร็จในการออกแบบ Lunar Module.^[190]^[191]

1969 เครื่องพิมพ์เลเซอร์

เครื่องพิมพ์เลเซอร์เป็นชนิดที่พบบ่อยของเครื่องพิมพ์คอมพิวเตอร์ที่ผลิตข้อความและกราฟิกที่มีคุณภาพสูงได้อย่างรวดเร็วบนกระดาษธรรมดา. เครื่องพิมพ์เลเซอร์ถูกคิดค้นที่ ซีร็อกซ์ ในปี 1969 โดยนักวิจัย Gary Starkweather, ผู้ที่ทำให้เครื่องพิมพ์ทำงานได้ดีขึ้นในปี 1971 และ รวมอยู่ในระบบเครือข่ายเครื่องพิมพ์ที่ทำงานได้อย่างสมบูรณ์ในอีกประมาณหนึ่งปีต่อมา.^[192]

1969 แก้วที่ออกฤทธิ์ทางชีวภาพ

แก้วที่ออกฤทธิ์ทางชีวภาพ (อังกฤษ: Bioactive glasses) เป็นกลุ่มของแก้วเซรามิกปฏิกิริยาที่พื้นผิว. การเข้ากันได้ทางชีวภาพของแก้วเหล่านี้ได้นำพวกมันได้รับการตรวจสอบ อย่างกว้างขวางสำหรับการใช้เป็นวัสดุปลูกถ่ายในร่างกายมนุษย์เพื่อซ่อมแซมและแทนที่กระดูก ที่เป็นโรคหรือเสียหาย. แก้วที่ออกฤทธิ์ทางชีวภาพถูกคิดค้นในปี 1969 โดย แลร์รี Hench และเพื่อนร่วมงานของเขาที่มหาวิทยาลัยแห่งฟลอริดา.^[193]

1969 เครื่องบินลำตัวกว้าง

เครื่องบินลำตัวกว้าง เป็นเครื่องบินขนาดใหญ่ที่มีสองช่องทางเดินผู้โดยสาร, ที่เรียกว่าเป็นเครื่องบินทางเดินคู่. เนื่องจากเป็นเครื่องบินลำตัวกว้างเครื่องแรกของโลก, โบอิ้ง 747, ยังเรียกว่าจัมโบ้เจ็ท, เป็นการปฏิวัติการเดินทางระหว่างประเทศทั่วโลกโดยการเดินทางระยะไกลไม่หยุด, สามารถเข้าถึงได้สำหรับทุกคน. โจ ซัทเทอ หัวหน้าวิศวกรของโปรแกรมจัมโบ้เจ็ทที่บริษัทโบอิ้งได้ออกแบบอากาศยานลำตัวกว้างเครื่องแรกของโลก, โบอิ้ง 747, ที่มีการทดสอบการบินครั้งแรกเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 1969.^[194]

1969 Taser

Taser, เมื่อถอดฝาออก, กำลังสร้างอาร์กไฟฟ้าระหว่างสองขั้วไฟฟ้าของมัน

Taser เป็นอาวุธช็อคไฟฟ้าที่ใช้เทคโนโลยีการขัดขวางกล้ามเนื้อด้วยไฟฟ้า (อังกฤษ: Electro-Muscular Disruption (EMD)) เพื่อทำให้เกิดการสูญเสียความสามารถของกล้ามเนื้อ (อังกฤษ: neuromuscular incapacitation (NMI)) และการหดตัวของกล้ามเนื้ออย่างรุนแรงโดยการกระตุ้นโดยไม่สมัครใจของทั้งเส้นประสาทสัมผัสและประสาทมอเตอร์. Taserไม่ขึ้นอยู่กับการปฏิบัติตามความเจ็บปวด (อังกฤษ: pain compliance), ทำให้มันมีประสิทธิภาพสูงในเรื่องที่มีความทนทานต่อความเจ็บปวดสูง. ด้วยเหตุนี้ มันจึงเป็นที่ต้องการโดยการบังคับใช้กฎหมายมากกว่าปืนยาสลบและอาวุธควบคุมอิเล็กทรอนิกส์แบบดั้งเดิมอื่นๆ. Jack Cover นักวิจัยนาซ่า คิดค้น Taser ในปี 1969.^[195]

1969 อุปกรณ์ถ่ายเทประจุ

อุปกรณ์ถ่ายเทประจุที่ได้รับการพัฒนาเป็นพิเศษที่ใช้สำหรับการถ่ายภาพรังสีอัลตราไวโอเลตในแพคเกจเชื่อมต่อด้วยลวด

อุปกรณ์ถ่ายเทประจุ (อังกฤษ: charge-coupled device (CCD)) เป็นอุปกรณ์สำหรับเคลื่อนย้ายประจุไฟฟ้า, มักจะจากภายในเครื่องไปยังพื้นที่ที่ประจุไฟฟ้าจะสามารถถูกดำเนินการ. นี้จะทำได้โดย "การเลื่อน" สัญญาณระหว่างขั้นตอนทั้งหลายภายในอุปกรณ์ที่ละตัว. CCDs ย้ายประจุระหว่างถังเก็บประจุในอุปกรณ์, ด้วยการเลื่อนเพื่อให้สามารถถ่ายโอนประจุระหว่างถัง. บ่อยครั้งที่อุปกรณ์จะถูกรวมกับเซ็นเซอร์รับภาพเช่นอุปกรณ์ photoelectric เพื่อผลิตประจุที่กำลังถูกอ่าน, จึงทำให้ CCD เป็นเทคโนโลยีที่สำคัญสำหรับการถ่ายภาพระบบดิจิตอล. รู้สึกเป็นครั้งแรกในประโยชน์สำหรับหน่วยความจำคอมพิวเตอร์, อุปกรณ์ถ่ายเทประจุถูกร่วมคิดค้นในปี 1969 โดยนักฟิสิกส์อเมริกัน จอร์จ อี สมิธ และนักฟิสิกส์ชาวแคนาดา วิลลาร์ด บอยล์ ที่ AT&T Bell Laboratories.^[196]

1969 แผ่นรองเมาส์

แผ่นรองเมาส์เป็นแผ่นพื้นผิวแข็ง, รูปสี่เหลี่ยม, และมีส่วนผสมของยางสำหรับเพิ่มความสามารถในการใช้งานของเมาส์คอมพิวเตอร์. แจ็ค เคลลี่ คิดค้นแผ่นรองเมาส์ในปี 1969.^[197]

1969 Chapman Stick

สมาชิกหลายเสียงในครอบครัวของกีต้าร์,แชปแมนสติคเป็นเครื่องดนตรีไฟฟ้าที่ใช้สำหรับการบันทึกเพลงที่จะเล่นส่วนต่างๆเช่น เบส, ลีด, คอร์ด, และเนื้อเพลง. แชปแมนสติคดูเหมือนรุ่นหลากหลายของ fretboard ของกีตาร์ไฟฟ้าแต่มี 8, 10 หรือ 12 สาย. ผู้เล่นจะใช้มือทั้งสองเพื่อฟังเสียงโน้ตโดยการดีดที่เส้นกระทบกับ fingerboard ที่อยู่ข้างหลัง fret สำหรับโน้ตที่ต้องการ. แชปแมนสติค ถูกคิดค้นในปี 1969 โดยนักดนตรีแจ๊สอเมริกัน เอ็มเม็ต แชปแมน.^[198]

1969 ภาษามาร์กอัป

ภาษามาร์กอัปเป็นระบบที่ทันสมัยสำหรับการทำข้อความเป็นหมายเหตุประกอบในลักษณะที่สามารถทำให้แตกต่างทางไวยกรณ์จากข้อความนั้น. ความคิดและคำศัพท์ได้พัฒนามาจาก"การทำเครื่องหมาย"ของต้นฉบับ. ตัวอย่างเช่น คำสั่งแก้ไขข้อความโดยบรรณาธิการจะเขียนด้วยดินสอสีฟ้าบนต้นฉบับของผู้เขียนตามภาพประกอบ. ตัวอย่างที่รู้จักกันดีของภาษามาร์กอัปในการใช้งานอย่างแพร่หลายในวันนี้คือ HyperText Markup Language (HTML ) ซึ่งเป็นหนึ่งในรูปแบบเอกสารที่สำคัญของเวิลด์ไวด์เว็บ. ต้นกำเนิดของภาษามาร์กอัปสามารถโยงไปถึงการจัดรูปแบบภาษาที่เรียกว่า RUNOFF, ถูกพัฒนาในปี 1960 โดย เจอโรม เอช Saltzer ที่ Massachusetts Institute of Technology. อย่างไรก็ตาม ภาษามาร์กอัปตัวแรกมากๆถูกเรียกว่า Generalized Markup Language (GML) ร่วมคิดค้นโดยวิศวกร IBM Charles Goldfarb, Ed Mosher, และ Ray Lorie.^[199]

1970s

1970 เครือข่ายท้องถิ่นไร้สาย

เครือข่ายท้องถิ่นไร้สายเป็นการเชื่อมโยงเครื่องคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์สองจุดหรือมากกว่า โดยใช้พื้นฐานของเทคโนโลยีการกล้ำคลื่นความถี่แพร่กระจาย หรือ OFDM เพื่อเปิดให้มีการสื่อสารระหว่างหลายอุปกรณ์ในพื้นที่ที่จำกัด. ในปี 1970 มหาวิทยาลัยฮาวายภายใต้การนำของ นอร์แมน อาบรามสัน ได้คิดค้นเครือข่ายการสื่อสารคอมพิวเตอร์ครั้งแรกของโลกที่ใช้วิทยุต้นทุนต่ำรูปร่างเหมือนแฮมชื่อ ALOHAnet. โครงสร้างของระบบเป็นแบบดาวสองทิศทาง รวมถึงการใช้งานคอมพิวเตอร์เจ็ดเครื่องบนสี่หมู่เกาะในการสื่อสารกับคอมพิวเตอร์ส่วนกลางบนเกาะโอวาฮูโดยไม่ต้องใช้สายโทรศัพท์.^[200]

1970 เชือกล่ามกระดานโต้คลื่น

เชือกล่ามกระดานโต้คลื่นหรือเชือกผูกขา เป็นเชือกที่ยึดติดกระดานโต้คลื่นเข้ากับขานักเล่น. มันจะป้องกันไม่ให้กระดานโต้คลื่นจากการถูกกวาดไปโดยคลื่น และช่วยให้กระดานโต้คลื่นที่หลุดลอยออกไปทำอันตรายให้กับนักเล่นและนักว่ายน้ำคนอื่นๆ. เชือกล่ามที่ทันสมัยประกอบด้วยเชือกยูรีเทนที่ปลายด้านหนึ่งมีแผ่นผ้าที่มีสายคล้อง velcro (ตีนตุ๊กแก)ที่ติดอยู่กับเท้าของนักเล่น, ปลายอีกด้านหนึ่งมีสายคล้อง velcro ติดอยู่ที่ปลายหางของกระดานโต้คลื่น. เชือกล่ามกระดานโต้คลื่นถูกคิดค้นในปี 1970 โดยผู้อยู่อาศัยในซานตาครูซ-แคลิฟอร์เนียชื่อ แพ็ต โอนีล ลูกชายของผู้คิดค้นชุดกันน้ำ แจ็ค โอนีล ผู้ที่ผูกท่อผ่าตัดเข้ากับจมูกของกระดานโต้คลื่นของเขาและคล้องถ้วยดูดเข้ากับปลายข้อมือของเขาในการทำสมดุลการเลี้ยวและการตัดยอดคลื่นในน้ำ. อย่างไรก็ตาม การปรับเปลี่ยนในปี 1971 โดยโอนีลจะผูกเชือกล่ามกับข้อเท้าและหาง กระดานโต้คลื่นซึ่งยังคงปฏิบัติอยู่ในปัจจุบัน.^[201]

1971 Uno (เกมไพ่)

อูโน่เป็นเกมไพ่ที่เล่นกับสำรับที่พิมพ์เป็นพิเศษ. การเล่นโดยใช้บัตรสี, เกมเกี่ยวข้องกับการ เล่นไพ่ตามกฎหมายที่มีค่าที่จุดสูงสุด. นี้เป็นวิธีที่ง่ายในการลดคะแนนที่ถืออยู่ในมือในตอนท้ายของรอบ, แต่ล้มเหลวในการเป็นเหตุผลสำหรับประโยชน์ของการถือไพ่จั่วสี่ใบใกล้ถึงจุดสิ้นสุด ของเกม. Uno ได้รับการร่วมคิดค้นโดยคู่พ่อลูก เมิร์ล และเรย์ ร็อบบินส์ ในปี 1971 ในขณะที่ เปลี่ยนไปเป็นเกมไพ่ที่เรียกว่า "Crazy Eights". ชื่อของเกม"Uno", ภาษาสเปนแปลว่าหนึ่ง, ถูกคิดขึ้นโดย เมิร์ล บุตรชายของเรย์.^[202]

1971 คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล

คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (PC) เป็นคอมพิวเตอร์เครื่องใดๆที่มีราคาขายเดิม, ขนาดและความสามารถที่ทำให้มันมีประโยชน์สำหรับเฉพาะบุคคล, และมีวัตถุประสงค์ที่จะใชงานโดยตรงโดย ผู้ใช้, โดยไม่มีการแทรกแซงจากผู้ปฏิบัติการคอมพิวเตอร์. Kenbak-1 ได้รับเครดิตอย่างเป็นทางการจาก-พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์คอมพิวเตอร์-ว่าเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลตัวแรกของโลกที่ถูกคิดค้นในปี 1971 โดยจอห์น Blankenbaker.^[203]^[204] ด้วยป้ายราคาที่ $750 และหลังการขายเพียง 40 เครื่อง, Kenbak คอร์ปอเรชั่นปิดประตูรันในปี 1973. ^[203]

1971 เราเตอร์ fuzzball

เราเตอร์ fuzzball เป็นเราเตอร์ทันสมัยเครื่องแรกบนอินเทอร์เน็ต. มันคือเครื่องคอมพิวเตอร์ DEC LSI-11 โหลดด้วยซอฟต์แวร์เราเตอร์. แนวความคิดครั้งแรกโดยนักประดิษฐ์ , David L. Mills, เราเตอร์ fuzzball ถูกพัฒนาเป็นเครื่องเสมือนที่สนับสนุนระบบปฏิบัติการ RT-11 ของ DEC และสนับสนุนเวอร์ชันพัฒนาแรกๆของโพรโทคอล TCP/IP และ applications suite. เวอร์ชันต้นแบบของเครื่องมือทางอินเทอร์เน็ตที่นิยม รวมทั้ง Telnet, FTP, DNS, EGP และ SMTP ถูกนำมาใช้ครั้งแรกและทดสอบบนเราเตอร์ fuzzball.^[205]

1971 ปีกวิกฤตยิ่งยวด

ภาพล่างแสดง ปีกวิกฤตยิ่งยวดจะรักษาระดับความเร็วที่ต่ำกว่าความเร็วเสียงบนผิวด้านบนได้ดีกว่าปีกดั้งเดิม(ภาพบน) สิ่งนี้ช่วยสร้างช็อกที่อ่อนกว่า

ปีกวิกฤตยิ่งยวด (อังกฤษ: Supercritical airfoil) เป็นปีกที่ถูกออกแบบ, ขั้นต้น, เพื่อชะลอการโจมตีของคลื่นลากบนเครื่องบินในช่วงความเร็วเท่าเสียง. ปีกวิกฤตยิ่งยวดมีลักษณะของพื้นผิวด้านบนที่แบน, ด้านท้ายงุ้ม และมีรัศมีขอบหน้ากว้างเมื่อเทียบกับรูปร่างปีกแบบดั้งเดิม. ปีกวิกฤตยิ่งยวดถูกคิดค้นและออกแบบโดยวิศวกรการบินของนาซา Richard Whitcomb ในปี 1960. การทดสอบที่ประสบความสำเร็จเริ่มในเครื่องบินขับไล่ กองทัพเรือสหรัฐฯ Vought F-8U ได้ผลผ่านอุโมงค์ลมในปี 1971.^[206]

1971 ไมโครโปรเซสเซอร์

ไมโครโปรเซสเซอร์เป็นชิปคอมพิวเตอร์ที่ประมวลผลคำสั่งและติดต่อสื่อสารกับอุปกรณ์ภายนอก, ควบคุมส่วนใหญ่ของการดำเนินงานของเครื่องคอมพิวเตอร์ผ่านหน่วยประมวลผลกลางในวงจรรวมชิ้นเดียว. ไมโครโปรเซสเซอร์ชิ้นแรกเป็นชิปซิลิกอนที่ใช้อินเทล 4004, ร่วมคิดค้นในปี 1971 โดย เท็ด ฮอฟฟ์, เฟเดริก Faggin และ สแตนลี่ย์ Mazor สำหรับบริษัท เครื่องคิดเลขชื่อ Busicom และผลิตโดย Intel.^[207]

1971 ฟลอปปีดิสก์

ฟลอปปีดิสก์เป็นสื่อจัดเก็บข้อมูลที่ประกอบด้วยดิสก์ของสื่อเก็บข้อมูลแม่เหล็กบางที่มีความ"ยืดหยุ่น" (อังกฤษ: floppy) ห่อหุ้มด้วยเปลือกพลาสติกสี่เหลี่ยมด้านเท่าหรือ สี่เหลี่ยมผืนผ้า. ในปี 1971 ในขณะที่ทำงานที่ IBM, David L. Noble คิดค้นฟลอปปี้ดิสก์ขนาด 8 นิ้ว. ฟล็อปปี้ดิสก์ในฟอร์แมทขนาด 8 นิ้ว, 5¼ นิ้ว และ 3½ นิ้ว ใช้งานได้ดีอยู่หลายปีเป็นรูปแบบที่นิยมและแพร่หลายของการจัดเก็บและการแลกเปลี่ยนข้อมูลจากกลางปี 1970s ถึง ปลายปี 1990s.^[208]

1971 เครื่องตัดแต่งใบไม้ด้วยเชือก

ตัวอย่างของหัวเครื่องตัดแต่งใบไม้ด้วยเชือก. จากซ้าย: หัวแบบสายเชือก, หัวแบบโซ่, และหัวตัดทำด้วยแปรงโลหะ

เครื่องตัดแต่งใบไม้ด้วยเชือกเป็นอุปกรณ์มือถือที่มีพลังที่ใช้สายเส้นใยเดี่ยวยืดหยุ่นแทนใบมีด สำหรับการตัดหญ้าและตัดแต่งพืชชนิดอื่นที่อยู่ใกล้วัตถุ. มันประกอบไปด้วยหัวตัดที่ปลายของเพลายาวที่มีมือจับและบางครั้งมีสายคล้องไหล่. เครื่องตัดแต่งใบไม้ด้วยเชือกขับเคลื่อนโดยเครื่องยนต์สันดาปภายในที่มีเครื่องยนต์ที่ปลายตรงข้ามของเพลาจากหัวตัดในขณะที่เครื่องตัดแบบไฟฟ้ามักจะมีมอเตอร์ไฟฟ้าอยู่ในหัวตัด. ใช้บ่อยๆในการดูแลสนามหญ้าและสวน , เครื่องตัดแต่งใบไม้ด้วยเชือกเป็นที่รู้จักกัน แพร่หลายมากขึ้นในชื่อสินค้า WEEDEATER หรือ Weedwhacker. ถูกคิดค้นในปี 1971 โดยจอร์จ Ballas แห่งฮูสตัน เท็กซัส.^[209]

1971 Memristor

memristor เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์พาสซีฟแบบสองขั้วที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อแสดงเพียงคุณสมบัติของ memristance. อย่างไรก็ตาม ในทางปฏิบัติมันอาจจะยากที่จะสร้าง'memristor บริสุทธิ์', เนื่องจากอุปกรณ์จริงยังอาจมีคุณสมบัติอื่นๆจำนวนเล็กน้อยบางอย่างเช่น ค่าการเก็บประจุ (อังกฤษ: capacitance). ในปี 1971, วิศวกรและนักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์อเมริกัน Leon Chua ได้ตั้งสมมติฐานแรกของ memristor ที่สามารถนำมาใช้ในการทำเป็นหน่วยความจำคอมพิวเตอร์. เกือบสี่ทศวรรษหลังจากการวิจัยของชัวส์, ทีมงานวิศวกรที่ Hewlett Packard ภายใต้การดูแลของ อาร์ สแตนลี่ย์ วิลเลียมส์ ได้สร้าง memristor ทำงาน โดยใช้ฟิล์มบางของไทเทเนียมไดออกไซด์ในเดือนเมษายน 2008.^[210]

1971 อีเมล

จดหมายอิเล็กทรอนิกส์, มักจะสั้นๆว่า e-mail, เป็นวิธีการสร้าง, การส่งหรือการจัดเก็บการสื่อสารของมนุษย์ในรูปของข้อความเป็นหลักด้วยระบบการสื่อสารแบบดิจิตอล. เรย์ ทอมลินสัน โปรแกรมเมอร์ที่ทำงานอยู่ในกระทรวงกลาโหมของสหรัฐอเมริกา (ARPANET), คิดค้นและส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์เป็นครั้งแรกในคอมพิวเตอร์แบบ time-sharing ในปี 1971. ก่อนหน้านี้ e-mail สามารถถูกส่งไปยังผู้ใช้บนคอมพิวเตอร์เครื่องเดียวกันเท่านั้น. ทอมลินสันได้รับการยกย่องว่าเป็นคนแรกที่ส่งอีเมลบนเครือข่ายและสำหรับการทำเครื่องหมาย"@" ในกระแสหลัก ของการสื่อสารทาง e-mail.^[211]

1972 ภาษาซี

ภาษา C เป็นภาษาการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์เพื่อใช้งานทั่วไป, ถูกคิดค้นแต่เดิมในปี 1972 โดย เดนนิส ริตชี่ ที่ห้องปฏิบัติการโทรศัพท์ Bell เพื่อที่จะเปิดการใช้ระบบปฏิบัติการยูนิกซ์. แม้ว่า ภาษา C ได้รับการออกแบบสำหรับการเขียนซอฟต์แวร์ระบบสถาปัตยกรรมที่เป็นอิสระ, มันยังคงถูกใช้กันอย่างแพร่หลายในการพัฒนาโปรแกรมประยุกต์.^[212]

1972 คอนโซลวิดีโอเกม

คอนโซลวิดีโอเกม เป็นคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ในการโต้ตอบบันเทิง ที่ผลิตสัญญาณวิดีโอเพื่อการแสดงผล ที่สามารถใช้กับอุปกรณ์แสดงผลเช่นโทรทัศน์ เพื่อแสดง วิดีโอเกม. จอยสติกหรือแผ่นควบคุมมักจะถูกใช้ในการจำลองและเล่นวิดีโอเกม. มันไม่ได้มีอะไรจนกระทั่งปี 1972 ที่ Magnavox ออกคอนโซลเกมโฮมวิดีโอตัวแรก, Magnavox Odyssey, ประดิษฐ์คิดค้นโดย ราล์ฟ เอช Baer.^[213]

1972 Global Positioning System

Global Positioning System (GPS ) เป็นระบบดาวเทียมนำทางทั่วโลกบนอวกาศที่ให้บริการที่น่าเชื่อถือ, หาตำแหน่งสามมิติ, นำทาง, และตรงเวลา ให้กับผู้ใช้ทั่วโลกอย่างต่อเนื่องในทุกสภาพอากาศ, กลางวันและกลางคืน, ที่ใดก็ได้บนหรือใกล้โลก. ดาวเทียม 24 ดวงโคจรรอบโลกวันละสองครั้ง, ส่งสัญญาณข้อมูลไปยังเครื่องรับ GPS ที่จะนำข้อมูลเหล่านี้ และใช้สมการสามจุดในการคำนวณสถานที่ตั้งที่แน่นอนของผู้ใช้. ในที่สุด จีพีเอสเป็นลูกหลานของโปรแกรม ดาวเทียม Timation ของกองทัพเรือสหรัฐฯ และโปรแกรมดาวเทียม621-Bของกองทัพอากาศสหรัฐ. การประดิษฐ์จีพีเอสเป็นความร่วมมือและความพยายามของทีมงาน. สถาปัตยกรรมพื้นฐานของจีพีเอสได้รับการปรับเปลี่ยนในระยะเวลาน้อยกว่าหนึ่งเดือนในปี 1972 โดยพันเอก Bradford Parkinson, Mel Birnbaum, Bob Rennard, และ Jim Spilker. อย่างไรก็ตาม ริชาร์ด อีสตัน, ลูกชายของ โรเจอร์ อีสตัน ที่เป็นหัวหน้าของโปรแกรม"Timation" ของกองทัพเรือสหรัฐ, อ้างว่าพ่อของเขาคิดค้น GPS และได้ยื่นจดสิทธิบัตร สหรัฐอเมริกา # 3789409 ในปี 1974. ชื่ออื่นๆที่ระบุไว้โดย ริชาร์ด อีสตัน คือ เจมส์ Buisson, โทมัส McCaskill , ดอน ลินช์, ชาร์ลส์ บาร์โธโลมิว, Randolph zwirn และ "คนนอก ที่สำคัญ" โรเบิร์ต เคอร์น. Ivan Getting, ในขณะที่ทำงานอยู่กับ Raytheon, จินตนาการระบบ ดาวเทียมคล้ายกับ MOSAIC, ระบบขีปนาวุธนำวิถีเคลื่อนที่บนราง, แต่ทำงานมากกว่าเหมือน LORAN.^[214] โปรแกรมจีพีเอสได้รับการอนุมัติในเดือนธันวาคมปี 1973, ดาวเทียมจีพีเอสดวงแรกที่ถูกส่งขึ้นไปในปี 1978 และพอถึงเดือนสิงหาคมปี 1993, 24 ดาวเทียมจีพีเอสอยู่ในวงโคจร. ความสามารถในการดำเนินงานขั้นต้นได้ก่อตั้งขึ้นในเดือนธันวาคมของปีเดียวกันในขณะที่ในเดือนกุมภาพันธ์ปี 1994, สำนักงานการบินแห่งชาติ (FAA) ประกาศว่าจีพีเอสพร้อมใช้งาน ^[215]

1972 PET สแกนเนอร์

PET สแกนเนอร์เป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ใช้กันโดยทั่วไปซึ่งจะสแกนร่างกายมนุษย์ทั้งหมดในการตรวจหาโรคต่างๆเช่นมะเร็ง. สแกนเนอร์ PET ถูกคิดค้นในปี 1972 โดย เอ็ดเวิร์ดเจ ฮอฟแมน และเพื่อนนักวิทยาศาสตร์ ไมเคิล เฟลป์ส.^[216]

1972 การสร้างภาพด้วยเรโซแนนซ์แม่เหล็ก

ภาพ MRI ครึ่งศีรษะที่มีภาพจำลอง (จมูกและหน้าผากปรากฏที่ด้านหลังของศีรษะ)

การถ่ายภาพด้วยคลื่นแม่เหล็ก (อังกฤษ: Magnetic resonance imaging (MRI)) หรือ การถ่ายภาพด้วยคลื่นสนามแม่เหล็กนิวเคลียร์ (อังกฤษ: nuclear magnetic resonance imaging (NMRI)) เป็นเทคนิคการถ่ายภาพหลักทางการแพทย์ที่ใช้กันมากที่สุดในสาขารังสีวิทยา เพื่อสร้างภาพโครงสร้างและการทำงานของร่างกาย. ดร. เรย์มอนด์ Damadian, นักวิทยาศาสตร์อาร์เมเนีย-อเมริกัน, ผู้ที่ขณะทำการวิจัยเพื่อวิเคราะห์คุณสมบัติของคลื่นสนามแม่เหล็ก, ได้สร้างเครื่องถ่ายภาพด้วยคลื่นแม่เหล็กตัวแรกของโลกในปี 1972. Damadian ยื่นขอสิทธิบัตรครั้งแรกสำหรับเครื่อง MRI, สหรัฐอเมริกา # 3789832 วันที่ 17 มีนาคม 1972 ซึ่ง ต่อมาไดัรับการอนุมัติในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 1974.^[217] Damadian พร้อมกับ แลร์รี่ Minkoff และ ไมเคิล Goldsmith, ต่อมาได้ใช้ MRI ทำการสแกนร่างกายของมนุษย์ครั้งแรกเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 1977.^[218]^[219] การสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญพื้นฐานและการนำไปใช้ของ MRI ในทางการแพทย์, พอล Lauterbur แห่งมหาวิทยาลัย อิลลินอยส์ ที่ เออร์บานา และ เซอร์ปีเตอร์ Mansfield แห่งมหาวิทยาลัยนอตติงแฮมได้รับรางวัลโนเบลด้านสรีรวิทยาหรือการแพทย์ ปี 2003 สำหรับ "การค้นพบเกี่ยวกับการถ่ายภาพด้วยคลื่นสนามแม่เหล็ก"ของพวกเขา.^[220] รางวัลนี้ได้รับการประท้วงอย่างจริงจังโดย Damadian, ผู้ก่อตั้ง FONAR คอร์ปอเรชั่น, ผู้ซึ่งอ้างว่าเขาเป็นผู้คิดค้น MRI และว่า Lauterbur และ Mansfield ทำเพียงแค่กลั่นเทคโนโลยีนี้เท่านั้น.^[221]

1973 เรือส่วนบุคคล

เรือส่วนบุคคล (อังกฤษ: personal watercraft (PWC)) เป็น เรือสันทนาการที่ผู้ขับจะนั่ง หรือยืนบนเรือ, มากกว่าจะอยู่ภายในเรือ, เหมือนเรือทั่วไป. แบบของเรือมีเครื่องยนต์ในตัวเรือขับเจ็ทปั๊มที่มีใบพัดรูปสกรู เพื่อสร้างแรงผลักดันสำหรับการขับเคลื่อนและบังคับพวงมาลัย. เคลย์ตัน เจคอปสัน ที่สอง ได้เครดิตกับการประดิษฐ์เรือส่วนบุคคลของทั้งแบบนั่งและแบบยืนในปี 1973.^[222]

1973 กระดาษอิเล็กทรอนิกส์

กระดาษอิเล็กทรอนิกส์, หรือที่เรียกว่า e-paper, เป็นเทคโนโลยีการแสดงผลที่ออกแบบมาเพื่อเลียนแบบลักษณะของหมึกธรรมดาบนกระดาษ. กระดาษอิเล็กทรอนิกส์จะสะท้อนแสงเหมือนกระดาษธรรมดา และมีความสามารถในการรักษาข้อความและภาพไปเรื่อยๆโดยไม่ต้องใช้กระแสไฟฟ้า, ขณะที่ยอมให้ภาพสามารถที่จะเปลี่ยนแปลงได้ในภายหลัง. การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีกระดาษอิเล็กทรอนิกส์จะรวมทั้งผู้อ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์จะสามารถแสดงเวอร์ชันแบบดิจิตอลของหนังสือ, นิตยสารและหนังสือพิมพ์, ฉลากกำหนดราคาแบบอิเล็กทรอนิกส์ในร้านค้าปลีก, ตารางเวลาที่สถานีรถประจำทาง และป้ายอิเล็กทรอนิกส์. กระดาษอิเล็กทรอนิกส์ถูกคิดค้นในปี 1973 โดย นิค Sheridon ที่ ศูนย์วิจัยพาโลอัลโตของซีร็อกซ์. กระดาษอิเล็กทรอนิกส์ชิ้นแรก, ที่เรียกว่า Gyricon, ประกอบด้วยทรงกลมพลาสติกเส้นผ่าศูนย์กลางระหว่าง 75 และ 106 ไมโครเมตร.^[223]

1973 Recombinant DNA

Recombinant DNA เป็นรูปแบบหนึ่งของดีเอ็นเอสังเคราะห์ที่ถูกออกแบบผ่านการรวมกันหรือการสอดแทรกเส้นดีเอ็นเอหนึ่งหรือหลายเส้น, จึงเป็นการรวมลำดับของดีเอ็นเอที่ปกติจะไม่เกิดขึ้นร่วมกัน. เทคนิคดีเอ็นเอ Recombinant ถูกออกแบบโดย สแตนลี่ย์ นอร์แมน โคเฮน และ เฮอร์เบิร์ต บอยเยอร์ ในปี 1973. พวกเขาตีพิมพ์ผลการวิจัยของพวกเขาในสิ่งพิมพ์ในปี 1974 เรื่อง"การสร้างพลาสมิดแบคทีเรียื่มีหน้าที่ทางชีวภาพในหลอดทดลอง", ซึ่งอธิบายเทคนิคที่จะแยกและขยายยีนหรือส่วนดีเอ็นเอและแทรกไว้ในเซลล์อื่นด้วยความแม่นยำ, เพื่อสร้างแบคทีเรียตัดต่อพันธุกรรม.^[224]

1973 เครื่องฟอกไอเสียเชิงเร่งปฏิกิริยา(สามทาง)

เครื่องฟอกไอเสียเชิงเร่งปฏิกิริยาแบบสามทางที่ใช้กับรถใช้น้ำมันแก๊สโซลีน Dodge Ram Van รุ่น 1996

เครื่องฟอกไอเสียเชิงเร่งปฏิกิริยาหรือ (อังกฤษ: catalytic converter) ให้สภาพแวดล้อมสำหรับการเกิดปฏิกิริยาเคมีในที่ซึ่งการเผาไหม้สารพิษที่เป็นผลผลิตพลอยได้จะถูกแปลงเป็นสารที่เป็นพิษน้อยลง. ถูกใช้เป็นครั้งแรกในรถยนต์ในปี 1975 เพื่อลดมาตรฐานการปล่อยสารพิษ, เครื่องฟอกไอเสียเชิงเร่งปฏิกิริยายังถูกใช้ในชุดเครื่องกำเนิดไฟฟ้า, รถยก, อุปกรณ์การทำเหมืองแร่, รถบรรทุก, รถบัส, รถไฟ และเครื่องจักรที่มีเครื่องยนต์อื่นๆ. เครื่องฟอกไอเสียเชิงเร่งปฏิกิริยาแบบสามทางร่วมคิดค้นโดย จอห์น เจ Mooney และ Carl D. คีธ ที่ Engelhard คอร์ปอเรชั่น ในปี 1973.^[225]

1973 โทรศัพท์มือถือ

โทรศัพท์มือถือหรือเซลล์โฟน เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ระยะไกลที่ใช้สำหรับการสื่อสารเคลื่อนที่ของเสียงหรือข้อมูลผ่านเครือข่ายของสถานีฐานเชี่ยวชาญเฉพาะ ที่รู้จักกันเป็นเซลล์ไซต์. โทรศัพท์มือถือช่วงต้นได้ใช้คลื่นวิทยุ FM ในการใช้งานอยู่นานหลายปี, แต่เนื่องจาก จำนวนความถี่วิทยุที่มีจำกัดมากในหลายพื้นที่, จำนวนการใช้โทรศัพท์จึงมีจำกัดไปด้วย. เพื่อแก้ปัญหานี้, อาจจะมีพื้นที่ขนาดเล็กจำนวนมากที่เรียกว่าเซลล์ ที่แชร์ความถี่เดียวกัน. เมื่อผู้ใช้ เคลื่อนที่จากพื้นที่หนึ่งไปยังอีกพื้นที่หนึ่งในขณะที่กำลังโทร, การโทรจะต้องถูกสวิตช์ไปโดยอัตโนมัติโดยสายไม่หลุด. ในระบบนี้ ความถี่วิทยุจำนวนน้อยสามารถรองรับการโทรจำนวนมากได้. การโทรด้วยมือถือครั้งแรกทำจากโทรศัพท์ในรถในเซนต์หลุยส์, มิสซูรี เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 1946 แต่ระบบก็ทำไม่ได้จากสิ่งที่ถือว่าเป็นโทรศัพท์มือถือแบบพกพาในปัจจุบัน. อุปกรณ์หนัก 80 ปอนด์, และใช้บริการของ AT&T, ที่โดยทั่วไปเป็นสายที่มีการใช้หนาแน่น, มีค่าใช้จ่าย $30 ต่อเดือน บวก 30 ถึง 40 เซ็นต์ต่อการโทรท้องถิ่นหนึ่งครั้ง.^[226] เครือข่ายและโครงสร้างสนับสนุนพื้นฐานของ เซลล์หกเหลี่ยมที่ใช้ในการสนับสนุนระบบโทรศัพท์มือถือในขณะที่ยังคงใช้ช่องสัญญาณเดียวกันได้ถูกดัดแปลงโดย Douglas H. Ring และ W. Rae Young ที่ AT&T Bell Labs ในปี 1947. ในที่สุดในปี 1973 มาร์ติน คูเปอร์ ได้คิดค้นมือถือเซลลูลาร์/โทรศัพท์มือถือเป็นครั้งแรก. การโทรด้วยโทรศัพท์มือถือของเขาครั้งแรกถูกเรียกไปที่ โจเอล เอส Engel ในเดือน เมษายน 1973.^[11]^[227]

1973 จดหมายเสียง

จดหมายเสียง หรือ (อังกฤษ: Voicemail) คือ การจัดการของข้อความทางโทรศัพท์จากระบบจัดเก็บข้อมูลส่วนกลาง. Voicemail ถูกเก็บไว้ในฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์, สื่อที่ใช้โดยทั่วไปใน เครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อเก็บข้อมูลรูปแบบอื่นๆ. ข้อความจะถูกบันทึกไว้ในรูปแบบเสียงมนุษย์ธรรมชาติในรูปแบบดิจิตอล คล้ายกับวิธีการที่เพลงจะถูกเก็บไว้ในแผ่นซีดี. เพื่อดึงออกมาและ นำมาเล่นเพื่อฟังข้อความ, ผู้ใช้จะเรียกมาที่ระบบจากโทรศัพท์ใดๆ, และข้อความของเขาหรือของเธอสามารถถูกเรียกออกมาฟังได้ทันที. ระบบจดหมายเสียงครั้งแรก, หรือที่เรียกว่าระบบการจัดเก็บคำพูด (อังกฤษ: Speech Filing System (SFS)) ถูกคิดค้นโดย สตีเฟ่น เจ Boies ในปี 1973. ระบบนี้เริ่มเป็นโครงการวิจัยที่ ศูนย์วิจัยโทมัสเจวัตสัน ของไอบีเอ็ม, ต้นแบบการทำงานครั้งแรกที่ผู้ใช้โทรศัพท์สามารถใช้งานได้ในปี 1975.^[228]

1974 วิธีการของ Heimlich

การกดช่องท้อง หรือที่รู้จักกันดีว่า วิธีการของ Heimlich (อังกฤษ: Heimlich maneuver), เกี่ยวข้องกับผู้กู้ภัยยืนอยู่ข้างหลังผู้ป่วยและใช้มือของเขาออกแรงกดที่ด้านล่างของกะบังลม. การกระทำแบบนี้จะบีบอัดปอดและสร้างแรงกดดันบนวัตถุใดๆที่ขวางอยู่ในหลอดลม, หวังว่าจะขับมันออกมา. แบบนี้ทำให้เกิดการไอเทียม. เฮนรี่ เฮมลิช เป็นผู้ประดิษฐ์เทคนิคการกดช่องท้องที่ตีพิมพ์การค้นพบของเขาครั้งแรกเกี่ยวกับวิธีการนี้ในบทความที่ไม่เป็นทางการในเดือนมิถุนายน 1974 ในสิ่งพิมพ์การแพทย์ฉุกเฉิน เรื่อง" ป๊อปไปคาเฟ่โรคหัวใจ". ในวันที่ 19 มิถุนายน 1974 สิ่งพิมพ์ Seattle Post-Intelligencer รายงานว่า เจ้าของร้านอาหารเกษียณ ไอแซค Piha ใช้ขั้นตอนเพื่อช่วยเหลือเหยื่อที่สำลัก ไอรีน Bogachus ในเบลวิว, วอชิงตัน.^[229]

1974 Post-it Note

Post-it note เป็นชิ้นกระดาษที่มีแถบกาวอยู่ด้านหลังที่สามารถติดใหม่ได้, ถูกออกแบบ สำหรับติดบันทึกชั่วคราวกับเอกสารและพื้นผิวอื่นๆ เช่น ผนัง, โต๊ะทำงาน, จอแสดงผลคอมพิวเตอร์, และอื่นๆ. Post-it note ถูกร่วมคิดค้นโดยพนักงาน 3M, Arthur Fry และ Spencer Silver ในปี 1974.^[230]

1974 กล้องจุลทรรศน์สแกนด้วยเสียง

กล้องจุลทรรศน์สแกนด้วยเสียง หรือ (อังกฤษ: Scanning Acoustic Microscope (SAM)) เป็นอุปกรณ์ที่ใช้เสียงที่ถูกโฟกัสเพื่อการตรวจสอบ, วัด, หรือสร้างภาพวัตถุ. มันเป็นที่นิยมใช้ในการวิเคราะห์ความล้มเหลวและการประเมินผลแบบไม่สร้างสรรค์. กล้องจุลทรรศน์สแกนด้วยเสียงครั้งแรกได้รับการร่วมคิดค้นในปี 1974 โดย C. F. Lemons และ R. A. Quate ที่ ห้องปฏิบัติการไมโครเวฟ ของ มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด.^[231]

1974 เลเซอร์แบบควอนตัมเวลล์

เลเซอร์แบบควอนตัมเวลล์ (อังกฤษ: Quantum well laser) เป็นเลเซอร์ไดโอดในที่ซึ่ง ภูมิภาคที่แอคทีฟของอุปกรณ์เป็นที่แคบจะจนเกิดการเก็บตัวของควอนตัม. ความยาวคลื่นของ แสงที่ปล่อยออกโดยเลเซอร์ควอนตัมเวลล์จะถูกกำหนดโดยความกว้างของพื้นที่แอคทีฟมากกว่าแค่ความกว้างของแถบความถี่ของวัสดุที่มันถูกสร้างขึ้น. ควอนตัมเลเซอร์เวลล์ถูกคิดค้นโดย ชาร์ลส์ เอช เฮนรี นักฟิสิกส์ที่ Bell Labs ในปี 1974และ ได้รับสิทธิบัตรสำหรับมันในปี 1976.^[232]

1974 รหัสสินค้าสากล

รหัสสินค้าสากล (อังกฤษ: Universal Product Code (UPC)) เป็นสัญลักษณ์ของบาร์โค้ดที่จะสแกนตัวเลข 12 หลักพร้อมแถบเพื่อที่จะติดตามรายการสินค้าและการเข้ารหัสข้อมูล เช่นการกำหนดราคาสินค้าบนชั้นวางของร้าน. รหัสสินค้าสากล, คิดค้นโดย จอร์จ Laurer ที่ IBM ถูกนำมาใช้ในบนรายการที่ถูกทำเครื่องหมายเพื่อจะถูกสแกนที่เช็คเอาต์ค้าปลีก, ซูเปอร์มาร์เก็ตของมาร์ช ในทรอย, โอไฮโอ, ที่ 08:01 เช้าในวันที่ 26 มิถุนายน 1974.^[233]

1975 กล้องดิจิทัล

กล้องดิจิทัลเป็นกล้องที่ใช้ถ่ายวิดีโอหรือภาพนิ่งแบบดิจิทัล, โดยการบันทึกภาพผ่าน เซนเซอร์รูปภาพอิเล็กทรอนิกส์. สตีเว่น Sasson เป็นวิศวกรที่อีสต์แมนโกดักคิดค้น และสร้างกล้องดิจิตอลครั้งแรกที่ใช้อุปกรณ์ถ่ายเทประจุและเซ็นเซอร์รูปภาพในปี 1975.^[234]^[235]

1975 อีเธอร์เน็ต

อีเธอร์เน็ตเป็นครอบครัวเทคโนโลยีเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่ใช้เฟรมในเครือข่ายท้องถิ่น(LANs). ชื่อนี้ได้มาจากแนวคิดทางกายภาพของอีเธอร์. มันกำหนดจำนวนของสายไฟและ มาตรฐานของสัญญาณสำหรับชั้น Physical Layer ของแบบจำลองเครือข่าย OSI, ด้วยวิธีการ ของการเข้าถึงเครือข่ายที่การควบคุมการเข้าถึงสื่อ (อังกฤษ: Media Access Control (MAC))/ชั้นการเชื่อมโยงข้อมูล, และรูปแบบการ addressing ร่วมกัน. โรเบิร์ต เมทคาล์ฟ ในขณะอยู่ที่ซีร็อกซ์ คิดค้นอีเธอร์เน็ตในปี 1975.^[236]

1975 ห่วงบาสงอได้

ห่วงบาสงอได้ เป็นห่วงบาสเก็ตบอลที่สามารถโค้งงอได้เล็กน้อย เมื่อผู้เล่นยัดห่วงบาสเกตบอลแล้วมันจะดีดกลับทันทีเป็นรูปร่างเดิมเมื่อผู้เล่นปล่อยมือ. มันจะช่วยให้ผู้เล่นสามารถ dunk ลูกโดยไม่ทำให้แป้นบาสแตกและจะช่วยลดความเป็นไปได้ของการบาดเจ็บที่ข้อมือ. อ้างถึง Lemelson Center, หน่วยร่วมมือของ สถาบันสมิธโซเนียน ในกรุงวอชิงตันดีซี, ห่วงบาสงอได้ถูกคิดค้นโดย อาร์เธอร์ Ehrat. หลังจากหกปี, จาก กรกฎาคม 1976 ถึงธันวาคม 1982, Ehrat ได้ยื่นรับสิทธิบัตร(สิทธิบัตรสหรัฐอเมริกาเลขที่ 4365802). ใบสมัครของเขาถูกปฏิเสธถึงสองครั้ง, เนื่องจากผู้ตรวจสอบสิทธิบัตร พอล ชาปิโร ให้ข้อสังเกตว่า เฟรเดอริก C. Tyner ได้ถือสิทธิบัตรสำหรับอุปกรณ์ที่คล้ายกัน (สิทธิบัตรสหรัฐอเมริกาเลขที่ 4111420). อย่างไรก็ตาม ศาลอุทธรณ์ตัดสินเป็นประโยชน์กับ Ehrat, เมื่อเขาได้พิสูจน์ด้วยการรับรองสำเนาของการตรวจสอบที่ไม่ผ่านและร่างคร่าวๆของสิ่งประดิษฐ์ของเขา, ว่าเขากำลังทำงานอยู่กับเป้าหมายของห่วงบาสเกตบอลที่งอได้ของเขาในปี 1975 ก่อนที่ เฟรเดอริก เทย์เนอร์ จะมีความคิดในเรื่องนี้ของเขา.^[237]

1976 กอร์เท็กซ์

กอร์เท็กซ์ เป็นผ้ากันน้ำระบายอากาศได้และถูกทำขึ้นโดยใช้กระบวนการพอลิเมออิมัลชัน กับกรด perfluorooctanoic fluorosurfactant. กอร์เท็กซ์ ร่วมคิดค้นโดย Wilbert L. กอร์ , Rowena เทย์เลอร์ และ ลูกชายของกอร์ โรเบิร์ต ดับบลิว กอร์ สำหรับใช้ในอวกาศ. โรเบิร์ต กอร์ ได้รับสิทธิบัตรวันที่ 27 เมษายน 1976 สำหรับ รูปแบบที่มีรูพรุน ของ polytetrafluoroethylene ที่มีโครงสร้างขนาดเล็กที่โดดเด่นด้วยโหนดที่เชื่อมต่อกันโดยเส้นใยฝอย. โรเบิร์ต กอร์, Rowena เทย์เลอร์ และ ซามูเอล อัลเลน ได้รับการจดสิทธิบัตรเมื่อวันที่ 18 มีนาคม 1980 สำหรับ "ลามิเนตกันน้ำ".^[238]

1977 เครื่องบินขับเคลื่อนด้วยมนุษย์

เครื่องบินขับเคลื่อนด้วยมนุษย์รุ่น Light Eagle ของ MIT, รุ่นต่อจาก MIT Daedalus

เครื่องบินขับเคลื่อนด้วยมนุษย์ (อังกฤษ: Human-powered aircraft (HPA)) เป็น เครื่องบินที่ขับเคลื่อนโดยพลังงานของมนุษย์โดยตรงและด้วยแรงโน้มถ่วงของโลก. แรงผลักดันของมนุษย์อาจจะเป็นแหล่งพลังงานเพียงอย่างเดียว. อย่างไรก็ตาม เครื่องร่อนแขวนที่ขับเคลื่อนบางส่วนโดยกำลังของนักบินก็เป็นเครื่องบินขับเคลื่อนด้วยมนุษย์ที่เส้นทางการบินสามารถเพิ่มมากขึ้นกว่าถ้าเครื่องร่อนแขวนไม่ได้รับการช่วยเหลือจากกำลังของมนุษย์. คิดค้น โดยนักออกแบบ พอล MacCready และสร้างจากวัสดุโฟมและแท่งคาร์บอนไฟเบอร์, Gossamer Condor เป็นเครื่องบินขับเคลื่อนด้วยมนุษย์ที่ปฏิบัติได้จริงและประสบความสำเร็จลำแรก, อยู่ในอากาศได้นาน 7.5 นาทีโดยไม่มีการขัดจังหวะ. ปี 1979 นักขี่จักรยานชื่อ ไบรอน อัลเลน ใช้รูปแบบต่อเนื่องของ McCready ที่รู้จักกันว่าคือ Gossamer Albatross และได้รับรางวัลของ นักอุตสาหกรรมอังกฤษ เฮนรี Kremer มูลค่า $ 214,000 สำหรับการบิน 22 ไมล์ ข้ามช่องแคบอังกฤษ.^[239]

1977 เลเซอร์แบบไอโอดีนออกซิเจนเคมี

เลเซอร์บบแบบไอโอดีนออกซิเจนเคมี (อังกฤษ: chemical oxygen iodine laser (COIL)) เป็น เลเซอร์สารเคมีอินฟราเรดแบบหนึ่ง, ถูกคิดค้นโดยห้องปฏิบัติการฟิลลิป ของกองทัพอากาศสหรัฐในปี 1977 เพื่อวัตถุประสงค์ทางทหาร. คุณสมบัติของมันมีประโยชน์สำหรับกระบวนการทางอุตสาหกรรมเช่นกัน. ลำแสงสามารถโฟกัสและสามารถถ่ายโอนโดยใยแก้วนำแสง, เนื่องจากความยาวคลื่นของมันจะไม่ถูกดูดซึมมากโดยซิลิกาหลอมเหลว แต่จะถูกดูดซึมได้ดีโดยโลหะ, ทำให้มันเหมาะสำหรับการตัดและการขุดเจาะด้วยเลเซอร์. COIL เป็นอาวุธเลเซอร์หลักสำหรับเลเซอร์ทหารทางอากาศและโปรแกรมเลเซอร์ยุทธวิธีขั้นสูง.^[240]

1978 เตียงพับ

เตียงพับ เป็นเตียงโซฟาที่เลื่อนไปที่ผนังเพื่อทำเป็นโซฟา. ที่นอนถูกพับให้เป็นที่นั่งและพนักพิง. โครงของเตียงสามารถพับเข้าไปข้างใต้ของเบาะนั่ง. เวอร์ชันดั้งเดิมของเตียงพับได้รับการ ร่วมคิดค้นโดย แมนนิ่ง เลน, วอร์เรน เจ Hauck และรอย โอ สวีนีย์ แห่ง ซินซินนาติ, โอไฮโอ. สิทธิบัตร สหรัฐอเมริกา # 4204287 ถูกยื่นขอในวันที่ 5 กันยายน 1978 และได้รับอนุญาตในวันที่ 27 พฤษภาคม 1980.^[241]

1978 ถุงข้าวโพดคั่ว

ถุงข้าวโพดคั่วเป็นถุงที่ออกแบบมาเป็นพิเศษให่ใช้ในเตาไมโครเวฟได้ ที่มีข้าวโพดคั่วพร้อมกับน้ำมัน, เครื่องเทศและเครื่องปรุงรสอยู่ข้างใน. ปกติถุงจะพับบางส่วนเมื่อมันถูกวางไว้ในเตาอบไมโครเวฟและพองตัวที่เป็นผลมาจากแรงดันไอน้ำจากเมล็ดที่ถูกทำให้ร้อน. สิทธิบัตรที่เก่าที่สุดของถุงข้าวโพดคั่ว, สหรัฐอเมริกา สิทธิบัตร # 4267420 ถูกยื่นขอในวันที่ 12 ตุลาคม 1978 โดย วิลเลียม เอ Brastad แห่ง Minneapolis และอนุญาต ในวันที่ 12 พฤษภาคม 1981.^[242]

1978 ระบบกระดานข่าว

ระบบกระดานข่าว (อังกฤษ: Bulletin Board System (BBS)) เป็น ระบบคอมพิวเตอร์ที่มีรันซอฟแวร์ที่ยอมให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อและล็อกอินเข้าสู่ระบบโดยใช้โปรแกรมลูกข่าย. เมื่อล็อกอินเข้าสู่ระบบได้แล้ว, ผู้ใช้สามารถทำงานเช่น อัปโหลดและดาวน์โหลดซอฟแวร์และข้อมูล, อ่านข่าวและแถลงการณ์, และแลกเปลี่ยนข้อความกับผู้อื่น, ผ่านทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ หรือในกระดานข้อความสาธารณะ. BBS จำนวนมากยังมีเกมออนไลน์ที่ผู้ใช้สามารถแข่งขันกัน และ BBS ที่มีสายโทรศัพท์หลายๆสาย มักจะจัดให้มีห้องแชทที่ยอมให้ผู้ใช้ โต้ตอบกัน. CBBS เป็นระบบ Bulletin Board แรก, ถูกคิดค้นโดย Ward Christensen และแรนดี้ Suess ในชิคาโก, ดำเนินการอย่างเต็มที่ในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 1978.^[243]

1979 Winglets

Winglet ที่ติดอยู่กับปลายปีกของโบอิ้ง 757 ของสายการบิน Continental Airlines

Winglets มักมีวัตถุประสงค์เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของเครื่องบินปีกอยู่กับที่. แนวคิดของ winglets เกิดขึ้นปลายศตวรรษที่ 19 แต่ความคิดยังคงอยู่บนกระดานวาดภาพ. ตลอดปี 1970s เมื่อราคาของน้ำมันเชื้อเพลิงการบินเริ่มแพงขึ้น, วิศวกรการบินนาซา ริชาร์ด Whitcomb เริ่มสืบสวนและการศึกษาความเป็นไปได้ของ winglets เพื่อปรับปรุงอากาศพลศาสตร์โดยรวมและ ลดแรงต้านที่กระทำกับเครื่องบิน. การทดสอบของ Whitcomb ในที่สุดลงเอยด้วยการทดสอบการบินที่ประสบความสำเร็จเป็นครั้งแรกของ winglets ของเขาที่ติดอยู่บน KC -135 Stratotanker เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 1979.^[244]

1979 ขนแกะขั้วโลก

ขนแกะขั้วโลก, หรือ "ขนแกะ" เป็นผ้าขนสัตว์สังเคราะห์ฉนวนอ่อนนุ่ม ที่ทำจากพลาสติก terephthalate หรือ เส้นใยสังเคราะห์อื่นๆ. พบใน เสื้อ, หมวกคลุมศีรษะ และ ชุดลำลอง, ขนแกะมีบางส่วนของคุณภาพที่ดีที่สุดของขนสัตว์แต่มีน้ำหนักเพียงส่วนเล็กๆของผ้าขนสัตว์ที่มีน้ำหนักเบาที่สุด. รูปแบบครั้งแรกของขนแกะขั้วโลกถูกคิดค้นในปี 1979 โดยโรงงาน Malden, ตอนนี้ชื่อ Polartec LLC., ซึ่งเป็นเส้นใยที่ใหม่, เบาและแข็งแกร่ง ซึ่งหมายถึงการเลียนแบบ และหลายครั้งเหนือกว่าขนสัตว์.^[245]

1980 และ ต้นปี 1990 (1980-1991)

1981 Control-Alt-Delete

Control-Alt-Delete , มักย่อว่า Ctrl-Alt-Del เป็นคำสั่งบนแป้นพิมพ์คอมพิวเตอร์ในระบบที่รองรับเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ที่ใช้ในการรีบูตเครื่องคอมพิวเตอร์, และเรียกตัวจัดการงาน (อังกฤษ: task manager) หรือระบบปฏิบัติการ. มันถูกเรียกใช้โดยการกดปุ่ม Ctrl, lt และ Delete พร้อมกัน: Ctrl+Alt+Delete. การทำอย่างนั้น เป็นการบังคับให้ PC ทำการซอล์ฟรีบูต, เรียก task manager ขึ้นมา (บน Windows และ BeOS) หรือกระโดดไปที่ตัวตรวจสอบ ROM. Ctrl-Alt-Del ถูกคิดค้นในปี 1981 โดยเดวิด แบรดลีย์ ขณะที่ทำงานให้ IBM.^[246]

1981 กล้องจุลทรรศน์แบบเรืองแสงสะท้อนภายในรวม

กล้องจุลทรรศน์แบบเรืองแสงสะท้อนภายในรวม (อังกฤษ: Total internal reflection fluorescence microscope) เป็นกล้องจุลทรรศน์ชนิดหนึ่งที่สามารถมองเห็นภูมิภาคบางๆของชิ้นงานที่มักจะมีขนาดน้อยกว่า 200 นาโนเมตรได้. นอกจากนี้ มันยังสามารถใช้ในการ สังเกตการเรืองแสงของโมเลกุลเดี่ยว ซึ่งทำให้มันเป็นเครื่องมือที่สำคัญของชีวฟิสิกส์และชีววิทยาเชิงปริมาณ. แดเนียล แอกเซลรอด คิดค้นเป็นครั้งแรกในปี 1981.^[247]

1981 กระสวยอวกาศ

กระสวยอวกาศ: เครื่องที่ซับซ้อนที่สุดในโลก

กระสวยอวกาศ, ส่วนหนึ่งของระบบขนส่งอวกาศ (อังกฤษ: Space Transportation System (STS)), เป็นยานอวกาศที่ดำเนินการโดยองค์การนาซ่าสำหรับภารกิจการบินในอวกาศของมนุษย์. มันจะบันทุกสัมภาระในวงโคจรโลกต่ำ, หมุนเวียนลูกเรือไปที่สถานีอวกาศนานาชาติ (อังกฤษ: International Space Station (ISS)) และดำเนินการภารกิจการให้บริการอื่นๆ. ยานอวกาศยังสามารถกู้คืนดาวเทียมและสัมภาระอื่นๆจากวงโคจรและนำมันกลับ มายังโลก. ในปี 1981 นาซาประสบความสำเร็จในการส่งยานอวกาศที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ที่เรียกว่ากระสวยอวกาศ. จอร์จ มูลเลอร์ ชาวอเมริกันจากเซนต์หลุยส์, มิสซูรี ได้รับเครดิต อย่างกว้างขวางสำหรับการกระโดดเข้าเริ่มต้น, ออกแบบและกำกับดูแลโครงการกระสวยอวกาศ หลังจากการตายของโปรแกรมอพอลโลในปี 1972.^[248]

1981 เพนท์บอล

เพนท์บอลเป็นเกมที่ผู้เล่นกำจัดฝ่ายตรงข้ามโดยการยิงพวกเขาด้วยเม็ดสีที่มักจะยิงออกมาจากปืนเพนท์บอลที่มีพลังบรรจุด้วยกระสุนทำด้วยแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์บีบอัดหรือก๊าซ HPA หรือ N20, ความคิดของเกมร่วมคิดค้นเป็นครั้งแรกในปี 1976 โดย Hayes Noel, Bob Gurnsey, และ Charles Gaines. อย่างไรก็ตาม เกมเพนท์บอลไม่ได้เล่นครั้งแรกจนถึง 27 มิถุนายน 1981.^[249]

1981 ส่วนต่อประสานกราฟิกกับผู้ใช้

ส่วนต่อประสานกราฟิกกับผู้ใช้ หรือ (อังกฤษ: Graphic User Interface (GUI)) ใช้ หน้าต่าง, ไอคอนและเมนู ในการออกคำสั่ง เช่นการเปิดไฟล์, ลบไฟล์, ย้ายไฟล์และอื่นๆ และ แม้ว่าหลายระบบปฏิบัติการ GUI จะดำเนินการโดยใช้เมาส์ก็ตาม, แป้นพิมพ์ก็ยังสามารถใช้ได้โดยการใช้แป้นพิมพ์ทางลัดหรือปุ่มลูกศร. GUI ร่วมคิดค้นที่ ซีร็อกซ์ โดย อลัน เคย์ และ ดักลาส Engelbart ในปี 1981.^[250]

1983 อินเทอร์เน็ต

อินเทอร์เน็ตเป็นระบบระดับโลกของเครือข่ายคอมพิวเตอร์ทั้งหมดที่เชื่อมต่อถึงกันโดยใช้ มาตรฐาน Internet protocol suite (TCP/IP) ที่ให้บริการหลายพันล้านคนทั่วโลก. มัน เป็นเครือข่ายของหลายเครือข่ายที่ประกอบด้วยหลายล้านของภาครัฐและเอกชน, นักวิชาการ, ธุรกิจ, และเครือข่ายภาครัฐของท้องถิ่นจนถึงขอบเขตทั่วโลกที่มีการเชื่อมโยงโดยสายทองแดง , สายเคเบิลใยแก้วนำแสง, การเชื่อมต่อไร้สายและเทคโนโลยีอื่นๆ. แนวคิดของแพ็กเกตสวิตชิงของเครือข่ายมีการสำรวจครั้งแรกโดย Paul Baran ในช่วงต้นทศวรรษ 1960s,^[251] และสูตรทางคณิตศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังแพ็กเกตสวิตชิงได้ถูกปรับเปลี่ยนต่อมาโดย Leonard Kleinrock.^[252] เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 1969 เครือข่ายคอมพิวเตอร์อิเล็กทรอนิกส์แรกของโลก, อาร์พาเนต, ถูกก่อตั้งขึ้นระหว่างหลายโหนดที่ห้องปฏิบัติการ Leonard Kleinrock ที่ ยูซีแอลเอ และห้องปฏิบัติการ ดักลาส Engelbart ที่ Stanford Research Institute (ตอนนี้เป็น SRI International).^[253]. อีกขั้นเกิดขึ้นในปี 1973 เมื่อ บ๊อบ คาห์น และ Vinton Cerf ร่วมคิดค้นอินเทอร์เน็ตโพรโทคอล และ Transmission Control Protocol ขณะที่ทำงานกับอาร์พาเนตที่กระทรวง กลาโหมสหรัฐ.^[10] เครือข่ายพื้นที่กว้าง (อังกฤษ: wide area network (wan)) ที่ใช้ T่CP/IP ชุดแรกได้ดำเนินการในวันที่ 1 มกราคม 1983 เมื่อมูลนิธิวิทยาศาสตร์แห่งชาติ (NSF)ของสหรัฐฯสร้างเครือข่ายกระดูกสันหลังของมหาวิทยาลัย ที่ต่อมากลายเป็น NSFNET. วันนี้ถือว่าเป็น"วันเกิด" ของอินเทอร์เน็ต.^[254]^[255]

1983 ลายเซ็นตาบอด

ในการเข้ารหัส, ลายเซ็นตาบอด, ที่คิดค้นโดยเดวิด Chaum ในปี 1983, เป็นรูปแบบของลายเซ็นดิจิตอล ที่เนื้อหาของข้อความจะถูกปลอมตัว(ตาบอด)ก่อนที่จะมีการลงนาม. ลายเซ็นตาบอดที่ได้จะทำให้สามารถตรวจสอบได้ในที่สาธารณะกับข้อความต้นฉบับที่ไม่ตาบอดในลักษณะของลายเซ็นดิจิตอลปกติ. ลายเซ็นตาบอดมักจะถูกนำไปใช้ในโพรโทคอลส่วนตัวที่ผู้ลงนามและผู้เขียนข้อความเป็นบุคคลที่แตกต่างกัน. ตัวอย่าง รวมถึงระบบการเลือกตั้งโดยการเข้ารหัสลับและรูปแบบเงินสดดิจิตอล.^[256]

1983 จานเสียงเลเซอร์

จานเสียงเลเซอร์ ELP (LT-2XA) และ RME Fireface 800

จานเสียงเลเซอร์เป็นแผ่นเสียงที่เล่นโดยใช้แสงเลเซอร์เป็นตัวรับแทนเข็มปลายเพชรแบบดั้งเดิม. ระบบการเล่นนี้มีข้อได้เปรียบที่ไม่ซ้ำใครเพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสทางกายภาพกับแผ่นบันทึกในระหว่างการเล่น; แทนที่จะทำอย่างนั้น, ลำแสงที่โฟกัสจะกวาดตามร่องที่สูงต่ำของสัญญาณบนไวนิลด้วยแรงเสียดทานเป็นศูนย์, แบบเดียวกับที่อ่านแผ่น CD. จานเสียงเลเซอร์ถูกคิดขึ้นเป็นครั้งแรก โดย โรเบิร์ต เอส Reis, ในขณะที่ทำงานเป็นที่ปรึกษาด้านการประมวลผลสัญญาณแอนะล็อกสำหรับกองทัพอากาศสหรัฐ และกระทรวงกลาโหมสหรัฐ.^[257]

1984 โปรเจกต์เตอร์จอแอลซีดี

โปรเจ็กเตอร์จอแอลซีดีเป็นวิดีโอโปรเจกต์เตอร์สำหรับการแสดงภาพวิดีโอหรือข้อมูลบนหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือพื้นผิวเรียบอื่นๆ. มันเทียบเท่าเครื่องฉายสไลด์หรือฉายภาพข้ามศีรษะที่ทันสมัย. เพื่อแสดงภาพ, โปรเจกต์เตอร์จอแอลซีดีมักจะส่งแสงจากโคมไฟโลหะฮาไลด์ผ่านปริซึมหรือชุดของตัวกรอง dichroic ที่แยกแสงออกเป็นสามแผงโพลีซิลิคอน-สีแดง, สีเขียว และสีน้ำเงินของวิดีโอ. โปรเจกต์เตอร์จอแอลซีดีถูกคิดค้นในปี 1984 โดย ยีน Dolgoff.^[258]

1984 ปุ่มเลื่อนเมาส์

ปุ่มเลื่อนเมาส์ (อังกฤษ: pointing stick) เป็นจอยสติกแบบหนึ่ง ทำงานโดยใช้แรงบังคับ และใช้เป็นอุปกรณ์เลื่อนตำแหน่งบนเครื่องคอมพิวเตอร์แล็ปท็อป. มันใช้รูปแบบของหมวกยางตั้งอยู่บนแป้นพิมพ์ที่ฝังอยู่ระหว่างปุ่ม 'G', 'H' และ ' B'. ปุ่มเลื่อนเมาส์ถูกคิดค้นโดย นักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ชาวอเมริกัน เท็ด Selker ในปี 1984.^[259]

1984 ปฏิกิริยาลูกโซ่โพลิเมอร์

ปฏิกิริยาลูกโซ่โพลิเมอร์ (อังกฤษ: polymerase chain reaction (PCR)) เป็นเทคนิคที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในทางอณูชีววิทยา. มันได้ชื่อนี้จากองค์ประกอบหลักหนึ่งของโพลิเมอร์ดีเอ็นเอ ที่ใช้ในการขยายชิ้นส่วนของดีเอ็นเอในหลอดทดลองการคัดลอกดีเอ็นเอเอนไซม์. เมื่อ PCR ก้าวหน้าต่อไป ดีเอ็นเอ ที่สร้างขึ้นจะถูกใช้เป็นแม่แบบสำหรับการจำลอง. ปฏิกิริยาลูกโซ่ โพลิเมอร์ ถูกคิดค้นในปี 1984 โดย Kary Mullis.^[260]

1986 กล้องจุลทรรศน์แรงอะตอม

กล้องจุลทรรศน์แรงอะตอม เป็นกล้องจุลทรรศน์ที่ใช้สำหรับการถ่ายภาพ, การวัด, และการจัดการวัตถุที่ระดับนาโน. ข้อมูลถูกรวบรวมโดย "การรู้สึก"ที่พื้นผิวด้วยหัววัดกล. องค์ประกอบ piezoelectric ที่อำนวยความสะดวกการเคลื่อนไหวขนาดเล็กๆแต่มีความถูกต้องและแม่นยำใน คำสั่ง(อิเล็กทรอนิกส์) ช่วยให้การสแกนมีความแม่นยำมาก. กล้องจุลทรรศน์แรงอะตอมได้รับการร่วมคิดค้นในปี 1986 โดย Christoph Gerber, Gerd Binning และ Calvin Quate.^[261] เมื่อวันที่ 20 เมษายน 1987 Gerber , Binning และ Quate ยื่นขอสิทธิบัตร สหรัฐอเมริกา # 4762996 สำหรับอุปกรณ์ ที่ได้อนุมัติให้พวกเขาภายหลังในวันที่ 9 สิงหาคม 1988.^[262]

1986 การพิมพ์ 3 มิติ

การพิมพ์ 3 มิติ (อังกฤษ: stereolithography) คือเทคโนโลยีที่พบบ่อยในการผลิตและการทำต้นแบบอย่างรวดเร็วของชิ้นส่วนที่มีความแม่นยำสูงและมีพื้นผิวที่ดี โดยใช้ถังของ"resin" photopolymer ของเหลวที่รักษายูวีได้ และ เลเซอร์ยูวีในการสร้างชิ้นส่วนทีละชั้น. stereolithography ถูกคิดค้นโดย Chuck Hull ในปี 1986.^[263]

1987 อุปกรณ์ Micromirror ดิจิตอล

อุปกรณ์ Digital Micromirror Device (DMD) เป็นชิปซิลิกอนที่มีกระจกอะลูมิเนียมขนาดจิ๋วแขวนอยู่ถึง 2 ล้านชิ้น, ทั้งหมดอยู่ภายใต้การควบคุมแบบดิจิตอลที่เอียงหลายพันครั้งต่อวินาที เพื่อที่จะสร้างภาพโดยการยิงพัลส์ดิจิตอลผ่านเลนส์ฉายไปที่จอโทรทัศน์หรือจอภาพยนตร์. อุปกรณ์ Digital Micromirror Device ถูกคิดค้นโดย ดร. Larry Hornbeck ขณะที่ทำงานที่ Texas Instruments และยังถือสิทธิบัตรหลายรายการที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี DMD อีกด้วย. ^[264]

1987 Perl

Perl เป็นภาษาเขียนโปรแกรมแบบไดนามิกตีความได้วัตถุประสงค์ทั่วไประดับสูง. มันถูกคิดค้นดั้งเดิมโดย แลร์รี่ วอลล์, นักภาษาศาสตร์ที่ทำงานเป็นผู้ดูแลระบบของนาซ่า, ในปี 1987, ในฐานะที่เป็นภาษาสคริปต์ Unix วัตถุประสงค์ทั่วไปเพื่อให้การประมวลผลรายงานได้ง่ายขึ้น. นอกจากนี้ Perl ยังใช้สำหรับการประมวลผลข้อความ, การบริหารระบบ, การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์บนเว็บ, ชีวสารสนเทศ, การเขียนโปรแกรมเครือข่าย, การใช้งานที่จำเป็นต้องมีการเข้าถึงฐานข้อมูล, การเขียนโปรแกรมกราฟิกอื่นๆ.^[265]

1988 กระเป๋า (เอียงและกลิ้ง)

ผู้โดยสารสายการบินกลิ้งกระเป๋าเดินทางของพวกเขาในสนามบิน

กระเป๋าเอียงและกลิ้งหรือกระเป๋าเดินทางติดล้อ เป็นกระเป๋าเดินทางสำหรับนักเดินทาง ซึ่งโดยปกติจะมีสองล้อคงที่ที่ปลายด้านหนึ่งและมือจับเหลื่อมที่ปลายตรงข้ามสำหรับการเคลื่อนไหวในแนวตั้ง. กระเป๋าเอียงและกลิ้งถูกลากจึงช่วยลดการหิ้วกระเป๋าถือแบบเดิม. ในปี 1988, นักบินสายการบินนอร์ธเวสต์ โรเบิร์ต แพลธ คิดค้นกระเป๋าเอียงและกลิ้งเป็นกระเป๋าเดินทางกลิ้งไปล่วงหน้า, กระเป๋าสะพายข้ามไหล่ หรือกระเป๋าเดินทางที่มีสายรัดบนรถเข็นโลหะ.^[266]^[267]

1988 การสร้างแบบจำลองโดยการตัดทิ้งส่วนหลอมเหลว

การสร้างแบบจำลองโดยการตัดทิ้งส่วนหลอมเหลว: 1 – หัวฉีดใช้เป่าพลาสติคที่หลอมเหลวทิ้ง, 2 – วัสดุที่จะถูกตัดทิ้ง (ส่วนที่จะถูกขึ้นรูป), 3 – แท่นเคลื่อนที่ถูกควบคุม

การสร้างแบบจำลองโดยการตัดทิ้งส่วนหลอมเหลว (อังกฤษ: Fused deposition modeling) ซึ่งมักจะถูกเรียกชื่อย่อว่า FDM เป็นประเภทของการผลิตแบบพิมพ์ 3 มิติ หรือเทคโนโลยีที่ใช้กันทั่วไปในการออกแบบทางวิศวกรรม. FDM ทำงานบนหลักการ"เสริม" โดย การวางวัสดุซ้อนกันเป็นชั้นๆ, ถูกคิดค้นโดย เอส ก็อตต์ ครัมพ์ ในปี 1988.^[268]

1988 Tcl

Tcl ย่อมาจาก "Tool Command Language" เป็นภาษาสคริปต์ที่ใช้กันมากที่สุดสำหรับการสร้างต้นแบบอย่างรวดเร็ว, การใช้งานสคริปต์, GUIs, และการทดสอบ. Tcl ถูกนำมาใช้อย่างกว้างขวางในแพลตฟอร์มระบบการฝังตัว, ทั้งในรูปแบบเต็มรูปแบบและในอีกหลายรุ่น footprinted ขนาดเล็กอื่นๆ. Tcl ยังใช้สำหรับการเขียนสคริปต์ CGI อีกด้วย. Tcl ถูกประดิษฐ์ขึ้นในฤดูใบไม้ผลิของปี 1988 โดยจอห์น Ousterhout ในขณะที่ทำงานที่มหาวิทยาลัยแห่งแคลิฟอร์เนีย, เบิร์กเลย์.^[269]

1988 การศึกษาด้วยกล้องจุลทรรศน์ของการปล่อยอิเล็กตรอนในขีปนาวุธ

การศึกษาด้วยกล้องจุลทรรศน์ของการปล่อยอิเล็กตรอนในขีปนาวุธ หรือ (อังกฤษ: Ballistic electron emission microscopy (BEEM)) เป็นเทคนิคสำหรับการศึกษาการขนส่งอิเล็กตรอนในขีปนาวุธผ่านความหลากหลายของวัสดุและการเชื่อมต่อวัสดุ. BEEM เป็นเทคนิคการใช้กล้องจุลทรรศน์แบบสแกนอุโมงค์สามขั้ว (อังกฤษ: scanning tunneling microscopy (STM)) ที่ได้รับการร่วมคิดค้นในปี 1988 ที่ห้องทดลองเครื่องยนต์ไอพ่นในพาซาดีนา แคลิฟอร์เนีย โดย แอล ดักลาส เบลล์และ วิลเลียม ไกเซอร์.^[270]

1988 กับดักไอออนลำแสงอิเล็กตรอน

กับดักไอออนลำแสงอิเล็กตรอน (อังกฤษ: Electron beam ion trap) ถูกนำมาใช้ในด้านฟิสิกส์เพื่อแสดงขวดแม่เหล็กไฟฟ้าที่ผลิตและเก็บไอออนประจุสูง, ได้รับการร่วมคิดค้นโดย เอ็ม Levine และ อาร์ Marrs ในปี 1988.^[271]

1988 แผ่นแปะนิโคติน

แผ่นแปะนิโคติน ใช้ปล่อยนิโคตินเข้าสู่ร่างกายผ่านทางผิวหนัง. มันมักจะถูกนำมาใช้เป็นวิธีการที่จะเลิกสูบบุหรี่. ถูกคิดค้นในปี 1988 โดย เมอร์เรย์ Jarvik, เจด โรส และแดเนียล โรส.^[272]

1988 ไฟร์วอลล์

ไฟร์วอลล์คือการเก็บรวบรวมของมาตรการรักษาความปลอดภัยที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันการเข้าถึงแบบอิเล็กทรอนิกส์โดยไม่ได้รับอนุญาตไปที่ระบบคอมพิวเตอร์เครือข่าย. ที่ AT&T Bell Labs, วิลเลียม Cheswick และ สตีเว่น เอ็ม Bellovin ได้ต่อเนื่องการวิจัยของพวกเขาในการกรองแพ็คเก็ต และร่วมคิดค้นรูปแบบการทำงานให้กับบริษัทของพวกเขาที่ขึ้นอยู่กับ สถาปัตยกรรมรุ่นแรกดั้งเดิมของพวกเขาที่เป็นต้นฉบับของไฟร์วอลล์.^[273]

1988 รหัสประจำตัวเรซิน

ระบบการเข้ารหัสเรซินของสมาคมอุตสาหกรรมพลาสติก (SPI) เป็นชุดของสัญลักษณ์ที่ติดบนพลาสติก เพื่อระบุชนิดของพอลิเมอ. รหัสประจำตัวเรซินได้รับการพัฒนาโดยสมาคมอุตสาหกรรมพลาสติก (SPI) ในปี 1988.^[274]

1989 รูปแบบไฟล์ ZIP

รูปแบบไฟล์ ZIP เป็นการบีบอัดข้อมูลและการจัดเก็บไฟล์. ไฟล์ ZIP ประกอบด้วยหนึ่งหรือมากกว่าหนึ่งไฟล์ที่ถูกบีบอัดเพื่อลดขนาดไฟล์, หรือจัดเก็บไว้ตามที่เป็น. รูปแบบไฟล์ซิปถูกคิดค้นเดิมในปี 1989 โดย ฟิล แคทซ์ เรียกว่า PKZIP, และวิวัฒนาการมาจากรูปแบบการบีบอัดแบบ ARC ก่อนหน้านี้โดย ทอม เฮนเดอสัน.^[275]

1989 กรรมวิธีการขึ้นรูปโลหะทางวิศวกรรมด้วยเลเซอร์แบบเลือก

กรรมวิธีการขึ้นรูปโลหะทางวิศวกรรมด้วยเลเซอร์แบบเลือก (อังกฤษ: Selective laser sintering) เป็นเทคนิคการผลิตอย่างรวดเร็วที่ใช้เลเซอร์พลังงานสูงไปหลอมละลายอนุภาคขนาดเล็กของผงพลาสติก, โลหะ, เซรามิก, หรือแก้ว ให้เป็นวัตถุที่เป็นตัวแทนของมวลวัตถุ 3 มิติที่ต้องการ. แสงเลเซอร์เลือกที่จะหลอมละลายวัสดุที่ป่นเป็นผงโดยการสแกนหน้าตัดที่เกิดจากคำอธิบายดิจิตอล 3-D ของส่วนบนพื้นผิวของเตียงผง. กรรมวิธีการขึ้นรูปโลหะทางวิศวกรรมด้วยเลเซอร์แบบเลือก ถูกคิดค้นและจดสิทธิบัตรโดย ดร. คาร์ล Deckard ที่มหาวิทยาลัยเท็กซัส ที่ออสติน ในปี 1989.^[276]

1989 ล็อก แม่เหล็กไฟฟ้า

ล็อกแม่เหล็กไฟฟ้า เป็นอุปกรณ์ล็อกธรรมดาที่ประกอบด้วยแม่เหล็กไฟฟ้าและแผ่นอะเมเจอร์. โดยติดแม่เหล็กไฟฟ้าเข้ากับกรอบประตูและติดแผ่นอะเมเจอร์เข้ากับประตู, กระแสไฟฟ้าที่ผ่าน แม่เหล็กไฟฟ้าจะดึงดูดแผ่นอะเมเจอร์และยึดประตูให้ปิด. ได้รับการจดสิทธิบัตรเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 1989, ล็อกแม่เหล็กถุกร่วมคิดค้นโดย อาร์เธอร์ Geringer , ริชาร์ด Geringer , และเดวิด Geringer.^[277]

1990 โคมไฟกำมะถัน

โคมไฟกำมะถันเป็นระบบแสงสว่างไร้ขั้วแบบเต็มสเปกตรัมประสิทธิภาพสูงที่แสงของมันถูกสร้างขึ้นโดยกำมะถันพลาสม่าที่ได้รับการกระตุ้นโดยการแผ่รังสีไมโครเวฟ. โคมไฟกำมะถันประกอบด้วยหลอดแก้วผลึกหลอมละลายขนาดเท่าลูกกอล์ฟ(30 มม.) ที่บรรจุผงกำมะถันหลายมิลลิกรัมและแก๊สอาร์กอนที่ส่วนท้ายของแกนหมุนกระจกบาง. หลอดไฟจะถูกบบรจุอยู่ในกรงลวดตาข่ายไมโครเวฟ. เทคโนโลยีถูกคิดต้นโดยวิศวกร ไมเคิล อูริ, นักฟิสิกส์ ชาร์ลส์ Wood และเพื่อนร่วมงานอีกหลายคนของพวกเขาในปี 1990. ด้วยการสนับสนุนจากกระทรวงพลังงานของสหรัฐ, มันถูกพัฒนาต่อในปี 1994 โดย Fusion Lighting ใน Rockville, Maryland, ซึ่งเป็นแผนกที่หลุดออกมาจากแผนก Fusion UV ของ Fusion Systems Corporation.^[278]

1991 หุ่นยนต์มด

หุ่นยนต์มด เป็นกรณีพิเศษของหุ่นยนต์ฝูงแมลง. หุ่นยนต์ฝูงแมลงเป็นหุ่นยนต์ธรรมดาและ ราคาถูกที่มีความสามารถในการรับรู้และในการคำนวณที่จำกัด. สิ่งนี้ทำให้มันเป็นไปได้ในการปรับใช้ทีมของหุ่นยนต์ฝูงแมลงและใช้ประโยชน์จากความผิดพลาดและความเท่าเทียมที่เกิดขึ้น. ในปี 1991, วิศวกรไฟฟ้าอเมริกัน เจมส์ McLurkin เป็นคนแรกที่คิด"หุ่นยนต์มด"ในขณะที่เขาทำงานที่ ห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์และปัญญาประดิษฐ์ ของเอ็มไอที, ที่ Massachusetts Institute of Technology. หุ่นยนต์ประกอบด้วยเซ็นเซอร์, ตัวปล่อยแสงอินฟราเรดและระบบการสื่อสารที่มีความสามารถในการตรวจจับวัตถุในเส้นทางเดินของพวกมัน. การประดิษฐ์ของ McLurkin ได้จากการผ่านการศึกษาพฤติกรรมของมดจริงในอาณานิคมของมดและการเก็บรักษาฟาร์มมดให้เป็นพื้นฐานในการเขียนโปรแกรมของเขา. จากการทดสอบนี้, เขาสามารถเข้าใจดีขึ้นว่า แมลงจัดโครงสร้างปริมาณงานของพวกเขาได้อย่างไรในการที่จะ ผลิตต้นแบบที่เป็นไปได้และทำงานได้จริงของหุ่นยนต์มด.^[279]

อ้างอิง

↑ "History of Patent Law". IP Legal Services.
↑ James W. Cortada, "Rise of the knowledge worker, Volume 8 of Resources for the knowledge-based economy", Knowledge Reader Series, Butterworth-Heinemann, 1998, p. 141, ISBN 0-7506-7058-4, ISBN 978-0-7506-7058-6.
↑ "Manufactures of the United States in 1860; compiled from the original returns of the eighth census, under the direction of the Secretary of the interior", Publisher: Government Printing Office, Washington, 1865, p. cxcix: "Salt-making was commenced at Salein in 1636, and in 1641 Samuel Winslow was allowed, for 10 years, the exclusive right of making salt in Massachusetts by a new method."
↑ ^4.0 ^4.1 "Chapter 4: An Overview of Patents". Digital Law Online.
↑ "First U.S. Patent Issued Today in 1790". United States Patent and Trademark Office. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-01-27. สืบค้นเมื่อ 2014-04-30.
↑ "2701 Patent Term [R-2]". United States Patent and Trademark Office.
↑ "Table of Issue Years and Patent Numbers, for Selected Document Types Issued Since 1836". United States Patent and Trademark Office.
↑ ^8.0 ^8.1 "The History of the Transistor – John Bardeen, Walter Brattain, and William Shockley". The New York Times Company.
↑ "Kenbak Computer Company: Kenbak-1". Old Computers.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-11-20. สืบค้นเมื่อ 2014-04-30.
↑ ^10.0 ^10.1 "Fascinating facts about the invention of the Internet by Vinton Cerf in 1973". The Great Idea Finder. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-08-11. สืบค้นเมื่อ 2014-04-30.
↑ ^11.0 ^11.1 "Dr. Martin Cooper Engineer, and Inventor of the Mobile Phone". Engology.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-01-22. สืบค้นเมื่อ 2014-04-30.
↑ ^12.0 ^12.1 "Hubble Essentials: About Lyman Spitzer, Jr". Hubble Site.
↑ "Hubble Essentials: Quick Facts". Hubble Site.
↑ "The Hubble Space Telescope". Vic Stathopoulos.
↑ "CONTROL HEAD AND BLOWOUT PREVENTER". Google Patents.
↑ "Earl S. Tupper (1907–1983)". Syracuse University Library. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-09-19. สืบค้นเมื่อ 2014-04-30.
↑ "People & Events: Earl Silas Tupper (1907–1983)". PBS. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-07-23. สืบค้นเมื่อ 2014-04-30.
↑ "50 YEARS OF TUPPERWARE". Tupperware. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-03-09. สืบค้นเมื่อ 2014-04-30.
↑ "A Little Fishing History". Dennis "Sunshine" Skurulsky.
↑ "The History of the Chainsaw". Chainsaw Sculptors. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-07-21. สืบค้นเมื่อ 2014-04-30.
↑ "1999 Hall of Fame Inductees". New Jersey Inventors Hall of Fame. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-05-19. สืบค้นเมื่อ 2014-04-30.
↑ Firsts: Origins of Everyday Things That Changed the World. Penguin.
↑ Indian Financial System. Tata McGraw-Hill Education.
↑ Debtor's Dictionary: The American Encyclopedia of Consumer Credit. Wheatmark, Inc.
↑ "Marion Donovan, 81, Solver Of the Damp-Diaper Problem". New York City Times. November 18, 1998.
↑ "November 17 – December 23, 1947: Invention of the First Transistor". American Physical Society.
↑ "The transistor: The 20th century's most important invention". IDG Communications.
↑ "The Nobel Prize in Physics 1956".
↑ "History of Defibrillation". ADI Media Private Limited.^{[ลิงก์เสีย]}
↑ "Testing The First Supersonic Aircraft". NASA. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-04-12. สืบค้นเมื่อ 2014-04-30.
↑ "A History of GOLDEN Artist Colors, Inc". Golden Artist Colors, Inc.
↑ "The Magnetic Particle Clutch : Jacob Rabinow". National Institute of Standards and Technology. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-06-08. สืบค้นเมื่อ 2014-04-30.
↑ "A Chronological Order Of The Development Of The Free Sail System Sailboard". The Hart's Homepage.
↑ "Windsurfing was invented 60 years ago by Newman Darby". SurferToday.com.
↑ "The Invention of Cat Litter". Paws Online. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-11-26. สืบค้นเมื่อ 2014-04-30.
↑ Fire Department, City of New York. Turner Publishing Company.
↑ "Blowing Hot Air? Five Myths About Hand Dryers Debunked" (PDF). Excel Dryer Inc.
↑ "The Genius of Rogallo's Wing". M Robinson.
↑ Gray, Sadie (September 29, 2009). "Francis Rogallo: invented the Rogallo wing". London: The Sunday Times.
↑ "Cable TV: From Community Antennas to Wired Cities". Harvard Business School.
↑ "About Frisbee". Frisbee Disc.
↑ "The First Video Game?". Brookhaven National Laboratory. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-03-24. สืบค้นเมื่อ 2014-04-30.
↑ "Carbon Dating". Massachusetts Institute of Technology.
↑ "Fad nauseam". Winnipeg Free Press.
↑ "The Zamboni Story: Ice Resurfacing". Frank J. Zamboni & Co. Inc. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-03-04. สืบค้นเมื่อ 2014-04-30.
↑ "The "Atomic Age" of Time Standards". National Institute of Standards and Technology.
↑ "What are Holter, Event and Transtelephonic Monitors?". American Heart Association.
↑ "Roswell". Paul V. Galvin Library. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-05-29. สืบค้นเมื่อ 2014-04-30.
↑ "Evaluation of the Sierra Company Lightweight Helmet" (PDF). Defense Technical Information Center. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2013-01-20. สืบค้นเมื่อ 2014-04-30.
↑ Fox, Margalit (February 18, 2005). "Samuel Alderson, Crash-Test Dummy Inventor, Dies at 90". The New York Times.
↑ "Grace Hopper". Massachusetts Institute of Technology.
↑ "Our Story". Seymour Paint. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-10-09. สืบค้นเมื่อ 2014-04-30.
↑ Selingo, Jeffrey (February 8, 2001). "Machines Let Resorts Please Skiers When Nature Won't". The New York Times. สืบค้นเมื่อ May 25, 2010.
↑ "Leaf Blowers". Portland Leaf Blowers. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-08-12. สืบค้นเมื่อ 2014-05-01.
↑ "Richard Wesley Hamming". University of St. Andrews.
↑ "Teleprompter inventor Hubert Schlafly dies at 91". British Broadcasting Corporation. April 27, 2011.
↑ "Sengstaken-Blakemore Tube". Medscape.
↑ "Lyman Spitzer: Space telescope pioneer". European Space Agency. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-03-06. สืบค้นเมื่อ 2014-05-01.
↑ "Portable Ice Chest for Storing Foods". Google Patents.
↑ "Wetsuit's Inventor Dies". Tech Media Network.
↑ "Bette Nesmith Graham". Famous Women Inventors.
↑ Brain imaging: the chemistry of mental activity. Surendra Kumar.
↑ "RADIOACTIVITY-DISTRIBUTION DETECTOR". United States Patent and Trademark Office.
↑ "Airbags". Bryant University. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-07-05. สืบค้นเมื่อ 2014-05-01.
↑ "The History of Airbags". The New York Times Company.
↑ 2 Loaves: One Man's Relentless Pursuit of Truth, Meaning, and a Perfect Crust. Algonquin Books.
↑ "A Short History Of Bar Code". Adams Communications. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-05-02. สืบค้นเมื่อ 2014-05-01.
↑ "1952: The First Mechanical Heart Pump". General Motors Corporation.
↑ "Artificial Heart". Massachusetts Institute of Technology.
↑ "Robert Jarvik on the Jarvik-7". Jarvik Heart, Inc. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-04. สืบค้นเมื่อ 2014-05-01.
↑ "Heart-Lung Machine". Invent Now. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-12-06. สืบค้นเมื่อ 2014-05-01.
↑ "ANDREW F. KAY '40: Building Quality in Computers and Work Flow". Massachusetts Institute of Technology. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-11-02. สืบค้นเมื่อ 2014-05-01.
↑ Palm, Kristin (1995). "Marker". CBS Interactive Inc.
↑ ManVentions: From Cruise Control to Cordless Drills – Inventions Men Can't Live Without. Adams Media. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-04-25. สืบค้นเมื่อ 2014-05-01.
↑ "Dr. Virginia Apgar". National Library of Medicine.
↑ "Gilhoolie Jar Opener". Mechanix Illustrated.
↑ "Happy Birthday Denver Boot!r". The Expired Meter.
↑ "50 Years Of Wiffle Ball". Hearst Communications, Inc. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-06-11. สืบค้นเมื่อ 2014-05-01.
↑ "Invention of the Maser and Laser". The American Physical Society.
↑ "Appleton, Wis., Inventor, Recalled As Gentle Genius, Dies at 77". All Business.
↑ Eichmeier, Joseph A.; Thumm, Manfred (2008-03-27). Vacuum Electronics: Components and Devices. Springer Books. ISBN 978-3-540-71928-1.
↑ "Zip Loc Bags Information". Zip-Lock-Bags.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-07-18. สืบค้นเมื่อ 2014-05-02.
↑ "The History of TV Dinners". The New York Times Company.
↑ "Acoustic Research AR-2a Loudspeakers". Black Sparrow Photography.
↑ The NSTA ready-reference guide to safer science. NSTA Press.
↑ "A sliding solution to glass-shattering South Texas winds turned into Horton Automatics". Horton Doors. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-07-12. สืบค้นเมื่อ 2014-05-02.
↑ "Mogen Circumsion". The Mogen Instrument Company.
↑ "History Of CPR". United States Mine Rescue Association. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-12-01. สืบค้นเมื่อ 2014-05-02.
↑ Gray, Sadie (August 6, 2008). "H. Tracy Hall: physical chemist and inventor". London: UTimes Newspapers Ltd. สืบค้นเมื่อ March 26, 2010.
↑ "Decatur Electronics, Inc. Company History". Decatur Electronics, Inc. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-07-23. สืบค้นเมื่อ 2014-05-02.
↑ "Floor Crane With Adjustable Legs". Google Patent Search.
↑ "Crosby-Kugler capsule". Ole Daniel Enersen.
↑ "USS NAUTILUS (SSN-571)". Sub Guru.
↑ "Reynold Johnson". Massachusetts Institute of Technology.
↑ "Milestones". Harmonic Drive AG. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-09-11. สืบค้นเมื่อ 2014-05-02.
↑ "Strain Wave Gearing". United States Patent and Trademark Office.
↑ Foner, S. "Versatile and Sensitive Vibrating-Sample Magnetometer". Rev. Sci. Instrum. 30 (7): 548–557.
↑ "Lincoln Lab's Foner, 82, and Sandholm, 76". Massachusetts Institute of Technology.
↑ "Magnetic Test Apparatus". United States Patent and Trademark Office.
↑ "Evercare Celebrates 50th Birthday and Golden Anniversary of Its Invention of The Lint Rolle". The Evercare Company. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-10-25. สืบค้นเมื่อ 2014-05-02.
↑ "Karting's Golden Summer". Crain Communications, Inc.
↑ "George C Devol". Encyclopaedia Britannica.
↑ "History of operating systems". OS Data.
↑ "Fortran". Massachusetts Institute of Technology.
↑ "Ampex VR1000A video recorder". The Science Museum.
↑ "CRI SES:" (PDF). National Space Society. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2008-10-24. สืบค้นเมื่อ 2014-05-03.
↑ "Bobcat Mourns Passing of Skid-Steer Inventor". Bobcat. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-09-14. สืบค้นเมื่อ 2014-05-03.
↑ "Laser". Massachusetts Institute of Technology.
↑ Martin, Douglas (May 11, 2007). "Theodore Maiman, 79, Dies; Demonstrated First Laser". The New York Times. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-09-26. สืบค้นเมื่อ 2014-05-03.
↑ "Memoir on Inventing the Confocal Scanning Microscope". Massachusetts Institute of Technology.
↑ "Benjamin Eisenstadt, 89, a Sweetener of Lives". The New York Times. April 10, 1996.
↑ "Stevens remembers inventor on 'Bubble Wrap Appreciation Day'". Stevens Institute of Technology. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-08-30. สืบค้นเมื่อ 2014-05-03.
↑ Saxon, Wolfgang (April 20, 1997). "Robert H. Wentorf Jr., a Chemist, Dies at 70". New York Times. สืบค้นเมื่อ May 25, 2010.
↑ Reports, Wire (November 15, 2005). "Hal Anger, 85; Inventor of Gamma Camera Used in Nuclear Medicine". LA Times. สืบค้นเมื่อ May 25, 2010.
↑ "Cryotron, a super conductive computer switch revealed". National Center for Science & Technology Communication. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-04-10. สืบค้นเมื่อ 2014-05-03.
↑ Reclaiming our health: exploding the medical myth and embracing the source of true healing. HJ Kramer.
↑ Fetal heart rate monitoring. Lippincott Williams & Wilkins.
↑ "Ty-Rap Celebrates 50 Years!". THOMAS & BETTS CORPORATION. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-08-10. สืบค้นเมื่อ 2014-05-03.
↑ "CABLE BUNDLING AND SUPPORTING STRAP". United States Patent and Trademark Office.
↑ "50th birthday of Lisp (October 1958)". Artificial Intelligence Research Institute. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-01-20. สืบค้นเมื่อ 2014-05-03.
↑ "High Performance Carbon Fibers". National Historic Chemical Landmarks. American Chemical Society. สืบค้นเมื่อ 2014-02-21.
↑ "Jack Kilby: The Chip that Jack Built". Texas Instruments.
↑ "The Farnsworth/Hirsch Fusor". Jochen Kronjaeger.
↑ "A Complete Picture: Weather Satellites and Contemporary Meteorology" (PDF). National Weather Association. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2009-03-25. สืบค้นเมื่อ 2014-05-03.
↑ "The spandex saga". Yale Herald. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2005-03-12. สืบค้นเมื่อ 2014-05-03.
↑ "About Guys and Dolls Furniture". Guys and Dolls Furniture.
↑ "Unfant's Seat". United States Patent and Trademark Office.
↑ "Artificial Turf". Purchase Green. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-12-06. สืบค้นเมื่อ 2014-05-03.
↑ ^129.0 ^129.1 "CSCI 321- Software Project School of Information Technology & Computer Science" (PDF). University of Wollongong. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2011-07-18. สืบค้นเมื่อ 2014-05-03.
↑ "Gregory Pincus, Father of the Pill". Population Reference Bureau. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-05-16. สืบค้นเมื่อ 2014-05-03.
↑ "Chronological Methods 10 – Obsidian Hydration Dating". University of California, Santa Barbara. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-08-10. สืบค้นเมื่อ 2014-05-03.
↑ Gray, Sadie (August 6, 2008). "Professor William Bennett: co-inventor of the gas laser". London: The Times. สืบค้นเมื่อ March 26, 2010.
↑ {Proc. IEEE, vol.50, 1697, pg. 1697, July 1962}
↑ "A Brief History of Spreadsheets". Decision Support Systems Resources.
↑ "Dan Bricklin, Co-Inventor of the Spreadsheet, Discusses How Nerds Are Like Sports Stars". The New York Observer. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-04-18. สืบค้นเมื่อ 2014-05-03.
↑ "Edward O. Thorpe". Edward Thorpe.
↑ "Events In Food History". The Nibble.
↑ Nagourney, Eric (April 2, 2002). "Neal E. Miller Is Dead at 92; Studied Brain and Behavior". The New York Times.
↑ "Communications Satellite". National Inventors Hall of Fame Foundation, Inc. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-12-05. สืบค้นเมื่อ 2014-05-04.
↑ "AUTOMATIC DUMP TYPE CHARCOAL LIGHTER". United States Patent and Trademark Office.
↑ "Nick Holonyak". Massachusetts Institute of Technology.
↑ "Nick Holonyak honored for inventing the LED". LEDs Magazine.
↑ "Nick Holonyak Jr.: 81 Years Old And Still Doing Groundbreaking Research". Electronic Design.
↑ "Electret Microphone Inventor". Famous Black Inventors. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-07-21. สืบค้นเมื่อ 2014-05-04.
↑ "Campaign to Eradicate". U.S. National Library of Medicine.
↑ "Semiconductor injection laser". Massachusetts Institute of Technology.
↑ "Diabetes: Glucose Sensors and Drug Delivery" (PDF). McMaster University. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2006-02-19. สืบค้นเมื่อ 2014-05-04.
↑ Famous Firsts: The Trendsetters, Groundbreakers and Risk-Takers Who Got America Moving!. Natalie Rompella.
↑ Famous Firsts: The Trendsetters, Groundbreakers and Risk-Takers Who Got America Moving!. Natalie Rompella.
↑ "SKATEBOARD WITH INCLINED FOOT-DEPRESSIBLE". United States Patent and Trademark Office.
↑ "1963: Douglas Engelbart Invents the Mouse". University of California at Berkeley. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-07-27. สืบค้นเมื่อ 2014-05-04.
↑ "John G. Kemeny: BASIC and DTSS: Everyone a Programmer". Columbia Univ.
↑ "The History of the Catheter". The New York Times Company.
↑ "Geosynchronous Satellite". Massachusetts Institute of Technology.
↑ Suddath, Claire (September 3, 2009). "Buffalo WIngs". Time Magazine. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-02-14. สืบค้นเมื่อ April 30, 2011.
↑ "Dr. Donald Bitzer Co-Inventor, Plasma Display". Consumer Electronics Association. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-08-15. สืบค้นเมื่อ 2014-05-06.
↑ "H. Gene Slottow Co-inventor, Plasma Display". Consumer Electronics Association.
↑ "THE MOOG SYNTHESIZER". Rewind the Fifties.
↑ "Audio, automotive and aircraft apparatus". Massachusetts Institute of Technology. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2003-03-02. สืบค้นเมื่อ 2014-05-06.
↑ "Ruth Benerito". Massachusetts Institute of Technology.
↑ "The 60s – the technology, science, and inventions". The New York Times Company.
↑ "Continuous-Wave Laser Action on Vibrational-Rotational Transitions of CO2". Physics Review Online Archive.
↑ "Liquid Crystal Display Dynamic Scattering Method". Massachusetts Institute of Technology.
↑ "Superconducting Quantum Interference Devices(SQUIDS)" (PDF). Ben-Gurion University of Negev.
↑ "6.1.4 Argon Ion (Ar+) Gas Laser". Kansas State University.
↑ ^166.0 ^166.1 "Electronics Timeline". National Academy of Engineering.
↑ "THE HISTORY OF SNOWBOARDING". Bulgarian Ski.
↑ "Inventor of Kevlar". Famous Women Inventors.
↑ "Visionary lays into the web". BBC News. October 8, 2001. สืบค้นเมื่อ March 26, 2010.
↑ "'Giving women tech know-how'". BBC News. November 3, 2006. สืบค้นเมื่อ March 26, 2010.
↑ "History of the Fisher Space Pen". Allwrite B.V.
↑ "DEC PDP-8 minicomputer". UvA Computer Museum.
↑ "The Little-known Story Of Optical Digital Storage". Northwest Science and Technology.
↑ Bet you didn't know Jim Russell '53 pioneered compact disc technology. Reed College.
↑ Inventors and Inventions. Marshall Cavendish. September 2007.
↑ Milestones in computer science and information technology. Greenwood Publishing Group.
↑ "Inventor of the Week Archive: The Digital Compact Disc". Massachusetts Institute of Technology. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2003-04-17. สืบค้นเมื่อ 2014-05-07.
↑ "Previous Recipients of the George R. Stibitz and Edward O. Wilson Awards (1997–2009)". American Computer Museum. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-01-20. สืบค้นเมื่อ 2014-05-07.
↑ Bet you didn't know Jim Russell '53 pioneered compact disc technology. Reed College.
↑ Inventors and Inventions. Marshall Cavendish. September 2007.
↑ "6.1.9 Chemical Laser". Kansas State University.
↑ "DRAM". Massachusetts Institute of Technology. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2003-04-15. สืบค้นเมื่อ 2014-05-07.
↑ "Innovations". Lowepro. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-06-30. สืบค้นเมื่อ 2014-05-07.
↑ "Calculator History- Invention of the Hand-held Calculator". The Great Idea Finder. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-07-24. สืบค้นเมื่อ 2014-05-07.
↑ "The History of Racquetball". USA Racquetball. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-07-28. สืบค้นเมื่อ 2014-05-07.
↑ "A Brief History of Virtual Reality". University of Calgary.
↑ "Virtual Reality: A Short Introduction". www-VRL.
↑ "The Georgia Jumper" (PDF). The University of Georgia. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2010-06-10. สืบค้นเมื่อ 2014-05-07.
↑ "Zipper". Amusement Ride Extravaganza.
↑ Saslow, Linda (July 18, 1999). "..The Man Whose Stuff Is Still on the Moon". The NEw York Times.
↑ "Father of the Lunar Module Thomas Kelly Dies". Space.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2002-06-06. สืบค้นเมื่อ 2014-05-07.
↑ "Gary Starkweather – Laser Printer Inventor". United Business Media LLC. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-05-11. สืบค้นเมื่อ 2014-05-07.
↑ "Medicine and Materials" (PDF). UK Dept. for Business, Enterprise & Regulatory Reform. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2009-03-26. สืบค้นเมื่อ 2014-05-07.
↑ "Father knows best". Boeing Commercial Airplanes. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-09-06. สืบค้นเมื่อ 2014-05-07.
↑ "History of TASER Devices". TASER International, Inc. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-03-26. สืบค้นเมื่อ 2014-05-07.
↑ "Willard Boyle and George Smith". Rochester Institute of Technology.
↑ "Jack Kelley". Herman Miller. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-01-21. สืบค้นเมื่อ 2014-05-07.
↑ "Stick Method". Stick Enterprises, Inc.
↑ Encyclopedia of New Media: An Essential Reference to Communication and Technology. The Moshovitis Group. 2003. ISBN 978-0-7619-2382-4.
↑ "IEEE History Center: Norman Abramson". IEEE.
↑ The Encyclopedia of Surfing. Houghton Mifflin Harcourt.
↑ Timeless toys: classic toys and the playmakers who created them. Andrews McMeel Publishing.
↑ ^203.0 ^203.1 "Timeline of Computer History". Computer History Museum.
↑ Transforming Global Information and Communication Markets: The Political Economy of Innovation. MIT Press. p. 270.
↑ "The Fuzzball". David L. Mills.
↑ "Supercritical Airfoil". Century of Flight.
↑ "25th Anniversary for Microprocessor". Toronto Star.
↑ "1971: IBM fashions the floppy". CNN. June 17, 1999. สืบค้นเมื่อ May 25, 2010.
↑ Hevesi, Dennis (July 1, 2011). "George Ballas, Inventor of the Weed Whacker, Dies at 85". The New York Times.
↑ Bebop to the boolean boogie: an unconventional guide to electronics. Newnes.
↑ "A Conversation With The Inventor Of Email". Jupitermedia Corporation.
↑ "C – the Programming Language". BBC h2g2.
↑ "Magnavox Odyssey First home video game console". David Winter.
↑ "GPS" (PDF). ACSM Congress. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2011-11-03. สืบค้นเมื่อ 2014-05-10.
↑ Fundamentals of global positioning system receivers: a software approach. John Wiley and Sons.
↑ "Edward J. Hoffman, UCLA Professor and Co-Inventor of the PET Scanner, Dies at 62". UCLA. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-01-20. สืบค้นเมื่อ 2014-05-10.
↑ "Apparatus And Method For Detectin Cancer In Tissue". United States Patent and Trademark Office.
↑ "First MRI and ultrasound scanning". Benjamin S. Beck. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-11-20. สืบค้นเมื่อ 2014-05-10.
↑ "The "Indomitable" MRI". Smithsonian Institution. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-09-09. สืบค้นเมื่อ 2014-05-10.
↑ "The Nobel Prize in Physiology or Medicine 2003". Nobel Media AB.
↑ "The History, Development and Impact of Computed Imaging in Neurological Diagnosis and Neurosurgery: CT, MRI, and DTI". Internet Scientific Publications, LLC. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-09-12. สืบค้นเมื่อ 2014-05-10.
↑ "PERSONAL WATERCRAFT". Massachusetts Institute of Technology.
↑ "E-paper History: An Interview with Nick Sheridon, Father of E-paper". The Future of Things.
↑ "Stan Cohen and Herb Boyer "invented" recombinant DNA technology". DNA Learning Center.
↑ Gray, Sadie (November 21, 2008). "Carl Keith: Research chemist who co-invented the catalytic converter". London: The Times. สืบค้นเมื่อ March 26, 2010.
↑ "Tech Talk: Where'd it Come From, Anyway?". PC World. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-01-19. สืบค้นเมื่อ 2014-05-10.
↑ "Inventor of cell phone: We knew someday everybody would have one". CNN.
↑ "Human Factors Challenges In Creating a Principal Support Office System The Speech Filing System Approach" (PDF). IBM Thomas J. Watson Research Center. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2013-01-20. สืบค้นเมื่อ 2014-05-11.
↑ "Heimlich Institute". Heimlich Institute. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-03-05. สืบค้นเมื่อ 2014-05-11.
↑ "Fascinating facts about the invention of Post-it Notes by Arthur Fry and Spencer Silver in 1974". The Great Idea Finder. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-10-09. สืบค้นเมื่อ 2014-05-11.
↑ Johnston RN, Atalar A, Heiserman J, Jipson V, Quate CF (July 1979). "Acoustic microscopy: resolution of subcellular detail". Proceedings of the National Academy of Sciences of the United States of America. 76 (7): 3325–9. Bibcode:1979PNAS...76.3325J. doi:10.1073/pnas.76.7.3325. PMC 383818. PMID 291006.{{cite journal}}: CS1 maint: multiple names: authors list (ลิงก์)
↑ "1999 IEEE Jack A. Morton Award". IEEE. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2005-05-08. สืบค้นเมื่อ 2014-05-11.
↑ "June 26, 1974: By Gum! There's a New Way to Buy Gum". CondéNet, Inc. June 26, 2008.
↑ The Visual Dictionary of Photography. AVA Publishing.
↑ "Steven Sasson named to CE Hall of Fame". Let's Go Digital.
↑ "Ethernet". University of Aberdeen.
↑ "Arthur Ehrat Papers". Smithsonian Institution. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-07-20. สืบค้นเมื่อ 2014-05-11.
↑ "GORE-TEX". Massachusetts Institute of Technology.
↑ "Flying Higher and Quieter". Progressive Engineer. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-06-06. สืบค้นเมื่อ 2014-05-11.
↑ "Industrialization of the chemical oxygen-iodine laser". Harvard University.
↑ "Knock-down sofa bed with hinged mattress". Google PAtents Search.
↑ "Packaged food item and method for achieving microwave browning thereof". Google Patents Search.
↑ "Smart Computing Encyclopedia". Sandhills Publishing Company.
↑ "Winglets". NASA.
↑ "Polar Fleece". Stitch n Save. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-05-05. สืบค้นเมื่อ 2014-05-11.
↑ "Control-Alt-Delete". Massachusetts Institute of Technology.
↑ "Total Internal Reflection Fluorescence for Single Molecule Studies" (PDF). University of Illinois at Urbana-Champaign. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2009-03-26. สืบค้นเมื่อ 2014-05-12.
↑ "The Space Shuttle's First Flight: STS-1". NASA.
↑ "Splat attack". BBC.
↑ "A History of the GUI". Condé Nast Digital, Inc.
↑ "Paul Baran Invents Packet Switching". Living Internet.
↑ "UCLA's Leonard Kleinrock to receive National Medal of Science". University of California. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-12-04. สืบค้นเมื่อ 2014-05-12.
↑ "ARPANET". Timeline of Innovations. SRI International. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-07-02. สืบค้นเมื่อ 2013-07-01.
↑ "Computing History, 1981–1985: The Internet" (PDF). Computing Networking Services. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2014-05-05. สืบค้นเมื่อ 2014-05-12.
↑ "A Brief History of the Internet". University System of Georgia.
↑ "Digital Cash" (PDF). University of Birmingham. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2010-08-15. สืบค้นเมื่อ 2014-05-12.
↑ "Lasers Gove New Life to Old LP's". Reed Business Information. 1988-02-18. {{cite journal}}: Cite journal ต้องการ |journal= (help)
↑ "Milestones". InfoComm International.
↑ Pressure Sensitive User Interface WithAffective Measurement (PDF). New York University.
↑ "Kary Mullis – biography". KaryMullis.com. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-01-19. สืบค้นเมื่อ 2014-08-13.
↑ Methods in Modern Biophysics. Springer.
↑ "Coarse approach positioning device". United States Patent and Trademark Office.
↑ "Introduction to StereoLithography Apparatus (SLA)". Rapid Product Development Resource Centre. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-10-04. สืบค้นเมื่อ 2014-08-13.
↑ "Digital micromirror device – DMD". National Inventors Hall of Fame. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-01-08. สืบค้นเมื่อ 2014-08-13.
↑ "Beginner's Introduction to Perl(part 1)". Perl.com.
↑ Horovitz, Bruce (February 19, 2003). "Success stunned pilot inventor". USA Today.
↑ Horovitz, Bruce (February 18, 2003). "Taking the 'lug' out of luggage changed everything". USA Today.
↑ "Highlights of Fused Deposition Modeling". Engineering Fundamentals.
↑ "History of Tcl". John Ousterhout. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-07-06. สืบค้นเมื่อ 2014-08-13.
↑ "Ballistic-electron-emission microscopy: A nanometer-scale probe of interfaces and carrier transport". University of Pennsylvania.
↑ "EBIT – The Electron Beam Ion Trap". Livermore Berkeley National Laboratory.
↑ Weber, Bruce (May 13, 2008). "Murray Jarvik, 84, Whose Research Helped Lead to Nicotine Patch, Dies". New York Times. สืบค้นเมื่อ May 25, 2010.
↑ "One Size Does Not Fit All: Tailoring Protection with Data Proximate Security". Techworld.
↑ "SPI Resin Identification Code – Guide to Correct Use". Society of the Plastics Industry. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-05-16. สืบค้นเมื่อ 2014-08-13.
↑ "Philip K. Katz". Biographies Pioneers of computing A-J. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-06-02. สืบค้นเมื่อ 2014-08-13.
↑ "US Patent 5053090 – Selective laser sintering with assisted powder handling". Patent Storm. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-08-13. สืบค้นเมื่อ 2014-08-13.
↑ "Electromagnetic door lock device". Patent Universe (Beta). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-03-08. สืบค้นเมื่อ 2014-08-13.
↑ "20th Century Inventors: Sulfur Lamp". Smithsonian Institution.
↑ "James McLurkin". Massachusetts Institute of Technology.

[1] "History of Patent Law". IP Legal Services.

[2] James W. Cortada, "Rise of the knowledge worker, Volume 8 of Resources for the knowledge-based economy", Knowledge Reader Series, Butterworth-Heinemann, 1998, p. 141, ISBN 0-7506-7058-4, ISBN 978-0-7506-7058-6.

[3] "Manufactures of the United States in 1860; compiled from the original returns of the eighth census, under the direction of the Secretary of the interior", Publisher: Government Printing Office, Washington, 1865, p. cxcix: "Salt-making was commenced at Salein in 1636, and in 1641 Samuel Winslow was allowed, for 10 years, the exclusive right of making salt in Massachusetts by a new method."

[Chapter_4:_An_Overview_of_Patents-4] 4.0 ^4.1 "Chapter 4: An Overview of Patents". Digital Law Online.

[5] "First U.S. Patent Issued Today in 1790". United States Patent and Trademark Office. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-01-27. สืบค้นเมื่อ 2014-04-30.

[6] "2701 Patent Term [R-2]". United States Patent and Trademark Office.

[7] "Table of Issue Years and Patent Numbers, for Selected Document Types Issued Since 1836". United States Patent and Trademark Office.

[The_New_York_Times_Company-8] 8.0 ^8.1 "The History of the Transistor – John Bardeen, Walter Brattain, and William Shockley". The New York Times Company.

[Kenbak_Computer_Company:_Kenbak-1-9] "Kenbak Computer Company: Kenbak-1". Old Computers.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-11-20. สืบค้นเมื่อ 2014-04-30.

[The_Great_Idea_Finder-10] 10.0 ^10.1 "Fascinating facts about the invention of the Internet by Vinton Cerf in 1973". The Great Idea Finder. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-08-11. สืบค้นเมื่อ 2014-04-30.

[Engology.com-11] 11.0 ^11.1 "Dr. Martin Cooper Engineer, and Inventor of the Mobile Phone". Engology.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-01-22. สืบค้นเมื่อ 2014-04-30.

[hubblesite.org-12] 12.0 ^12.1 "Hubble Essentials: About Lyman Spitzer, Jr". Hubble Site.

[13] "Hubble Essentials: Quick Facts". Hubble Site.

[14] "The Hubble Space Telescope". Vic Stathopoulos.

[15] "CONTROL HEAD AND BLOWOUT PREVENTER". Google Patents.

[16] "Earl S. Tupper (1907–1983)". Syracuse University Library. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-09-19. สืบค้นเมื่อ 2014-04-30.

[17] "People & Events: Earl Silas Tupper (1907–1983)". PBS. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-07-23. สืบค้นเมื่อ 2014-04-30.

[18] "50 YEARS OF TUPPERWARE". Tupperware. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-03-09. สืบค้นเมื่อ 2014-04-30.

[19] "A Little Fishing History". Dennis "Sunshine" Skurulsky.

[20] "The History of the Chainsaw". Chainsaw Sculptors. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-07-21. สืบค้นเมื่อ 2014-04-30.

[21] "1999 Hall of Fame Inductees". New Jersey Inventors Hall of Fame. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-05-19. สืบค้นเมื่อ 2014-04-30.

[22] Firsts: Origins of Everyday Things That Changed the World. Penguin.

[23] Indian Financial System. Tata McGraw-Hill Education.

[24] Debtor's Dictionary: The American Encyclopedia of Consumer Credit. Wheatmark, Inc.

[25] "Marion Donovan, 81, Solver Of the Damp-Diaper Problem". New York City Times. November 18, 1998.

[26] "November 17 – December 23, 1947: Invention of the First Transistor". American Physical Society.

[27] "The transistor: The 20th century's most important invention". IDG Communications.

[28] "The Nobel Prize in Physics 1956".

[29] "History of Defibrillation". ADI Media Private Limited.^{[ลิงก์เสีย]}

[30] "Testing The First Supersonic Aircraft". NASA. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-04-12. สืบค้นเมื่อ 2014-04-30.

[31] "A History of GOLDEN Artist Colors, Inc". Golden Artist Colors, Inc.

[32] "The Magnetic Particle Clutch : Jacob Rabinow". National Institute of Standards and Technology. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-06-08. สืบค้นเมื่อ 2014-04-30.

[33] "A Chronological Order Of The Development Of The Free Sail System Sailboard". The Hart's Homepage.

[34] "Windsurfing was invented 60 years ago by Newman Darby". SurferToday.com.

[35] "The Invention of Cat Litter". Paws Online. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-11-26. สืบค้นเมื่อ 2014-04-30.

[36] Fire Department, City of New York. Turner Publishing Company.

[37] "Blowing Hot Air? Five Myths About Hand Dryers Debunked" (PDF). Excel Dryer Inc.

[38] "The Genius of Rogallo's Wing". M Robinson.

[39] Gray, Sadie (September 29, 2009). "Francis Rogallo: invented the Rogallo wing". London: The Sunday Times.

[40] "Cable TV: From Community Antennas to Wired Cities". Harvard Business School.

[41] "About Frisbee". Frisbee Disc.

[42] "The First Video Game?". Brookhaven National Laboratory. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-03-24. สืบค้นเมื่อ 2014-04-30.

[43] "Carbon Dating". Massachusetts Institute of Technology.

[44] "Fad nauseam". Winnipeg Free Press.

[45] "The Zamboni Story: Ice Resurfacing". Frank J. Zamboni & Co. Inc. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-03-04. สืบค้นเมื่อ 2014-04-30.

[46] "The "Atomic Age" of Time Standards". National Institute of Standards and Technology.

[47] "What are Holter, Event and Transtelephonic Monitors?". American Heart Association.

[48] "Roswell". Paul V. Galvin Library. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-05-29. สืบค้นเมื่อ 2014-04-30.

[49] "Evaluation of the Sierra Company Lightweight Helmet" (PDF). Defense Technical Information Center. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2013-01-20. สืบค้นเมื่อ 2014-04-30.

[50] Fox, Margalit (February 18, 2005). "Samuel Alderson, Crash-Test Dummy Inventor, Dies at 90". The New York Times.

[51] "Grace Hopper". Massachusetts Institute of Technology.

[52] "Our Story". Seymour Paint. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-10-09. สืบค้นเมื่อ 2014-04-30.

[53] Selingo, Jeffrey (February 8, 2001). "Machines Let Resorts Please Skiers When Nature Won't". The New York Times. สืบค้นเมื่อ May 25, 2010.

[54] "Leaf Blowers". Portland Leaf Blowers. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-08-12. สืบค้นเมื่อ 2014-05-01.

[55] "Richard Wesley Hamming". University of St. Andrews.

[56] "Teleprompter inventor Hubert Schlafly dies at 91". British Broadcasting Corporation. April 27, 2011.

[57] "Sengstaken-Blakemore Tube". Medscape.

[58] "Lyman Spitzer: Space telescope pioneer". European Space Agency. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-03-06. สืบค้นเมื่อ 2014-05-01.

[59] "Portable Ice Chest for Storing Foods". Google Patents.

[60] "Wetsuit's Inventor Dies". Tech Media Network.

[61] "Bette Nesmith Graham". Famous Women Inventors.

[62] Brain imaging: the chemistry of mental activity. Surendra Kumar.

[63] "RADIOACTIVITY-DISTRIBUTION DETECTOR". United States Patent and Trademark Office.

[64] "Airbags". Bryant University. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-07-05. สืบค้นเมื่อ 2014-05-01.

[65] "The History of Airbags". The New York Times Company.

[66] 2 Loaves: One Man's Relentless Pursuit of Truth, Meaning, and a Perfect Crust. Algonquin Books.

[67] "A Short History Of Bar Code". Adams Communications. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-05-02. สืบค้นเมื่อ 2014-05-01.

[68] "1952: The First Mechanical Heart Pump". General Motors Corporation.

[69] "Artificial Heart". Massachusetts Institute of Technology.

[70] "Robert Jarvik on the Jarvik-7". Jarvik Heart, Inc. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-04. สืบค้นเมื่อ 2014-05-01.

[71] "Heart-Lung Machine". Invent Now. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-12-06. สืบค้นเมื่อ 2014-05-01.

[72] "ANDREW F. KAY '40: Building Quality in Computers and Work Flow". Massachusetts Institute of Technology. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-11-02. สืบค้นเมื่อ 2014-05-01.

[73] Palm, Kristin (1995). "Marker". CBS Interactive Inc.

[74] ManVentions: From Cruise Control to Cordless Drills – Inventions Men Can't Live Without. Adams Media. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-04-25. สืบค้นเมื่อ 2014-05-01.

[75] "Dr. Virginia Apgar". National Library of Medicine.

[76] "Gilhoolie Jar Opener". Mechanix Illustrated.

[77] "Happy Birthday Denver Boot!r". The Expired Meter.

[78] "50 Years Of Wiffle Ball". Hearst Communications, Inc. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-06-11. สืบค้นเมื่อ 2014-05-01.

[79] "Invention of the Maser and Laser". The American Physical Society.

[80] "Appleton, Wis., Inventor, Recalled As Gentle Genius, Dies at 77". All Business.

[81] Eichmeier, Joseph A.; Thumm, Manfred (2008-03-27). Vacuum Electronics: Components and Devices. Springer Books. ISBN 978-3-540-71928-1.

[82] "Zip Loc Bags Information". Zip-Lock-Bags.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-07-18. สืบค้นเมื่อ 2014-05-02.

[83] "The History of TV Dinners". The New York Times Company.

[84] "Acoustic Research AR-2a Loudspeakers". Black Sparrow Photography.

[85] The NSTA ready-reference guide to safer science. NSTA Press.

[86] "A sliding solution to glass-shattering South Texas winds turned into Horton Automatics". Horton Doors. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-07-12. สืบค้นเมื่อ 2014-05-02.

[87] "Mogen Circumsion". The Mogen Instrument Company.

[88] "History Of CPR". United States Mine Rescue Association. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-12-01. สืบค้นเมื่อ 2014-05-02.

[89] Gray, Sadie (August 6, 2008). "H. Tracy Hall: physical chemist and inventor". London: UTimes Newspapers Ltd. สืบค้นเมื่อ March 26, 2010.

[90] "Decatur Electronics, Inc. Company History". Decatur Electronics, Inc. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-07-23. สืบค้นเมื่อ 2014-05-02.

[91] "Floor Crane With Adjustable Legs". Google Patent Search.

[92] "Crosby-Kugler capsule". Ole Daniel Enersen.

[93] "USS NAUTILUS (SSN-571)". Sub Guru.

[94] "Reynold Johnson". Massachusetts Institute of Technology.

[95] "Milestones". Harmonic Drive AG. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-09-11. สืบค้นเมื่อ 2014-05-02.

[96] "Strain Wave Gearing". United States Patent and Trademark Office.

[97] Foner, S. "Versatile and Sensitive Vibrating-Sample Magnetometer". Rev. Sci. Instrum. 30 (7): 548–557.

[98] "Lincoln Lab's Foner, 82, and Sandholm, 76". Massachusetts Institute of Technology.

[99] "Magnetic Test Apparatus". United States Patent and Trademark Office.

[100] "Evercare Celebrates 50th Birthday and Golden Anniversary of Its Invention of The Lint Rolle". The Evercare Company. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-10-25. สืบค้นเมื่อ 2014-05-02.

[101] "Karting's Golden Summer". Crain Communications, Inc.

[102] "George C Devol". Encyclopaedia Britannica.

[103] "History of operating systems". OS Data.

[104] "Fortran". Massachusetts Institute of Technology.

[105] "Ampex VR1000A video recorder". The Science Museum.

[106] "CRI SES:" (PDF). National Space Society. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2008-10-24. สืบค้นเมื่อ 2014-05-03.

[107] "Bobcat Mourns Passing of Skid-Steer Inventor". Bobcat. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-09-14. สืบค้นเมื่อ 2014-05-03.

[108] "Laser". Massachusetts Institute of Technology.

[109] Martin, Douglas (May 11, 2007). "Theodore Maiman, 79, Dies; Demonstrated First Laser". The New York Times. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-09-26. สืบค้นเมื่อ 2014-05-03.

[110] "Memoir on Inventing the Confocal Scanning Microscope". Massachusetts Institute of Technology.

[111] "Benjamin Eisenstadt, 89, a Sweetener of Lives". The New York Times. April 10, 1996.

[112] "Stevens remembers inventor on 'Bubble Wrap Appreciation Day'". Stevens Institute of Technology. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-08-30. สืบค้นเมื่อ 2014-05-03.

[113] Saxon, Wolfgang (April 20, 1997). "Robert H. Wentorf Jr., a Chemist, Dies at 70". New York Times. สืบค้นเมื่อ May 25, 2010.

[114] Reports, Wire (November 15, 2005). "Hal Anger, 85; Inventor of Gamma Camera Used in Nuclear Medicine". LA Times. สืบค้นเมื่อ May 25, 2010.

[115] "Cryotron, a super conductive computer switch revealed". National Center for Science & Technology Communication. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-04-10. สืบค้นเมื่อ 2014-05-03.

[116] Reclaiming our health: exploding the medical myth and embracing the source of true healing. HJ Kramer.

[117] Fetal heart rate monitoring. Lippincott Williams & Wilkins.

[118] "Ty-Rap Celebrates 50 Years!". THOMAS & BETTS CORPORATION. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-08-10. สืบค้นเมื่อ 2014-05-03.

[119] "CABLE BUNDLING AND SUPPORTING STRAP". United States Patent and Trademark Office.

[120] "50th birthday of Lisp (October 1958)". Artificial Intelligence Research Institute. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-01-20. สืบค้นเมื่อ 2014-05-03.

[121] "High Performance Carbon Fibers". National Historic Chemical Landmarks. American Chemical Society. สืบค้นเมื่อ 2014-02-21.

[122] "Jack Kilby: The Chip that Jack Built". Texas Instruments.

[123] "The Farnsworth/Hirsch Fusor". Jochen Kronjaeger.

[124] "A Complete Picture: Weather Satellites and Contemporary Meteorology" (PDF). National Weather Association. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2009-03-25. สืบค้นเมื่อ 2014-05-03.

[125] "The spandex saga". Yale Herald. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2005-03-12. สืบค้นเมื่อ 2014-05-03.

[126] "About Guys and Dolls Furniture". Guys and Dolls Furniture.

[127] "Unfant's Seat". United States Patent and Trademark Office.

[128] "Artificial Turf". Purchase Green. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-12-06. สืบค้นเมื่อ 2014-05-03.

[jhuapl1-129] 129.0 ^129.1 "CSCI 321- Software Project School of Information Technology & Computer Science" (PDF). University of Wollongong. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2011-07-18. สืบค้นเมื่อ 2014-05-03.

[130] "Gregory Pincus, Father of the Pill". Population Reference Bureau. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-05-16. สืบค้นเมื่อ 2014-05-03.

[131] "Chronological Methods 10 – Obsidian Hydration Dating". University of California, Santa Barbara. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-08-10. สืบค้นเมื่อ 2014-05-03.

[132] Gray, Sadie (August 6, 2008). "Professor William Bennett: co-inventor of the gas laser". London: The Times. สืบค้นเมื่อ March 26, 2010.

[133] {Proc. IEEE, vol.50, 1697, pg. 1697, July 1962}

[134] "A Brief History of Spreadsheets". Decision Support Systems Resources.

[135] "Dan Bricklin, Co-Inventor of the Spreadsheet, Discusses How Nerds Are Like Sports Stars". The New York Observer. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-04-18. สืบค้นเมื่อ 2014-05-03.

[136] "Edward O. Thorpe". Edward Thorpe.

[137] "Events In Food History". The Nibble.

[138] Nagourney, Eric (April 2, 2002). "Neal E. Miller Is Dead at 92; Studied Brain and Behavior". The New York Times.

[139] "Communications Satellite". National Inventors Hall of Fame Foundation, Inc. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-12-05. สืบค้นเมื่อ 2014-05-04.

[140] "AUTOMATIC DUMP TYPE CHARCOAL LIGHTER". United States Patent and Trademark Office.

[141] "Nick Holonyak". Massachusetts Institute of Technology.

[142] "Nick Holonyak honored for inventing the LED". LEDs Magazine.

[143] "Nick Holonyak Jr.: 81 Years Old And Still Doing Groundbreaking Research". Electronic Design.

[144] "Electret Microphone Inventor". Famous Black Inventors. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-07-21. สืบค้นเมื่อ 2014-05-04.

[145] "Campaign to Eradicate". U.S. National Library of Medicine.

[146] "Semiconductor injection laser". Massachusetts Institute of Technology.

[147] "Diabetes: Glucose Sensors and Drug Delivery" (PDF). McMaster University. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2006-02-19. สืบค้นเมื่อ 2014-05-04.

[148] Famous Firsts: The Trendsetters, Groundbreakers and Risk-Takers Who Got America Moving!. Natalie Rompella.

[149] Famous Firsts: The Trendsetters, Groundbreakers and Risk-Takers Who Got America Moving!. Natalie Rompella.

[150] "SKATEBOARD WITH INCLINED FOOT-DEPRESSIBLE". United States Patent and Trademark Office.

[151] "1963: Douglas Engelbart Invents the Mouse". University of California at Berkeley. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-07-27. สืบค้นเมื่อ 2014-05-04.

[152] "John G. Kemeny: BASIC and DTSS: Everyone a Programmer". Columbia Univ.

[153] "The History of the Catheter". The New York Times Company.

[154] "Geosynchronous Satellite". Massachusetts Institute of Technology.

[155] Suddath, Claire (September 3, 2009). "Buffalo WIngs". Time Magazine. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-02-14. สืบค้นเมื่อ April 30, 2011.

[156] "Dr. Donald Bitzer Co-Inventor, Plasma Display". Consumer Electronics Association. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-08-15. สืบค้นเมื่อ 2014-05-06.

[157] "H. Gene Slottow Co-inventor, Plasma Display". Consumer Electronics Association.

[158] "THE MOOG SYNTHESIZER". Rewind the Fifties.

[159] "Audio, automotive and aircraft apparatus". Massachusetts Institute of Technology. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2003-03-02. สืบค้นเมื่อ 2014-05-06.

[160] "Ruth Benerito". Massachusetts Institute of Technology.

[161] "The 60s – the technology, science, and inventions". The New York Times Company.

[162] "Continuous-Wave Laser Action on Vibrational-Rotational Transitions of CO2". Physics Review Online Archive.

[163] "Liquid Crystal Display Dynamic Scattering Method". Massachusetts Institute of Technology.

[164] "Superconducting Quantum Interference Devices(SQUIDS)" (PDF). Ben-Gurion University of Negev.

[165] "6.1.4 Argon Ion (Ar+) Gas Laser". Kansas State University.

[Electronics_Timeline-166] 166.0 ^166.1 "Electronics Timeline". National Academy of Engineering.

[167] "THE HISTORY OF SNOWBOARDING". Bulgarian Ski.

[168] "Inventor of Kevlar". Famous Women Inventors.

[169] "Visionary lays into the web". BBC News. October 8, 2001. สืบค้นเมื่อ March 26, 2010.

[170] "'Giving women tech know-how'". BBC News. November 3, 2006. สืบค้นเมื่อ March 26, 2010.

[171] "History of the Fisher Space Pen". Allwrite B.V.

[172] "DEC PDP-8 minicomputer". UvA Computer Museum.

[173] "The Little-known Story Of Optical Digital Storage". Northwest Science and Technology.

[174] Bet you didn't know Jim Russell '53 pioneered compact disc technology. Reed College.

[175] Inventors and Inventions. Marshall Cavendish. September 2007.

[176] Milestones in computer science and information technology. Greenwood Publishing Group.

[177] "Inventor of the Week Archive: The Digital Compact Disc". Massachusetts Institute of Technology. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2003-04-17. สืบค้นเมื่อ 2014-05-07.

[178] "Previous Recipients of the George R. Stibitz and Edward O. Wilson Awards (1997–2009)". American Computer Museum. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-01-20. สืบค้นเมื่อ 2014-05-07.

[179] Bet you didn't know Jim Russell '53 pioneered compact disc technology. Reed College.

[180] Inventors and Inventions. Marshall Cavendish. September 2007.

[181] "6.1.9 Chemical Laser". Kansas State University.

[182] "DRAM". Massachusetts Institute of Technology. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2003-04-15. สืบค้นเมื่อ 2014-05-07.

[183] "Innovations". Lowepro. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-06-30. สืบค้นเมื่อ 2014-05-07.

[184] "Calculator History- Invention of the Hand-held Calculator". The Great Idea Finder. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-07-24. สืบค้นเมื่อ 2014-05-07.

[185] "The History of Racquetball". USA Racquetball. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-07-28. สืบค้นเมื่อ 2014-05-07.

[186] "A Brief History of Virtual Reality". University of Calgary.

[187] "Virtual Reality: A Short Introduction". www-VRL.

[188] "The Georgia Jumper" (PDF). The University of Georgia. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2010-06-10. สืบค้นเมื่อ 2014-05-07.

[189] "Zipper". Amusement Ride Extravaganza.

[190] Saslow, Linda (July 18, 1999). "..The Man Whose Stuff Is Still on the Moon". The NEw York Times.

[191] "Father of the Lunar Module Thomas Kelly Dies". Space.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2002-06-06. สืบค้นเมื่อ 2014-05-07.

[192] "Gary Starkweather – Laser Printer Inventor". United Business Media LLC. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-05-11. สืบค้นเมื่อ 2014-05-07.

[193] "Medicine and Materials" (PDF). UK Dept. for Business, Enterprise & Regulatory Reform. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2009-03-26. สืบค้นเมื่อ 2014-05-07.

[194] "Father knows best". Boeing Commercial Airplanes. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-09-06. สืบค้นเมื่อ 2014-05-07.

[195] "History of TASER Devices". TASER International, Inc. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-03-26. สืบค้นเมื่อ 2014-05-07.

[196] "Willard Boyle and George Smith". Rochester Institute of Technology.

[197] "Jack Kelley". Herman Miller. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-01-21. สืบค้นเมื่อ 2014-05-07.

[198] "Stick Method". Stick Enterprises, Inc.

[199] Encyclopedia of New Media: An Essential Reference to Communication and Technology. The Moshovitis Group. 2003. ISBN 978-0-7619-2382-4.

[200] "IEEE History Center: Norman Abramson". IEEE.

[201] The Encyclopedia of Surfing. Houghton Mifflin Harcourt.

[202] Timeless toys: classic toys and the playmakers who created them. Andrews McMeel Publishing.

[ReferenceA-203] 203.0 ^203.1 "Timeline of Computer History". Computer History Museum.

[204] Transforming Global Information and Communication Markets: The Political Economy of Innovation. MIT Press. p. 270.

[205] "The Fuzzball". David L. Mills.

[206] "Supercritical Airfoil". Century of Flight.

[207] "25th Anniversary for Microprocessor". Toronto Star.

[208] "1971: IBM fashions the floppy". CNN. June 17, 1999. สืบค้นเมื่อ May 25, 2010.

[209] Hevesi, Dennis (July 1, 2011). "George Ballas, Inventor of the Weed Whacker, Dies at 85". The New York Times.

[210] Bebop to the boolean boogie: an unconventional guide to electronics. Newnes.

[211] "A Conversation With The Inventor Of Email". Jupitermedia Corporation.

[212] "C – the Programming Language". BBC h2g2.

[213] "Magnavox Odyssey First home video game console". David Winter.

[214] "GPS" (PDF). ACSM Congress. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2011-11-03. สืบค้นเมื่อ 2014-05-10.

[215] Fundamentals of global positioning system receivers: a software approach. John Wiley and Sons.

[216] "Edward J. Hoffman, UCLA Professor and Co-Inventor of the PET Scanner, Dies at 62". UCLA. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-01-20. สืบค้นเมื่อ 2014-05-10.

[217] "Apparatus And Method For Detectin Cancer In Tissue". United States Patent and Trademark Office.

[218] "First MRI and ultrasound scanning". Benjamin S. Beck. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-11-20. สืบค้นเมื่อ 2014-05-10.

[219] "The "Indomitable" MRI". Smithsonian Institution. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-09-09. สืบค้นเมื่อ 2014-05-10.

[220] "The Nobel Prize in Physiology or Medicine 2003". Nobel Media AB.

[221] "The History, Development and Impact of Computed Imaging in Neurological Diagnosis and Neurosurgery: CT, MRI, and DTI". Internet Scientific Publications, LLC. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-09-12. สืบค้นเมื่อ 2014-05-10.

[222] "PERSONAL WATERCRAFT". Massachusetts Institute of Technology.

[223] "E-paper History: An Interview with Nick Sheridon, Father of E-paper". The Future of Things.

[224] "Stan Cohen and Herb Boyer "invented" recombinant DNA technology". DNA Learning Center.

[225] Gray, Sadie (November 21, 2008). "Carl Keith: Research chemist who co-invented the catalytic converter". London: The Times. สืบค้นเมื่อ March 26, 2010.

[226] "Tech Talk: Where'd it Come From, Anyway?". PC World. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-01-19. สืบค้นเมื่อ 2014-05-10.

[227] "Inventor of cell phone: We knew someday everybody would have one". CNN.

[228] "Human Factors Challenges In Creating a Principal Support Office System The Speech Filing System Approach" (PDF). IBM Thomas J. Watson Research Center. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2013-01-20. สืบค้นเมื่อ 2014-05-11.

[229] "Heimlich Institute". Heimlich Institute. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-03-05. สืบค้นเมื่อ 2014-05-11.

[230] "Fascinating facts about the invention of Post-it Notes by Arthur Fry and Spencer Silver in 1974". The Great Idea Finder. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-10-09. สืบค้นเมื่อ 2014-05-11.

[231] Johnston RN, Atalar A, Heiserman J, Jipson V, Quate CF (July 1979). "Acoustic microscopy: resolution of subcellular detail". Proceedings of the National Academy of Sciences of the United States of America. 76 (7): 3325–9. Bibcode:1979PNAS...76.3325J. doi:10.1073/pnas.76.7.3325. PMC 383818. PMID 291006.{{cite journal}}: CS1 maint: multiple names: authors list (ลิงก์)

[232] "1999 IEEE Jack A. Morton Award". IEEE. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2005-05-08. สืบค้นเมื่อ 2014-05-11.

[233] "June 26, 1974: By Gum! There's a New Way to Buy Gum". CondéNet, Inc. June 26, 2008.

[234] The Visual Dictionary of Photography. AVA Publishing.

[235] "Steven Sasson named to CE Hall of Fame". Let's Go Digital.

[236] "Ethernet". University of Aberdeen.

[237] "Arthur Ehrat Papers". Smithsonian Institution. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-07-20. สืบค้นเมื่อ 2014-05-11.

[238] "GORE-TEX". Massachusetts Institute of Technology.

[239] "Flying Higher and Quieter". Progressive Engineer. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-06-06. สืบค้นเมื่อ 2014-05-11.

[240] "Industrialization of the chemical oxygen-iodine laser". Harvard University.

[241] "Knock-down sofa bed with hinged mattress". Google PAtents Search.

[242] "Packaged food item and method for achieving microwave browning thereof". Google Patents Search.

[243] "Smart Computing Encyclopedia". Sandhills Publishing Company.

[244] "Winglets". NASA.

[245] "Polar Fleece". Stitch n Save. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-05-05. สืบค้นเมื่อ 2014-05-11.

[246] "Control-Alt-Delete". Massachusetts Institute of Technology.

[247] "Total Internal Reflection Fluorescence for Single Molecule Studies" (PDF). University of Illinois at Urbana-Champaign. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2009-03-26. สืบค้นเมื่อ 2014-05-12.

[248] "The Space Shuttle's First Flight: STS-1". NASA.

[249] "Splat attack". BBC.

[250] "A History of the GUI". Condé Nast Digital, Inc.

[251] "Paul Baran Invents Packet Switching". Living Internet.

[252] "UCLA's Leonard Kleinrock to receive National Medal of Science". University of California. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-12-04. สืบค้นเมื่อ 2014-05-12.

[253] "ARPANET". Timeline of Innovations. SRI International. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-07-02. สืบค้นเมื่อ 2013-07-01.

[254] "Computing History, 1981–1985: The Internet" (PDF). Computing Networking Services. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2014-05-05. สืบค้นเมื่อ 2014-05-12.

[255] "A Brief History of the Internet". University System of Georgia.

[256] "Digital Cash" (PDF). University of Birmingham. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2010-08-15. สืบค้นเมื่อ 2014-05-12.

[257] "Lasers Gove New Life to Old LP's". Reed Business Information. 1988-02-18. {{cite journal}}: Cite journal ต้องการ |journal= (help)

[258] "Milestones". InfoComm International.

[259] Pressure Sensitive User Interface WithAffective Measurement (PDF). New York University.

[260] "Kary Mullis – biography". KaryMullis.com. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-01-19. สืบค้นเมื่อ 2014-08-13.

[261] Methods in Modern Biophysics. Springer.

[262] "Coarse approach positioning device". United States Patent and Trademark Office.

[263] "Introduction to StereoLithography Apparatus (SLA)". Rapid Product Development Resource Centre. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-10-04. สืบค้นเมื่อ 2014-08-13.

[264] "Digital micromirror device – DMD". National Inventors Hall of Fame. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-01-08. สืบค้นเมื่อ 2014-08-13.

[265] "Beginner's Introduction to Perl(part 1)". Perl.com.

[266] Horovitz, Bruce (February 19, 2003). "Success stunned pilot inventor". USA Today.

[267] Horovitz, Bruce (February 18, 2003). "Taking the 'lug' out of luggage changed everything". USA Today.

[268] "Highlights of Fused Deposition Modeling". Engineering Fundamentals.

[269] "History of Tcl". John Ousterhout. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-07-06. สืบค้นเมื่อ 2014-08-13.

[270] "Ballistic-electron-emission microscopy: A nanometer-scale probe of interfaces and carrier transport". University of Pennsylvania.

[271] "EBIT – The Electron Beam Ion Trap". Livermore Berkeley National Laboratory.

[272] Weber, Bruce (May 13, 2008). "Murray Jarvik, 84, Whose Research Helped Lead to Nicotine Patch, Dies". New York Times. สืบค้นเมื่อ May 25, 2010.

[273] "One Size Does Not Fit All: Tailoring Protection with Data Proximate Security". Techworld.

[274] "SPI Resin Identification Code – Guide to Correct Use". Society of the Plastics Industry. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-05-16. สืบค้นเมื่อ 2014-08-13.

[275] "Philip K. Katz". Biographies Pioneers of computing A-J. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-06-02. สืบค้นเมื่อ 2014-08-13.

[276] "US Patent 5053090 – Selective laser sintering with assisted powder handling". Patent Storm. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-08-13. สืบค้นเมื่อ 2014-08-13.

[277] "Electromagnetic door lock device". Patent Universe (Beta). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-03-08. สืบค้นเมื่อ 2014-08-13.

[278] "20th Century Inventors: Sulfur Lamp". Smithsonian Institution.

[279] "James McLurkin". Massachusetts Institute of Technology.

[1]

[2]

[3]

[4]

[5]

[6]

[7]

[8]

[9]

[10]

[11]

[12]

[13]

[14]

[15]

[16]

[17]

[18]

[19]

[20]

[21]

[22]

[23]

[24]

[25]

[26]

[27]

[28]

[29]

[30]

[31]

[32]

[33]

[34]

[35]

[36]

[37]

[38]

[39]

[40]

[41]

[42]

[43]

[44]

[45]

[46]

[47]

[48]

[49]

[50]

[51]

[52]

[53]

[54]

[55]

[56]

[57]

[58]

[59]

[60]

[61]

[62]

[63]

[64]

[65]

[66]

[67]

[68]

[69]

[70]

[71]

[72]

[73]

[74]

[75]

[76]

[77]

[78]

[79]

[80]

[81]

[82]

[83]

[84]

[85]

[86]

[87]

[88]

[89]

[90]

[91]

[92]

[93]

[94]

[95]

[96]

[97]

[98]

[99]

[100]