จันฟรังโก โซลา
ข้อมูลส่วนตัว | |||
---|---|---|---|
ชื่อเต็ม | จันฟรังโก โซลา[3] | ||
วันเกิด | [3] | 5 กรกฎาคม ค.ศ. 1966||
สถานที่เกิด | Oliena ประเทศอิตาลี | ||
ส่วนสูง | 1.68 m (5 ft 6 in) | ||
ตำแหน่ง | กองหน้า | ||
สโมสรเยาวชน | |||
1980–1983 | Corrasi Oliena | ||
สโมสรอาชีพ* | |||
ปี | ทีม | ลงเล่น | (ประตู) |
1984–1986 | Nuorese | 31 | (10) |
1986–1989 | Torres | 88 | (21) |
1989–1993 | นาโปลี | 105 | (32) |
1993–1996 | ปาร์มา | 102 | (49) |
1996–2003 | เชลซี | 229 | (59) |
2003–2005 | คัลยารี | 74 | (22) |
รวม | 629 | (193) | |
ทีมชาติ | |||
1991–1997 | อิตาลี | 35 | (10) |
จัดการทีม | |||
2008–2010 | เวสต์แฮมยูไนเต็ด | ||
2011–2012 | อิตาลี อายุไม่เกิน 16 ปี | ||
2012–2013 | วอตฟอร์ด | ||
2014–2015 | คัลยารี | ||
2015–2016 | อัลอะเราะบี | ||
2016–2017 | เบอร์มิงแฮมซิตี | ||
2018–2019 | เชลซี (ผู้ช่วยผู้ฝึกสอน) | ||
*นัดที่ลงเล่นและประตูที่ยิงให้แก่สโมสรเฉพาะลีกในประเทศเท่านั้น |
จันฟรังโก โซลา (อิตาลี: Gianfranco Zola; เกิด 5 กรกฎาคม ค.ศ. 1966) เป็นอดีตนักฟุตบอลและผู้จัดการทีมชาวอิตาลี
ประวัติ
[แก้]ในปี 2532 เล่นฟุตบอลให้กับทีมนาโปลี ในช่วงเวลาเดียวกับที่ดิเอโก มาราโดนา นักเตะชื่อดังชาวอาร์เจนตินา ยังอยู่กับทีมนาโปลี เขาเล่นให้กับนาโปลีอยู่นานถึง 4 ปี จากนั้นก็ย้ายมาอยู่กับทีมปาร์มา ทีมชั้นนำของอิตาลี และช่วยทำประตูให้ทีมปาร์มาคว้าแชมป์คัพวินเนอร์สคัพในปี 2537 เขาเล่นได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะลูกฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษ
โซลาถือเป็นราชาลูกฟรีคิกคนหนึ่งของโลกลูกหนังในขณะนั้นทีเดียว เขาเผยเคล็ดลับของการยิงลูกฟรีคิกว่า ฝีเท้าการยิงลูกฟรีคิกที่ยอดเยี่ยมดังที่เห็นนี้ ส่วนหนึ่งลอกเลียนแบบและศึกษาวิธีการยิงมาจากมาราโดนานั่นเอง
กระทั่งกลางฤดูกาล 2540 รืด คึลลิต ผู้จัดการทีมเชลซี ซื้อตัวโซลามาร่วมทีมด้วยค่าตัว 4.5 ล้านปอนด์ และเขาสามารถโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม จนกลายเป็นขวัญใจของแฟนบอลเชลซีอย่างรวดเร็ว เขาพาทีมคว้าถ้วยเอฟเอคัพ และสามารถคว้าตำแหน่งนักเตะต่างชาติยอดเยี่ยมของพรีเมียร์ลีกแม้จะเพิ่งเล่นได้แค่ครึ่งฤดูกาล
สำหรับการเล่นฟุตบอลให้กับทีมชาตินั้น ในช่วงฟุตบอลโลก 2537 ที่สหรัฐอเมริกา โซลาได้ลงเล่นในฐานะตัวสำรองของโรแบร์โต บัจโจ และได้ลงเล่นเพียง 12 นาทีในนัดพบไนจีเรีย ก่อนที่เขาจะได้รับใบแดงไล่ออกจากสนาม ต่อมาหลังจากบัจโจได้รับบาดเจ็บและฝีมือตก โซลาจึงได้ตำแหน่งตัวจริงในทีมชาติแทนที่บัจโจ แต่ในขณะเดียวกันเขาหลุดจากตำแหน่งตัวจริงในทีมเอซี มิลาน โซลาเป็นตัวหลักในแผงหน้าของทีมชาติอิตาลีและเชลซี และนำความสำเร็จมาสู่ต้นสังกัด โดยเฉพาะในทีมเชลซีนั้นโซลานำทีมผ่านเข้าสู่รอบลึก ๆ ของถ้วยเอฟ เอ คัพ อีกทั้งในพรีเมียร์ ลีกปี 2540 ก็ติดอยู่ในกลุ่มลุ้นแชมป์ หลังจากนั้นโซลาก็ย้ายเข้าสังกัดคัลยารี สโมสรฟุตบอลเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในอิตาลี และยังโชว์ฟอร์มเป็นขวัญใจของชาวอิตาลีเช่นเดิม
ปัจจุบันยุติทั้งการเล่นฟุตบอลและการเป็นผู้จัดการฟุตบอลแล้ว
อ้างอิง
[แก้]- ↑ "quirinale.it". quirinale.it. 27 December 2003. สืบค้นเมื่อ 29 April 2010.
- ↑ "Chelsea legend Zola awarded OBE". BBC. 1 November 2004. สืบค้นเมื่อ 20 December 2006.
- ↑ 3.0 3.1 "Zola: Gianfranco Zola: Manager". BDFutbol. สืบค้นเมื่อ 22 December 2017.
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]- สถิติของ จันฟรังโก โซลา ที่ Soccerbase
- จันฟรังโก โซลา สถิติอาชีพผู้จัดการ ที่ Soccerbase
- Gianfranco Zola at Footballdatabase.com
- จันฟรังโก โซลา ที่ TuttoCalciatori.net (ในภาษาอิตาลี)
- "Profile at FIGC.it" (ภาษาอิตาลี). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 26 November 2002. สืบค้นเมื่อ 30 August 2009.