เมื่อช่วงเทศกาลตรุษจีนใกล้จะมาถึง หากว่าบ้านใดที่เป็นชาวไทยเชื้อสายจีนก็จะต้องตระเตรียมข้าวของไหว้ตรุษจีนสำหรับช่วงเทศกาลกันให้ยกใหญ่ หรือบางบ้านถึงแม้ว่าจะไม่ได้มีเชื้อสายจีนโดยตรง แต่ก็นับว่าเป็นช่วงเวลาสำคัญที่เราจะได้จัดสำรับอาหารสำหรับไหว้เพื่อเป็นการทำบุญใหญ่ให้กับบรรพบุรุษของเราที่ได้ล่วงลับไปแล้ว หลายคนรู้ดีว่าขั้นตอนการไหว้ประกอบกับสิ่งที่ต้องนำมาไหว้มีอะไรบ้างและจำนวนกี่อย่าง แต่จะมีสักกี่คนที่จะรู้ความหมายที่แท้จริงของอาหารที่เรานำมาเข้าพิธีในเทศกาลสำคัญแบบนี้ เพื่อให้ทุกอย่างกระจ่างขึ้น ลองมาอ่านความหมายของของไหว้ตรุษจีนชนิดต่างๆ ที่นำมาใช้กัน จะได้ถึงบางอ้อ
ของไหว้ตรุษจีน
ในเทศกาลตรุษจีนจะมีการไหว้ 2 อย่างด้วยกัน คือ การไหว้เจ้าที่ และการไหว้บรรพบุรุษ ซึ่งทั้ง 2 อย่างนี้ มีอาหารที่นำมาใช้ประกอบการไหว้แตกต่างกัน
ของไหว้เจ้าที่
ประกอบไปด้วยของคาว ได้แก่ หมู เป็ด ไก่ ตับ ปลา ส่วนเรื่องปริมาณก็แล้วแต่ว่าเราสะดวกแบบไหน จะมาก หรือจะน้อย
- ไหว้ 3 อย่าง เรียกว่า ชุดซาแซ ประกอบด้วย หมู เป็ด ไก่
- ไหว้ 5 อย่าง เรียกว่า ชุดโหงวแซ ประกอบด้วย หมู เป็ด ไก่ ตับ ปลา
- ขนมไหว้ ได้แก่ ฮวกก้วย (ขนมถ้วยฟู) คักท้อก้วย (ขนมกู๋ช่าย) เป็นไส้ชนิดใดก็ได้
- ขนมอันจับ ซาลาเปา เน้นว่าเป็นขนมที่มีสีชมพู หรือมีแต้มจุดสีแดง
- ขนมไหว้พิเศษ ได้แก่ ขนมเข่ง ขนมทีน ต้องมีขนม 2 ชนิดนี้เป็นหลัก ห้ามลืม !
- ผลไม้ ได้แก่ ส้ม กล้วยทั้งหวี แนะนำให้เลือกหวีที่เป็นสีเขียว องุ่น แอปเปิ้ล ชมพู่ และลูกพลับ
- เครื่องดื่ม ได้แก่ น้ำชา 5 ที่ หากไหว้ของคาว แนะนำให้ไหว้เป็นเหล้าด้วยก็ได้
- กระดาษเงิน กระดาษทอง ชุดไหว้เจ้าที่
- ธูปสำหรับไหว้ คนละ 5 ดอก
แนะนำ จำนวนชนิดของขนมไหว้จะนิยมให้สอดคล้องกับของคาว อาทิ ไหว้ของคาว 3 อย่าง ขนม 3 อย่าง ผลไม้ 3 อย่าง
ของไหว้บรรพบุรุษ
ประกอบไปด้วยของคาว ได้แก่ หมู เป็ด ไก่ ตับ ปลา ส่วนเรื่องปริมาณก็แล้วแต่ว่าเราสะดวกแบบไหน จะมาก หรือจะน้อย
- ไหว้ 3 อย่าง เรียกว่า ชุดซาแซ ประกอบด้วย หมู เป็ด ไก่
- ไหว้ 5 อย่าง เรียกว่า ชุดโหงวแซ ประกอบด้วย หมู เป็ด ไก่ ตับ ปลา
- ขนมไหว้ ได้แก่ ฮวกก้วย (ขนมถ้วยฟู) คักท้อก้วย (ขนมกู๋ช่าย) เป็นไส้ชนิดใดก็ได้
- ขนมอันจับ ซาลาเปา เน้นว่าเป็นขนมที่มีสีชมพู หรือมีแต้มจุดสีแดง
- ขนมไหว้พิเศษ ได้แก่ ขนมเข่ง ขนมทีน ต้องมีขนม 2 ชนิดนี้เป็นหลัก ห้ามลืม !
- ผลไม้ ได้แก่ ส้ม กล้วยทั้งหวี แนะนำให้เลือกหวีที่เป็นสีเขียว องุ่น แอปเปิ้ล ชมพู่ และลูกพลับ
- เครื่องดื่ม ได้แก่ น้ำชา 5 ที่ หากไหว้ของคาว แนะนำให้ไหว้เป็นเหล้าด้วยก็ได้ จัดเป็น 5 ที่เช่นกัน
- กระดาษเงิน กระดาษทอง จะต้องมีอ่วงแซจิ่วสำหรับเป็นใบเบิกทางบรรพบุรษให้ลงมารับของไหว้
- ทองแท่งสำเร็จรูป แบงค์กงเต็ด ค้อซี ฯลฯ จะมาก หรือน้อยตามสะดวก
- ธูปสำหรับไหว้ คนละ 3 ดอก
แนะนำ จำนวนชนิดของขนมไหว้จะนิยมให้สอดคล้องกับของคาว อาทิ ไหว้ของคาว 3 อย่าง ขนม 3 อย่าง ผลไม้ 3 อย่าง
ความหมายของอาหารสำหรับไหว้ตรุษจีน
- หมู หมายถึง ความมั่งคั่งด้วยความอ้วนของหมู สะท้อนถึงความกินดี อยู่ดี
- ไก่ มีมงคลอยู่ 2 อย่าง ได้แก่
- หงอนไก่ สื่อถึงหมวกขุนนาง มีความหมายมงคลในแบบจีนแสดงถึงความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน
- ไก่ขันตรงเวลาทุกเช้า สะท้อนถึงการรู้งาน
- ตับ ในคำจีนออกเสียงว่า กัว ซึ่งพ้องเสียงกับคำว่า กัว หมายถึง ขุนนาง
- ปลา คนจีนแต้จิ๋วเรียกว่า ฮื้อ ซึ่งมีคำนี้อยู่ในวลีมงคล อู่ ฮื้อ อู่ ซึ้ง หมายถึง ให้เหลือกินเหลือใช้ ไหว้ปลาก็เพื่อให้มีเงินไว้เหลือกิน เหลือใช้มากๆ
- กุ้งมังกร ด้วยรูปลักษณ์ของหัวกุ้งที่ดูใหญ่ มีก้ามโต ให้ความรู้สึกถึงอำนาจวาสนา แต่เมื่อกุ้งมังกรเกิดหายากจึงมีการเปลี่ยนมาไหว้เป็ดแทน แต่สำหรับคนจีนแต้จิ๋วเปลี่ยนจากการไหว้ด้วยกุ้งมังกรมาเป็นปลาหมึกแห้งแทน
- ปลาหมึกแห้ง หมายถึง เพื่อให้มีความรู้ เป็นการอวยพรให้เป็นบัณฑิต หรือเป็นผู้มีความรู้
- ส้ม เป็นผลไม้ที่ขาดไม่ได้ หมายถึง โชคลาภ วาสนา
- กล้วย หมายถึง การดึงโชคลาภเข้าบ้าน ให้มีลูกมีหลานเต็มบ้าน
- แอปเปิ้ล หมายถึง โชคดีมีสุข สุขภาพแข็งแรง
- สาลี่ หมายถึง เงินทองไหลมาเทมา
- องุ่น หมายถึง ความงอกงาม
- สับปะรด คนจีนแต่จิ๋วเรียกว่า อั้งไล้ หมายถึง เรียกสีแดงมา ซึ่งสีแดงนั้นคนจีนถือว่าเป็นสีของโชค ความเป็นมงคล ประมาณว่าให้เรียกโชคลาภเข้ามา คนจีนทางใต้นิยมไหว้สับปะรดมาก
- ขนมเข่ง หมายถึง ให้มีเพื่อนมาก
- ขนมเทียน หมายถึง แสงสว่าง ความรุ่งเรือง
- ซาลาเปา หมายถึง ห่อโชค ห่อลาภ
- ขนมสาลี่ หมายถึง ความเจริญรุ่งเรือง ความเฟื่องฟู
- ขนมถ้วยฟู หมายถึง ความเจริญรุ่งเรือง ความเฟื่องฟู
- ขนมไข่ หมายถึง การเจริญเติบโต
นอกจากอาหารที่ต้องจัดเตรียมแล้ว การไหว้ตรุษจีน ต้องคำนึงถึงทิศและฤกษ์ยามด้วย เพราะชาวจีนนั้นให้ความสำคัญกับฮวงจุ้ยเป็นอันดับแรก เวลาไหว้ตรุษจีนที่ดีควรเป็นเวลาตั้งแต่ ตี 5 - 6 โมงครึ่ง ของช่วยเช้าของวัน