ทรอน ล่าข้ามโลกอนาคต
ทรอน ล่าข้ามโลกอนาคต | |
---|---|
ใบปิดภาพยนตร์ | |
กำกับ | โจเซฟ โคซินสกี |
บทภาพยนตร์ | เอ็ดเวิร์ด คิตซิส อดัม โฮโรวิตซ์ |
เนื้อเรื่อง | เอ็ดเวิร์ด คิตซิส อดัม โฮโรวิตซ์ ไบรอัน คลุกแมน ลี สเติร์นทัล |
สร้างจาก | ตัวละคร โดย สตีเวน ลิสเบอร์เกอร์ บอนนี แมคเบิร์ด |
อำนวยการสร้าง | ฌอน ไบเลย์ เจฟฟรีย์ ซิลเวอร์ สตีเวน ลิสเบอร์เกอร์ |
นักแสดงนำ | เจฟ บริดเจส การ์เรต เฮดลันด์ บรูซ บ็อกซ์ลีทเนอร์ โอลิเวียร์ ไวลด์ ไมเคิล ชีน |
กำกับภาพ | คลอดิโอ มิรันดา |
ตัดต่อ | เจมส์ เฮย์กู้ด |
ดนตรีประกอบ | ดาฟต์พังก์ |
บริษัทผู้สร้าง | วอลท์ ดิสนีย์ พิคเจอร์ส ฌอน ไบเลย์ โปรดักชันส์ |
ผู้จัดจำหน่าย | วอลท์ ดิสนีย์ สตูดิโอส์ โมชัน พิกเจอส์ |
วันฉาย | 17 ธันวาคม ค.ศ. 2010[1] 23 ธันวาคม ค.ศ. 2010 |
ความยาว | 125 นาที[2] |
ประเทศ | สหรัฐอเมริกา |
ภาษา | ภาษาอังกฤษ |
ทุนสร้าง | 170 ล้านดอลลาร์สหรัฐ[3][4] |
ทำเงิน | 400.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ[4][5] |
ก่อนหน้านี้ | ทรอน (1982) |
ข้อมูลจาก All Movie Guide | |
ข้อมูลจาก IMDb | |
ข้อมูลจากสยามโซน |
ทรอน ล่าข้ามโลกอนาคต (อังกฤษ: Tron: Legacy) เป็นภาพยนตร์ไซไฟของดิสนีย์ ภาคต่อของ ทรอน ภาพยนตร์ที่ออกฉายในปี พ.ศ. 2525 ทรอนภาคนี้จะออกฉายในระบบปกติ สามมิติ สามมิติเรียลดี และไอแมกซ์สามมิติ
เนื้อเรื่อง
[แก้]ในปี ค.ศ. 1989 เควิน ฟลินน์ (รับบทโดย เจฟฟ์ บริดเจส) วิศวกรซอฟต์แวร์และซีอีโอบริษัทเอ็นคอมอินเตอร์เนชันแนล (ENCOM International) หายตัวไป ยี่สิบห้าปีต่อมา แซม บุตรชายของเขา (รับบทโดยการ์เรต เฮดลันด์) ผู้ถือหุ้นส่วนของบริษัทเอ็นคอมที่รับช่วงต่อจากบิดา เขามีความสนใจในบริษัทแห่งนี้น้อยมาก นอกเหนือไปเสียจากการทำเรื่องตลกต่อคณะกรรมการบริหารบริษัทเป็นประจำทุกปี อลัน แบรดเลย์(รับบทโดย บรูซ บ็อกซ์เลตเนอร์) เพื่อนของบิดาแซมและผู้บริหารบริษัทเอ็นคอมมาเยี่ยมแซม และกล่าวว่าเขาเพิ่งได้รับข้อความเพจเจอร์ซึ่งติดต่อมาโดยบิดาของเขาว่าอยู่ที่ร้านเกมส์เดิมของฟลินน์ ทำให้แซมเริ่มต้นออกค้นหาปริศนาการหายตัวไปของบิดา ขณะที่แซมสำรวจร้านเกมอยู่นั้น ก็ได้พบห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ลับในชั้นใต้ดินและได้ส่งให้เขาเข้าไปอยู่ในกริดโดยที่เขาไม่ได้ตั้งใจ
แซมถูกจับและบังคับให้ลงสู่สนามแข่งขัน แซมตกหลุมพรางของรินซ์เลอร์ แชมเปียนของเกมดังกล่าว ซึ่งต่อมาได้ประกาศว่าแซมไม่ใช่โปรแกรม หากทว่าเป็นผู้ใช้ (User) หรือมนุษย์ รินซ์เลอร์จับเขาไปส่งคลู โปรแกรมคัดลอกของบิดาแซมผู้ควบคุมกฎในกริด คลูหมายมั่นจะฆ่าแซมในเกมไลต์ไซเคิล แต่ควอร่า (รับบทโดย โอลิเวีย ไวลด์) ได้เข้าช่วยเหลือเขาระหว่างการแข่งขัน และนำแซมไปสู่ย่านพ้นกริด และได้พบกับเควิน ฟลินน์ บิดาของเขาซึ่งเผยความจริงว่าคลูทรยศต่อเขา เอาชนะทรอน และเข้าควบคุมกริด ทำให้เควินต้องคอยหลบซ่อนตัวตลอดเวลา คลูต้องการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ไอโซมอร์ฟิก อัลกอริทึมส์ (ISOs) ซึ่งเป็นโปรแกรมที่สามารถให้กำเนิดทายาทต่อไปได้ และเป็นกุญแจสำคัญในการพลิกปริศนาของวิทยาศาสตร์ ศาสนา และการแพทย์ ซึ่งคลูมีความคิดว่าพวกนี้คือความไม่สมบูรณ์ เมื่อประตูเชื่อมกริดถูกปิดลง แซมจึงเสมือนถูกกักขังภายในกริด สิ่งประดิษฐ์ของเขาเองจนกระทั่งแซมได้เข้ามาและเปิดประตูเชื่อมกริดอีกครั้งหนึ่งจากด้านนอก (โลกมนุษย์)
เพื่อที่จะแก้ปัญหาในการกลับสู่โลกมนุษย์เขาจำเป็นต้องลบโปรแกรมของคลู แซมตัดสินใจกลับเข้าไปยังกริดและเข้าไปยัง End of Line Club เพื่อหาโปรแกรมที่ชื่อซุส ซึ่งเขาเชื่อว่าจะสามารถให้ความปลอดภัยแก่เขาจนกระทั่งถึงประตูเชื่อมกริดได้ คลับแห่งนี้เป็นของแคสเตอร์ (รับบทโดย ไมเคิล ชีน) ซึ่งได้เปิดเผยในภายหลังว่าเขาเองคือซุสและได้ทรยศต่อแซมไปเป็นผู้ปกป้องคลู แม้ว่าเควินกับควอราจะเข้ามาช่วยแซมได้ทันเวลา แต่ทว่าควอราได้รับบาดเจ็บและซุสเองก็สามารถขโมยดิสก์ของเควิน ซึ่งถือเป็นดิสก์หลักหรือเป็นกุญแจสำคัญที่จะเผยการทำงานของกริด ซุสเจรจาต่อรองกับคลู หากแต่คลูก็ได้นำดิสก์ของเควินไปและทำลายคลับทิ้ง
เขารีบไปยังเรือขนส่ง เควินช่วยรักษาควอราและเผยว่าเธอเป็น ISO คนสุดท้าย ทั้งสามได้เข้ามายังสถานีเรือรบบินโดยไม่ได้ตั้งใจ เมื่อควอรายอมให้รินซ์เลอร์จับตัวเธอไปเพื่อเป็นตัวล่อให้ทั้งสอง (เควินและแซม) ผ่านเข้าไปในสถานีได้ เควินช่วยฟื้นฟูความทรงจำของรินซ์เลอร์ส่งถูกแปลงโปรแกรมจากทรอน คลูสั่งกองทัพของเขาเพื่อเข้าสู่โลกแห่งความจริงและปฏิรูปให้เป็นโลกแห่งความสมบูรณ์แบบ
แซมช่วยเหลือควอราและยึดดิสก์ของเควินคืน และยึดยานของคลูหลบหนี คลู ผู้คุ้มกัน และรินซ์เลอร์ได้ขับเครื่องเจ็ทไล่ตาม ทั้งสามได้ทำลายผู้คุ้มกันของคลู ระหว่างความสับสนในการต่อสู้นั้น รินซ์เลอร์ได้รับความทรงจำกลับคืนมาว่าตนคือทรอน เขาประกาศว่าจะ "ต่อสู้เพื่อผู้ใช้" และเข้าโจมตีไลต์เจ็ทของคลู ทำให้พาหนะทั้งสองได้รับความเสียหาย รินซ์เลอร์ตกลงสู่ทะเลจำลอง ซึ่งทำให้เกราะสีส้มของเขาเปลี่ยนเป็นสีขาวซึ่งเป็นชุดเดิมของเขา (ทรอน) คลูใช้เรือบินสำรองของรินซ์เลอร์และเข้าสู่ประตูเชื่อมกริดเป็นคนแรก เมื่อแซม เควิน และควอรามาถึงประตู จึงได้เกิดการต่อสู้ขึ้น เควินจึงยอมเสียสละตนเองโดยการรวมตัวกับคลูเพื่อให้แน่ใจว่าแซมกับควอราจะสามารถหนีออกไปได้ ทั้งสองเข้ารวมกันและระเบิดออกในขณะที่ควอราใช้ดิสก์ของเควินในการย้ายโอนตนเองออกไปสู่โลกแห่งความเป็นจริง
กลับมาสู่ห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ชั้นใต้ดินของร้านเกมฟลินน์ แซมบันทึกโปรแกรมกริดในแฟลชไดรฟ์ของเขา เขาพบอลันและกล่าวว่าเขาจะเริ่มทำงานที่เอ็มคอม และจะควบคุมผู้ถือหุ้นส่วนทั้งหมด เขาจะเสนออลันให้เป็นประธานคณะกรรมการบริหาร แซมออกมาจากร้านเกมพร้อมควอรา ซึ่งได้เข้ามาสู่โลกแห่งความจริง ทั้งคู่ขับมอเตอร์ไซค์ของแซมออกไป ในขณะที่ควอราได้ชื่นชมความงามของทัศนียภาพในโลกมนุษย์เป็นครั้งแรก
นักแสดง
[แก้]- เจฟ บริดเจส แสดงเป็น เควิน ฟลินน์ ผู้บริหารบริษัทเอนคอม เจ้าของเกมทรอน ที่หายสาบสูญไปเมื่อ 25 ปีที่แล้ว และคลู 2 โปรแกรมแฮกที่พัฒนามาจากคลูในภาคที่แล้ว
- การ์เรต เฮดลันด์ แสดงเป็น แซม ฟลินน์ ลูกชายของเควิน ผู้ออกตามหาพ่อของเขาในโลกดิจิทัล
- บรูซ บ็อกซ์ลีทเนอร์ แสดงเป็น อลัน แบรดลีย์ ผู้บริหารบริษัทเอนคอม เพื่อนสนิทของเควิน และทรอน โปรแกรมรักษาความปลอดภัยในเกมทรอน
- โอลิเวียร์ ไวลด์ แสดงเป็น ควอรา โปรแกรมเสมือน ผู้นำทางแซมในโลกเกมทรอน
- ไมเคิล ชีน แสดงเป็น แคสเตอร์ โปรแกรมที่ทำงานในส่วนของผับเอนด์ออฟเดอะไลน์
- ดาฟต์พังก์ แสดงเป็น โปรแกรมเอ็มพีสามในผับเอนด์ออฟเดอะไลน์
- ซีเลียน เมอร์ฟี่ แสดงเป็น เอ็ดเวิร์ด ดิลลิงเจอร์ จูเนียร์ ลูกชายของ เอ็ด ดิลลิงเจอร์ หนึ่งในผู้บริหารบริษัทเอนคอมที่มีบทบาทในภาคที่แล้ว
งานสร้างภาพยนตร์
[แก้]ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
การตอบรับ
[แก้]ทรอนภาคนี้ได้รับเสียงวิจารณ์ที่เป็นไปในแง่บวก แต่ก็มีเสียงวิจารณ์บางส่วนว่าเทคนิคพิเศษมีความโดดเด่นจนกลืนตัวละครและเนื้อเรื่องไป นอกจากนี้ ยังทำรายได้เปิดตัวเป็นอันดับหนึ่งในบ็อกซ์ออฟฟิศของอเมริกา ด้วยรายได้ 48.5 ล้านดอลลาร์ โดยในวันแรกทำรายได้ 18 ล้านดอลลาร์ [ต้องการอ้างอิง]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ "Tron: Legacy". DubaiFilmFest.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-12-05. สืบค้นเมื่อ December 9, 2010.
- ↑ Ivan-Zadeh, Larushka. "Tron: Legacy - The grid game that unfortunately lacks spark". Metro. สืบค้นเมื่อ May 6, 2012.
- ↑ Fritz, Ben. "'How Do You Know' flops; 'Tron' doesn't; and like the bear himself, 'Yogi' is soft". Los Angeles Times. Tribune Company. สืบค้นเมื่อ December 19, 2010.
- ↑ 4.0 4.1 อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อBoxOfficeMojo
- ↑ "Tron: Legacy - Box Office Data, Movie News, Cast Information". The Numbers. Nash Information Services. สืบค้นเมื่อ April 8, 2011.